พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มท.1 ยอมรับ มีการเตรียมประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯ รับมือการระบาดโควิด-19 แต่ยังไม่อยากให้คิดไปถึงเรื่องเคอร์ฟิว ขอทุกคนร่วมมือกันปฏิบัติตามมาตรการ สธ. 

วันที่ 24 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ยอมรับการจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ทราบว่าขณะนี้ได้เตรียมการใช้กฎหมายที่เรียกว่าพระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งนี้ เพื่อเป็นเครื่องมือให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ง่ายและสะดวกขึ้น ในการปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และไม่อยากให้คิดไปถึงเรื่องการประกาศเคอร์ฟิว เพราะทุกอย่างให้เป็นไปตามสถานการณ์


รมว.มหาดไทย ระบุ สิ่งสำคัญในการลดการแพร่ระบาดของโรค คือขอให้ทุกคนร่วมมือกัน ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการปิดด่านแนวชายแดนแล้ว ยกเว้นเพียงจุดที่มีคนไทยต้องเดินทางกลับเข้ามา ส่วนการดูแลผู้ป่วยมีทีมแพทย์ดูแล ส่วนบุคคลต้องสงสัย มีจำนวนประมาณ 600 คน ก็มีแพทย์ดูแลดำเนินการตามขั้นตอนในการคัดกรองและกักตัวเช่นกัน อย่างไรก็ตามส่วน สำคัญสำหรับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา ขอให้ ระมัดระวังและป้องกันตัวเองทั้งในระหว่างเดินทาง และช่วงที่กักตัวอยู่ที่ภูมิลำเนา 14 วัน โดยขอให้ปฏิบัติตามข้อแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดเชื้อแพร่กระจาย หากให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และดูแลตัวเองก็จะควบคุมสถานการณ์ได้ ทางนี้ เพราะถ้าประชาชนไม่ร่วมมือจะใช้กฎหมายอะไรก็ยาก ทั้งนี้ขอให้สื่อช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลทำให้เกิดความร่วมมือ สร้างการรับรู้ให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งหากประชาชนทุกภาคส่วนร่วมมือกันก็จะเกิดประโยชน์ และแก้ปัญหาลดการแพร่ระบาดของโรคได้

...

พล.อ.อนุพงษ์ ยังเปิดเผย กรณีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และแรงงานต่างด้าวบางส่วนเดินทาง หลังสถานประกอบการบางแห่งทยอยยุติการดำเนินการว่า ในวันนี้คาดว่าจะได้รับข้อมูลรายละเอียดการเดินทางจากทุกจังหวัด และมั่นใจว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ จะสามารถตามควบคุมดูแลให้ผู้ที่เดินทางกลับในพื้นที่ปฏิบัติตามหลักการสาธารณสุข ทั้งการกักตนเอง และการป้องกันดูแล ไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อต่อไป