โฆษกกองทัพเรือ ย้ำ เรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ เกี่ยวโยงยุทธศาสตร์ชาติ ใช้งบกองทัพปี 62 ชี้ 6,100 ล้าน จ่ายตามงวดสัญญา แจง การจัดซื้อยุทโธปกรณ์ด้วยวิธีรอบคอบ ถูกต้อง
วันที่ 1 เม.ย. 2563 พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ และโฆษกกองทัพเรือ ให้สัมภาษณ์ในรายการ ถามตรงๆ กับ จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ กรณีการซื้อเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ งบประมาณ 6,100 ล้านบาท ว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องอนุญาตให้ทำ เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติที่ต้องมีการคุ้มครองเส้นทางคมนาคมทางทะเล ปกป้องสิทธิอธิปไตย เขตทางทะเลที่ทับซ้อนกันอยู่หลายประเทศ ย้ำว่าเรื่องที่กำลังถูกวิจารณ์ในช่วงนี้ ไม่ใช่การขอจัดซื้อ เพราะมีการลงนามไปแล้วตั้งแต่ 9 ก.ย. 2562 ในส่วนของงบประมาณปี 2562 ซึ่งจำนวนเงิน 6,100 ล้านบาท เป็นการจ่ายตามงวดงาน ไม่ใช่จ่ายครั้งเดียว ตามสัญญาแบ่งจ่าย 10 งวดกว่าๆ โดยงวดแรกจ่ายไปแล้วประมาณ 15% ของเงินรวม และเรือลำนี้มีแผนจะมาถึงไทยปี 2565
เรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ เป็นเรือช่วยรบประเภทหนึ่ง ทำงานประกอบกับกองเรือ เป็นเรือสนับสนุนการปฏิบัติการเรือต่างๆ รวมถึงเรือดำน้ำด้วย ถ้ามีก็จะช่วยได้มาก เป็นหลักนิยมกองเรือใช้ทั่วโลก เป็นการทำงานรูปแบบของยุทโธปกรณ์ยุคใหม่ ถึงไม่มีเรือดำน้ำก็มีเรือลำนี้ได้ และตอนนี้เรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ 1 ลำ ยังเพียงพอ และยังมีขีดความสามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างมากมาย รวมถึงการรักษาพยาบาลด้วย เพราะผ่าตัดในเรือลำนี้ได้ด้วย
พร้อมกันนี้ พล.ร.ท.ประชาชาติ ข้องใจว่า ภายหลังการชี้แจงในเรื่องนี้ไปแล้วว่าไม่ใช่การจัดซื้อเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ แต่เหตุใดจึงยังมีการพูดว่าเป็นการจัดซื้อ และเอกสารที่มีการเผยแพร่ออกมาก็ไม่ได้ยื่นเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ครม. เป็นเพียงเอกสารเตรียมการ ขณะที่ตามแผนเดิมจะเริ่มไปที่จีนช่วงเวลา 2-3 เดือนข้างหน้า แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในช่วงนี้ หากยังไม่ดีขึ้นก็อาจจะต้องเลื่อนไปก่อน ซึ่งถ้าฝ่ายเรายังไปไม่ได้ อาจจะให้อู่เรือที่จีนดำเนินการก่อสร้างไปก่อนได้ อยู่ที่การตกลงกัน
...
“การใช้จ่ายของกองทัพ เป็นไปตาม พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี มีแผนการใช้งานที่ตกลงกันไปแล้ว จะเลื่อนตามอำเภอใจคงเป็นไปไม่ได้ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายคณะเดินทางไปตรวจการทำงาน กำกับดูแลโครงการ อยู่ในวงเงินรวมหมดแล้ว แต่ละครั้งจะเดินทางไปประมาณ 10-15 ท่าน และเบี้ยเลี้ยงไปต่างประเทศได้วันละ 3,000 บาท ไม่ได้มากมาย”
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าในสถานการณ์เช่นนี้มีแผนจะทบทวนเรื่องการซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2 และ 3 โฆษกกองทัพเรือ ตอบว่า นโยบายเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และสถานการณ์ปัจจุบันที่มากระทบเป็นเรื่องในระดับหนึ่งเท่านั้น การจ่ายเงินตามสัญญาก็มีการดำเนินการเป็นขั้นตอน อีกทั้งเรื่องการจัดซื้อจัดหายุทโธปกรณ์เป็นไปโดยวิธีรอบคอบ ถูกต้อง เป็นการดำเนินการในลักษณะจีทูจีด้วยซ้ำไป และเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องระยะยาว พร้อมฝากทิ้งท้ายไว้ว่า “การจัดการเรื่องเรือลำนี้เป็นการปฏิบัติการตามแผนงานปกติ ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาวิจารณ์ในตอนนี้ เราไม่ได้มาต่อตอนนี้ เพราะเรือต่อไปนานแล้ว”