ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลง พบติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 6 ราย มีทั้งคนไทยและสิงคโปร์
วันที่ 11 มี.ค. 2563 นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวสถานการณ์โรคไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ว่า วันนี้ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 6 ราย โดยเป็นชาวไทย 5 คน และชาวสิงคโปร์ 1 คน รวมผู้ป่วยยืนยัน 59 ราย รักษาหายแล้ว 34 ราย รักษาที่โรงพยาบาล 24 ราย อาการหนัก 1 ราย แพทย์ดูแลใกล้ชิด และเสียชีวิต 1 ราย
รายที่ 1 เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ชายไทย อายุ 21 ปี ทำงานอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เริ่มป่วยตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. ด้วยอาการไข้ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ ผลตรวจห้องปฏิบัติการ 2 แห่ง ตรงกันว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19
รายที่ 2 ชายไทยอายุ 40 ปี ทำงานที่สนามบินสุวรรณภูมิ เริ่มป่วยวันที่ 7 มี.ค. แต่รายที่ 1 และ 2 ไม่ได้ทำงานอยู่ในจุดเดียวกัน ไม่ได้เกี่ยวข้องกันโดยตรง เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ด้วยอาการไข้ ไอ มีเสมหะ ปวดศีรษะ ได้รับการตรวจวินิจฉัยว่าพบเชื้อโควิด-19 ซึ่งทั้ง 2 ราย ทำงานเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ มีการสัมผัสสิ่งของที่ผ่านมือหลายคน เช่น สิ่งของสัมภาระ หรือพาสปอร์ต
รายที่ 3 ชายไทยอายุ 25 ปี อาชีพพนักงานบริษัท เข้ารับการรักษาปอดอักเสบไม่ทราบสาเหตุ ตรวจพบเชื้อพบโควิด-19 รักษาที่สถาบันบำราศนราดูร มีประวัติเดินทางไปหลายแห่ง โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวด้วย ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ
รายที่ 4 หญิงไทยอายุ 21 ปี กลับมาจากเกาหลีใต้ มีไข้ ไอ น้ำมูก ปลายเดือน ก.พ. กระทั่งวันที่ 8 มี.ค. พบเชื้อโควิด-19 และส่งตัวมายังโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี วันที่ 10 มี.ค.
...
รายที่ 5 ชายไทยอายุ 40 ปี กลับมาจากญี่ปุ่น วันที่ 25 ก.พ. เข้ารับการรักษาใน กทม. กระทั่งต่อมาพบเชื้อโควิด-19 และอยู่ระหว่างรักษา
รายที่ 6 ชายชาวสิงคโปร์อายุ 36 ปี เป็นเจ้าของกิจการในไทย เริ่มป่วยวันที่ 6 มี.ค. ด้วยอาการไข้ ไอ ปวดเมื่อนตามตัว ไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนวันที่ 9 มี.ค. พบติดเชื้อโควิด-19 จึงมีการส่งต่อมาที่สถาบันบำราศนราดูร แม้จะอยู่ในเมืองไทยมานานกว่าระยะฟักตัวของโรค แต่ก็มีการติดต่อกับทั้งคนชาติเดียวกันและต่างชาติ จึงมีโอกาสรับเชื้อมา
ซึ่งทั้งหมดพบจากขยายการเฝ้าระวัง มารับตรวจวินิจฉัย ยืนยันว่าประเทศไทยการระบาดยังอยู่ในระยะที่ 2
ขณะที่ในรายของชายชาวสิงคโปร์ที่เดินทางมาไทย แต่เมื่อกลับไปสิงคโปร์แล้วตรวจพบเชื้อโควิด-19 นั้น พบว่ามาทำงานที่ไทยเพียงวันเดียว คาดว่าได้รับเชื้อก่อนหน้านั้น อีกทั้งมีประวัติไปอังกฤษ และผลการสอบสวนผู้สัมผัสในที่ทำงานทั้ง 84 คน ไม่มีใครป่วยหรือติดเชื้อ จึงไม่ได้ติดเชื้อจากไทย และปัจจุบันรักษาตัวอยู่ที่สิงคโปร์.