"ดร.โกร่ง" ฉะรบ.โง่ ทำเศรษฐกิจพินาศ
“บิ๊กตู่” ลั่นปรับ ครม.ถึงเวลาตัดสินใจเอง เปรยผ่านเด็กๆ ประเทศวิกฤติขอทุกฝ่ายช่วยลดความขัดแย้ง “สนธิรัตน์” ตอบเซฟๆต้องให้เกียรตินายกฯ “สุริยะ” บอกไม่เชื่อได้โยกไปคุมพลังงาน “ดอน” รูดซิปปากไม่ตอบปมไขก๊อก โฆษก พท.แขวะ รมต.อย่ามัวยุ่งข่าวปรับ ครม.ลอยแพประชาชน “ดร.โกร่ง” จวกรัฐบาลทหารโง่ทำเศรษฐกิจพังพินาศ ฉะรัฐประหารฉุดเสือที่ 5 กลายเป็นชาติล้าหลัง เตือนต้นปีนี้เผาจริงปลายปีเก็บกระดูก อีก 5 ปีถึงจะฟื้น อดีต อนค.เลือดหยุดไหล 55 คนกอดคอไปด้วยกัน “ณัฐชา” คาดรัฐบาลซื้องูเห่าได้ตามเป้าแล้ว “ก้าวไกล” ชื่อพรรคใหม่มาแรง 8 มี.ค. เปิดตัวสวมตอพรรคเก่าไปก่อน รัฐบาล-สภาฯ เกี่ยงกันเคาะเปิดประชุมสภาฯวิสามัญถกแฟลชม็อบ “นายกฯ” โบ้ยเป็นเรื่องของสภาฯ ที่ปรึกษา ปธ.สภาฯ โยนเหมาะสุดรัฐบาลชง พ.ร.ฎ.เสนอเอง
กระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เริ่มมีความชัดเจนเพิ่มมากขึ้น ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แม้จะประกาศงดพูดเรื่องทางการเมือง แต่เมื่อถูกถาม ถึงเรื่องดังกล่าวแม้ไม่ได้ตอบรับอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ระบุเพียงว่าจะตัดสินใจเองเมื่อถึงเวลา
...
เด็กมอบโล่–ดาบให้ “ลุงตู่” ป้องกัน ปท.
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนการประชุม นายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ร่วมกับมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็กและภาคีเครือข่าย เข้าพบนายกฯรณรงค์กิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์อัศจรรย์วันว่าง มีเด็กๆมาให้กำลังใจนายกฯบริหารประเทศผ่านพ้นวิกฤติไวรัสโควิด-19 และฝุ่น PM 2.5 สาธิตทำหน้ากากอนามัยผ้า มอบให้นายกฯ ขอให้นายกฯดูแลตัวเองให้สุขภาพแข็งแรง แล้วมีเด็กๆแต่งชุดหุ่นยนต์จากกล่องกระดาษมอบโล่ มีตัวอักษร PM และดาบทำจากกล่องกระดาษให้นายกฯซึ่งชมว่าดีมากเอากล่องกระดาษมาใช้ประโยชน์ ก่อนถ่ายรูปกับเด็กๆและยื่นดาบกับโล่คืนให้เด็ก บอกว่า “เดี๋ยวหาว่าลุงใจร้ายอีก”
ขอยึดข้อเท็จจริงลดความขัดแย้ง
ขณะที่นายกฯกล่าวว่า เป็นกิจกรรมดีๆช่วงปิดเทอมดีกว่าไปทำอย่างอื่น เกิดประโยชน์ช่วยพัฒนาตัวเองไปสู่อนาคตที่มีงานทำ ประสบการณ์ หลักคิด แนวคิดที่ถูกต้อง เรียนรู้เรื่องต่างๆในการพัฒนาประเทศช่วงนี้พ่อแม่ผู้ปกครองต้องช่วยกันให้คำแนะนำบุตรหลาน และระมัดระวังร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก ดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดี และขอให้กำลังใจนายกฯและคนไทยทุกคนด้วยนะ ต้องร่วมกันสู้กับปัญหาวันนี้ของประเทศชาติ ต้องเข้มแข็ง สำคัญทุกคนต้องช่วยกันลดความขัดแย้งลงมาให้ได้มากที่สุด บังคับกันไม่ได้แล้วแต่คนจะคิดไป แต่ขอให้เอาข้อมูลข้อเท็จจริงมาคิดว่าจะปฏิบัติอย่างไรให้ บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ ถ้ามัวแต่มีปัญหาแบบนี้ไปข้างหน้าไม่ได้ทุกอย่างมีบทเรียน จากนั้นนายกฯตอบคำถามผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆถึงกรณีมี ส.ส.ส่วนหนึ่งเสนอเปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาความเห็นของนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่ชุมนุมแฟลชม็อบว่าเป็นเรื่องสภาฯ
ลั่นปรับ ครม.ตัดสินใจเองเมื่อถึงเวลา
ต่อมาเวลา 13.50 น. ภายหลังประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ตอบคำถามถึงความชัดเจนในการปรับ ครม.ว่า ไม่ขอไม่ตอบ และไม่ได้หมายความว่าจะปรับหรือไม่ปรับ อย่าไปตีความคำพูดตน “เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมจะตัดสินใจของผมเอง เมื่อถึงเวลาของผม”
“สนธิรัตน์” ระบุต้องให้เกียรติผู้นำ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงานและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ว่า เวลานี้เป็นเวลาที่ต้องช่วยกันทำงาน โดยเฉพาะเรื่องไวรัสโควิด-19 มุ่งทำงานก่อนดีกว่า ต้องให้เกียรตินายกฯที่จะเป็นผู้พิจารณา เมื่อถามย้ำว่า ช่วงหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้น ถือเป็นช่วงต้องปรับ ครม.แล้วใช่หรือไม่นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า อยู่ที่การตัดสินใจของนายกฯ ไม่สามารถแสดงความเห็นได้
“สุริยะ” ไม่เชื่อได้โยกไปคุมพลังงาน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม แกนนำพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าอาจถูกโยกย้ายไปเป็น รมว.พลังงานว่า การปรับ ครม.เป็นอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไม่เคยได้ยินว่านายกฯจะปรับ ครม. ส่วนของตนกำลังดูแลเรื่องกระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ เรื่องสำคัญของบ้านเมืองในขณะนี้คือภัยแล้ง ได้สั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรมไปดูเหมืองร้างต่างๆ หากพบว่ามีน้ำขังอยู่มากก็จะนำน้ำส่วนนี้มาช่วย ชาวบ้าน เมื่อถามว่าหากมีการปรับ ครม.จริงพร้อมไปเป็น รมว.พลังงานหรือไม่ นายสุริยะกล่าวว่า “ผมไม่เชื่ออย่างนั้น” เมื่อถามต่อว่า กลุ่มสามมิตรจะ มีการรวมตัวนัดรับประทานอาหารอีกหรือไม่ นายสุริยะกล่าวว่า “ไม่มีครับ”
“ดอน” รูดซิปปากปมไขก๊อก
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะลาออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศในช่วงปรับ ครม. โดยนายดอนไม่ได้กล่าวตอบใดๆ ได้แต่เพียงโบกมือปฏิเสธให้กับผู้สื่อข่าว และรีบขึ้นไปประชุม ครม.ทันที
“สมศักดิ์” บอกเรื่องปกติหลังซักฟอก
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ แต่เป็นปกติหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วจะมีข่าวเช่นนี้ออกมา บางครั้งอาจเป็นจริงและบางครั้งอาจไม่ใช่เรื่องจริงต้องรอดู เป็นเพียงกระแสที่ปล่อยออกมาตลอด รายละเอียดไม่ทราบ กลุ่มสามมิตรไม่น่าจะมีอะไรเพิ่มเติม คำว่ากลุ่มคงไม่มีการพูดกันอีก เมื่อถามว่า ถ้านายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท พรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีคราวนี้จะรวมตัวแสดงพลังเพิ่มเติมหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่น่าจะมี จะได้หรือไม่ได้ ไม่ใช่มีกลุ่มหรือไม่มีกลุ่ม แต่อยู่ที่เป็นคนทำงานให้ภาพรวมของรัฐบาลได้มากน้อยเพียงใด ไม่เชื่อว่าจะมีการตั้งกลุ่มขึ้นมากดดัน อย่าไปคิดแบบนั้น เมื่อถามย้ำว่านายอนุชาควรได้ตำแหน่งรัฐมนตรีคราวนี้หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่าไม่ทราบ
“ธนกร” อัดฝ่ายค้านซ้ำเติมประเทศ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงฝ่ายค้านจะเดินสายอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาฯว่า ผิดหวังมาก กลืนน้ำลายตัวเองไม่เป็นสุภาพบุรุษทางการเมือง ซ้ำเติมประเทศที่กำลังประสบปัญหาหลายเรื่องไม่ว่าไวรัสโควิด-19 กระทบเศรษฐกิจอย่างมาก ฝ่ายค้านไม่ควรเคลื่อนไหวนอกสภาฯ จะก่อความวุ่นวายและความขัดแย้งขึ้น ประชาชนรวมตัวกันมากๆยากต่อการคัดกรองป้องกันโรค เราเคยมีบทเรียนมาแล้ว ประเทศบอบช้ำมามากแล้ว อย่าสร้างปัญหาอีกเลย จะทำอะไรขอให้สงสารประเทศชาติบ้าง ไม่ใช่เวลาจะมาเล่นเกมการเมืองหรือทำลายล้างกัน รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาให้ประชาชนอยู่ อย่าทำให้ประเทศกลับไปสู่ความวุ่นวายอีกเลย
พท.ซัดรัฐบาลลอยแพประชาชน
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กระแสข่าวการปรับ ครม.ทำให้เกิดความวุ่นวายภายในพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาลที่ปล่อยข่าวสกัดกั้น เลื่อยขาเก้าอี้กันเอง ทำให้เกิดแรงกระเพื่อม สั่นสะเทือนเสถียรภาพรัฐบาลไม่เว้นแต่ละวัน นี่คือใบเสร็จหลักฐานชี้ชัดว่าการปฏิรูปการเมืองไม่มีอยู่จริง ขัดแย้งแย่งเก้าอี้กันหนักขนาดนี้ ในที่ประชุม ครม.มองหน้ากันได้สนิทใจหรือไม่ 5-6 ปีที่ผ่านมาสะท้อนว่ารัฐบาลคิดแต่เรื่องผลประโยชน์ตัวเองก่อนผลประโยชน์ชาติและประชาชน สารพัดวิกฤติของชาติ ต้องรออีกนานแค่ไหนกว่ารัฐบาลจะมีเวลามีสมาธิแก้ไข ขนาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ลุกลามหนักขนาดนี้ ยังปล่อยให้หน้ากากอนามัยขาดตลาดแล้วยังไม่มีแผนบริหารจัดการอย่างบูรณาการเป็นรูปธรรม เรื่องไม่สลับซับซ้อนอะไรยังปล่อยเป็นปัญหาใหญ่ แล้วเรื่องอื่นจะแก้ไขได้อย่างไร รัฐบาลลอยแพประชาชนว่าหนักแล้ว แต่การคิดถึงแต่เรื่องตัวเอง สาละวนวุ่นวายอยู่แต่กับข่าวปรับ ครม.แสวงหาความมั่นคงให้ตัวเองมากกว่าความมั่นคงของประชาชนหนักกว่า
“ดร.โกร่ง” จวก รบ.โง่ทำ ศก.พังยับ
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย สถาบันสร้างไทยจัดเวทีเสวนาหัวข้อฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ 2020 โดยนายวีรพงษ์ รามางกูร อดีต รมว.คลัง กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยว่า เราอยู่ในวิกฤตการณ์การเมือง กฎหมาย และเศรษฐกิจ มีการทำลายโครงสร้างต่างๆ พังทลายทั้งสิ้น เป็นวิกฤตการณ์ที่ประเทศไทยไม่เคยพบมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่กระบวนการยุติธรรม ที่เคยเป็นที่พึ่งของประชาชนต้องพบกับวิกฤติ จนกระทบความเชื่อมั่นและความศรัทธา จึงถือว่าเป็นมหาวิกฤตการณ์ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยบอกว่าอัตราแลกเปลี่ยนไม่มีผลต่อการส่งออก ถ้าตนเป็นนายกฯคงต้องหาทางปลดผู้ว่าการ ธปท.ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง แต่ด้วยความโง่เขลาของรัฐบาลทหารจึงไม่ทำ เพราะไม่มีความรู้เหมือนกัน เหมือนเอาคนตาบอดมาทำงานร่วมกัน ต่างคนต่างตาบอดและไม่รู้ด้วยกัน
ต้นปีเผาจริงปลายปีเก็บกระดูก 5 ปีฟื้น
นายวีรพงษ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ผู้นำของเรายังทำไม่ได้ เพราะยังมียศทหารนำหน้า สวนทางกับรัฐบาลพม่าที่เป็นพลเรือนแล้ว จึงเป็นปัจจัยถ่วงไม่ให้ไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เดิมเราคิดว่าจะเป็นเสือตัวที่ 5 แต่เมื่อเกิดการรัฐประหารทำให้ทุกอย่างล้าหลังไปหมด การเป็นผู้นำประเทศที่ดีต้องหาคนดีมีฝีมือมาใช้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกฯ ไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจทุกเรื่อง แต่ท่านมีที่ปรึกษาหลายคนและมีความเห็นต่างๆออกมามากมาย แล้วจะดูว่าความเห็นของใครที่ไม่มีผลประโยชน์เบื้องหลังความเห็นของคนนั้นจะเป็นประโยชน์และเชื่อถือได้มากที่สุด ไม่รู้เหมือนกันว่าเวลานี้รัฐบาลมีคนพอจะเชื่อถือได้อยู่หรือไม่ ต้นปีนี้จะเป็นการเผาจริงและปลายปีจะเก็บกระดูกไปลอยอังคาร ขอให้เตรียมการไว้ ที่พูดแบบนี้ไม่ได้พูดเพราะไม่ได้ชอบรัฐบาล แต่พูดจากตัวเลขและข้อมูลที่เกิดขึ้น คิดว่าอีก 5 ปีเราถึงจะฟื้น
“เจ๊หน่อย” ยันเพื่อไทยไม่มีรอยร้าว
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทยหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า เป็นโอกาสดีจะได้พูดคุยกันและฟังความคิดเห็นแต่ละฝ่าย ต้องให้กำลังใจคนปฏิบัติหน้าที่ จะนำบทเรียนมาวิเคราะห์แก้ไขอย่างไร ที่จะทำให้พรรคแข็งแรงขึ้น คงไม่มีใครโทษใครเราอยู่องค์กรเดียวกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต้องช่วยกันปรับปรุง กรรมการยุทธศาสตร์ด้านความยุติธรรมกฎหมาย ที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นประธาน จะนำเรื่องที่อภิปรายไม่ไว้วางใจทุกเรื่องมาดู และยื่นดำเนินการทางกฎหมายต่อศาลรัฐธรรมนูญและ ป.ป.ช. หรือองค์กรที่มีหน้าที่ตรวจสอบต้องรับไปดำเนินการต่อ ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ผู้ใหญ่พรรคเพื่อไทย ได้ประชุมกันเพื่อเดินหน้าทำงานกันต่อ เพิ่งได้รับโทรศัพท์จากพรรคอนาคตใหม่ชวนไปรับประทานอาหาร แต่ยังไม่ได้คุยอะไรมาก ที่ผ่านมาได้ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านแถลงแล้วว่าจะทำงานร่วมกัน ไม่น่ามีปัญหาอะไร ส่วนงูเห่าของพรรคกรรมการบริหารพรรคและคณะกรรมการกำลังพิจารณายังไม่ทราบรายละเอียด
ส.ส.รุมจวกแกนนำ พท.เละเทะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 มี.ค. นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ร่วมทำหน้าที่ประธานการประชุม ส.ส.ประจำสัปดาห์ บรรยากาศเป็นไปอย่างดุเดือด ส.ส.หลายคนตำหนิการทำหน้าที่ประธานวิปฝ่ายค้าน ผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจบางคนของพรรคและพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยหยิบยกความเห็น ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ที่ตำหนิพรรคเพื่อไทยอย่างรุนแรงมาพูดด้วย โดย ส.ส.อีสานและเหนือสลับสับเปลี่ยนโจมตีพรรคที่ขาดเอกภาพ ผู้ใหญ่ในพรรคไม่มีความกลมเกลียว ผู้อภิปรายบางคนพูดเรื่องเดิมๆ 3 ชั่วโมง รวมเวลานายกฯตอบเป็น 4 ชั่วโมง อนาคต–ใหม่ไม่วอล์กเอาต์ตั้งแต่ตอนนั้นก็บุญแล้ว พูดจาวกวนไปมามีแต่เรื่องเดิมๆ ทั้งนี้นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคามและนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ ไม่ได้เข้าประชุมด้วย
ไร้เอกภาพสารพัดทีมไปกันคนละทิศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการย้อนไปคืนวันที่ 27 ก.พ. พรรคร่วมฝ่ายค้านอ้างมีมติจะไม่เดินทางมาโหวต แจ้งกลุ่มไลน์ให้ ส.ส.รับทราบ แต่เช้าวันที่ 28 ก.พ.กลับมีไลน์จากพรรคแจ้งให้ไป ไม่ควรรีบออกเป็นมติไปก่อน ชาวบ้านยังถามไปประชุมแล้วทำไมไม่โหวต บางพรรคยังประชุมถึงดึกดื่น จะโหวตให้หรือไม่โหวตให้รัฐมนตรีบางคน ดึกดื่นยังมีมติออกมา 24 ต่อ 17 เลย แต่ของเราทำไมรีบสรุป ส.ส.อีสานใต้กว่าจะได้เป็นผู้แทนฯไม่ได้ง่ายๆ การอภิปราย
เมื่อหัวหน้าบอกไม่มีงานก็จบ จัดเวลาคิดกันอยู่ไม่กี่คน เป็นคนกลุ่มเดิมๆ และไม่ใช่การอภิปรายแต่แนะนำเสนอแนะ ขณะที่ ส.ส.คนหนึ่งระบุว่าพรรคเกรงใจพรรคเพื่อนบ้านมากเกินไปหรือเปล่า เอาจังหวะยุบพรรคมาบ่นด่า ตีกินเรา ยังมีผู้ใหญ่ในพรรคบางคนไปดูเขาแถลงมันสมควรหรือไม่แทนที่จะห้าม และมี ส.ส.ที่บ่นปัญหาขาดเอกภาพในพรรคว่า ก่อนอภิปรายครั้งนี้เละไปหมด มีทั้งทีมยุทธศาสตร์ ทีมกิจการพิเศษ ทีมหัวหน้าสมพงษ์ คนนึงพูดอย่าง คนนึงจะเอาอีกอย่าง ไม่รู้จะฟังใคร การเลือกคน จัดคิวเวลาอภิปราย มีแค่ไม่กี่คน ใกล้วันอภิปรายแล้ว ส.ส.บางคนยังไม่รู้เรื่องเลยว่าจะอภิปรายใคร เพื่อน ส.ส.บางคนที่มีข้อมูล เลยไม่รู้จะเอาข้อมูลไปให้ใคร
“บิ๊กตู่” โยนสภาฯเคาะถกแฟลชม็อบ
อีกเรื่อง ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ปฏิเสธจะตอบคำถามเรื่องการเมือง โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่า วันนี้ขอยืนยันว่าจะไม่มีการตอบคำถามเรื่องการเมืองใดๆทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นใครที่เตรียมคำถามมาอะไรก็จะไม่ตอบ เพราะวันนี้ตนให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาไวรัสโควิด-19 รวมทั้งมาตรการที่จะรองรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ส่วนที่ถามมาว่า มีความเห็นอย่างไรที่ ส.ส.ส่วนหนึ่งเสนอให้เปิดสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาความเห็นของนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่ร่วมชุมนุมแฟลชม็อบ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของสภาฯ ตอบได้แค่นี้
ห่วง นศ.รวมตัวระวังติดโควิด–19
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า การเคลื่อนไหวแฟลชม็อบของกลุ่มนักศึกษาเป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขอฝากถึงสถาบันที่เกี่ยวข้องให้ดูแลด้วย ขณะนี้มีสถานการณ์ไข้หวัดโควิด-19 ระบาด ควรระมัดระวังการใช้สถานที่ปิดเป็นพิเศษ เพราะทุกที่มีการป้องกันอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นนักศึกษาหรือเยาวชนจะเข้ามาเกี่ยวข้องในกิจกรรมอื่นใด ควรหลีกเลี่ยงไปสักระยะหนึ่ง เชื่อว่าเมื่อมีอากาศร้อนแล้วไข้หวัดจะหายไป แต่ถ้าครึ้มฝนควรระวัง แม้ว่าจะห้ามไม่ได้ แต่ขอฝากลูกหลานว่าตอนนี้มีปัญหาเรื่องโควิด-19
“สนธิรัตน์” อยากมีเวทีฟังคนเห็นต่าง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงแฟลชม็อบของนิสิตนักศึกษาช่วงนี้ว่า เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ เพราะการแสดงออกทางความคิดเห็นที่อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายต้องรับฟังกันให้มากขึ้น อยากให้มีเวทีให้ฝ่ายเห็นแตกต่างกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ถ้าดำเนินการให้เกิดการพูดคุยได้จะเกิดประโยชน์มาก รัฐบาลเองพร้อมรับฟังทุกฝ่ายเพื่อช่วยกันทำความเข้าใจ นำความจริงมาพูดกันด้วยเหตุผล แลกเปลี่ยนทัศนะกัน ถึงแม้มีมุมมองแตกต่างกันรัฐบาลพร้อม เชื่อว่าทุกฝ่ายต้องการเห็นบ้านเมืองเดินหน้าไปด้วยดี รับฟังกันแล้วช่วยกันหาทางออกให้ประเทศนำพาเดินไปข้างหน้า
“ครูแก้ว” หนุนสภาฯถกแฟลชม็อบ
นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ กล่าวถึงกรณี ส.ส.หลายพรรคยื่นญัตติขอให้สภาฯ พิจารณาหาแนวทางและแก้ปัญหาการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มนักศึกษาว่า ในฐานะดูแลการบรรจุญัตติเห็นด้วยอย่างยิ่ง สมควรนำปัญหามาพูดในสภาฯดีกว่า ใช้เวทีสภาฯแก้ปัญหาประชาชน กลุ่มนิสิต นักศึกษาเป็นกลุ่มที่ควรรับฟังความเห็น เพื่อให้ ส.ส.มีโอกาสรับฟังเสียงสะท้อนและเงื่อนไขข้อเรียกร้อง ส.ส.ต้องการเข้าชื่อต่อประธานสภาฯ ขอให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เชื่อว่าไม่มีปัญหา นายชวนพร้อมรับฟังเพื่อให้ใช้เวทีสภาฯแก้ปัญหา
อดีต อนค.ยังปิดเงียบชื่อพรรคใหม่
เมื่อเวลา 14.00 น. นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. อดีตรองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงการเปิดตัวพรรคใหม่ในวันที่ 8 มี.ค. พร้อม ส.ส. 55 คน ว่า ขอยังไม่เปิดเผยข้อมูลในขณะนี้ อยากแจ้งพร้อมกันในวันที่ 8 มี.ค. เรามั่นใจว่าจะเป็นกลุ่ม ส.ส.รวม 55 คน จะก้าวไปสู่พรรคใหม่ด้วยกัน เพราะมีการพูดคุยกันตลอด และยืนยันว่าจะไปสังกัดพรรคใหม่ด้วยกัน ส่วนกำหนดการในวันที่ 8 มี.ค. เราจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง เพราะยังมีการประชุม มีข้อถกเถียงกันอยู่ว่าเราจะไปสมัครที่ไหน อย่างไร เวลาใด โดยภายหลังการประชุมมีข้อยุติแล้วจะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบถึงกำหนดการที่ชัดเจนอีกครั้ง
ไม่ค่อยมีซื้อ ส.ส.คาด รบ.ได้ตามเป้า
เมื่อถามว่ายังมีการซื้อตัว ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่อีกหรือไม่ นายณัฐชากล่าวว่า หลังจากเราประกาศว่าทั้ง ส.ส. 55 คน ยืนยันว่าจะไปพรรคใหม่ด้วยกัน ร่วมเดินทางด้วยอุดมการณ์เดียวกัน กระแสการซื้อตัวเริ่มลดลง ไม่ค่อยมีการติดต่อเข้ามาแล้ว คาดว่ารัฐบาลน่าจะได้จำนวน ส.ส.ที่คาดไว้แล้ว หลังจากศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ มี ส.ส.ถูกซื้อตัวไปรวม 10 คน มั่นใจว่ากลุ่ม ส.ส.ทั้ง 55 คนที่เหลืออยู่จะเดินหน้าไปด้วยกัน
“ก้าวไกล” มาแรงชื่อบ้านใหม่ อนค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับชื่อพรรคใหม่ จากการหารือในที่ประชุม ส.ส.และอดีต ส.ส.เมื่อวันที่ 28 ก.พ.-1 มี.ค. ที่ จ.นครนายก ได้ข้อสรุปเบื้องต้น 3 ชื่อ ได้แก่ พรรคก้าวไกล พรรคไทยเท่าเทียม และพรรคอนาคตไทย วันที่ 6 มี.ค.จะโหวตชื่อพรรคใหม่ ส.ส.ที่เกาะกลุ่มกันอยู่แนวโน้มส่วนใหญ่ชอบชื่อพรรคก้าวไกล นอกจากนี้ แนวทางทำงานของพรรคใหม่จะลดโทนการปะทะกับฝ่ายตรงข้ามให้น้อยลง เน้นการทำงานในสภาฯทั้งตั้งกระทู้ถามฝ่ายบริหาร ผลักดันออกกฎหมาย การจดแจ้งตั้งพรรคใหม่จะใช้ชื่อพรรคจดแจ้งไว้กับ กกต.อยู่แล้ว วัดเปิดตัวพรรควันที่ 8 มี.ค.จะยังใช้ชื่อพรรคเดิมก่อน จากนั้นจะเรียกประชุมใหญ่สามัญพรรคช่วงต้นเดือน เม.ย. ก่อนเปลี่ยนชื่อและโลโก้ตามมติ คาดว่าจะย้ายที่ทำการพรรคออกจากตึกไทยซัมมิท เพื่อไม่ให้เกิดการร้องเรียนในอนาคต วันที่ 8 มี.ค. ส.ส.ทั้ง 55 คนจะไปสมัครสมาชิกพรรคพร้อมกันและเปิดรับสมัครสมาชิกให้วอล์กอินมาสมัคร ส่วนการสมัครผ่านออนไลน์ สมัครได้ตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.เป็นต้นไป
“เอกชัย–สิริวิทย์” ร้องถอด“ธรรมนัส”
เมื่อเวลา 10.15 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเอกชัย หงส์กังวาน และนายสิริวิทย์ ช่วงเสน นักเคลื่อนไหวการเมืองเข้ายื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้เพิกถอนสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯและ ส.ส.เขต 1 พะเยา พรรคพลังประชารัฐ นายเอกชัยกล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านได้แสดงหลักฐานเป็นคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ออสเตรเลีย หมายเลข 60449/94 และ 60434/94 พิพากษาจำคุก ร.อ.ธรรมนัส ฐานนำเข้าและค้ายาเสพติดเป็นเวลา 6 ปี โทษดังกล่าวเข้าข่ายทำให้มีลักษณะต้องห้ามดำรงตำแหน่ง ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (10) ที่ห้ามบุคคลที่เคยต้องคำพิพากษา อันถึงที่สุดตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. กกต.ควรพิจารณาและมีมติเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.ของ ร.อ.ธรรมนัส และตัดสิทธิ์ทางการเมือง เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญมีผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อ กกต.จึงควรพิจารณาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน