มติครม.เห็นชอบ 10 พ.ค.ของทุกปี เป็นวันป่าชายเลนแห่งชาติ ตามที่กระทรวง ทส.เสนอ "วราวุธ" ย้ำ ความสำคัญและจำเป็นในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน โดยได้น้อมนำแนวพระราชดำริของในหลวง ร.9 

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้มีพระราชดำริเกี่ยวกับป่าชายเลนไว้เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2534 ถึงคุณประโยชน์และความสำคัญของป่าชายเลน พร้อมให้หน่วยงานที่รับผิดชอบร่วมกันหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการทดลองและขยายพันธุ์โกงกางและปลูกสร้างป่าชายเลน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ทรงมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับป่าชายเลน ดังนั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงได้เสนอคณะกรรมการนโยบายและแผนทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ พิจารณาให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2562 เห็นชอบและให้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเห็นชอบ ต่อไป

...

ทั้งนี้ ตนได้ชี้แจงต่อคณะรัฐมนตรีทราบถึงความสำคัญและความจำเป็นในการกำหนดวันป่าชายเลนแห่งชาติ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นพ้องและมีมติให้วันที่ 10 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันป่าชายเลนแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดความสมบูรณ์และยั่งยืน ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้ประชาสัมพันธ์และดำเนินการเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนให้เห็นผลเป็นรูปธรรมต่อไป

ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวเสริมว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ดำเนินการเพื่อรักษาพื้นที่ป่าชายเลนของประเทศที่ยังคงสมบูรณ์กว่า 1.534 ล้านไร่ และฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลนที่เปลี่ยนสภาพไปแล้วกว่า 1.34 ล้านไร่ โดยใช้หลักการทางวิชาการ อุปกรณ์เครื่องมือ รวมถึง เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ มาใช้ประกอบการดำเนินงาน และประการสำคัญประการหนึ่ง คือ การนำแนวพระราชดำริและพระราชดำรัสของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์มาดำเนินการ เพื่อให้เห็นผลเป็นรูปธรรม สำหรับการประกาศให้วันที่ 10 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันป่าชายเลนแห่งชาติ เป็นการย้ำถึงความสำคัญของพื้นที่ป่าชายเลนของชาติ แสดงถึงความซาบซึ้งและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยในด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลน โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้วางแผนการดำเนินงานในการประชาสัมพันธ์ รณรงค์ และจัดกิจกรรมอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีข้อสั่งการให้เตรียมการโครงการต่าง ๆ โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนตลอดไป นอกจากนี้ ท่านปลัดกระทรวง ในคราวดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ให้ความสำคัญและพยายามผลักดันให้พื้นที่ป่าชายเลนจังหวัดระนองได้รับการประกาศเป็นพื้นที่มรดกโลก อีกด้วย

สุดท้ายตน ขอฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า “การอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าชายเลนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เพียงแค่ได้ป่าชายเลนเพิ่มขึ้น แต่เรายังได้พื้นที่อนุบาลสัตว์น้ำ แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ที่เราได้รับจากป่าชายเลนอย่างที่เราคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ลดแรงปะทะของพายุและคลื่น พื้นที่ดูดซับมลพิษ แหล่งดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึง ประโยชน์นานัปการที่เกิดขึ้นจากป่าชายเลน จึงขอให้พี่น้องประชาชนได้เห็นความสำคัญของพื้นที่ป่าชายเลน รวมถึง ขอความร่วมมือในการอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลนที่เสื่อมโทรมให้คงความสมบูรณ์และสมดุลอย่างยั่งยืนต่อไป” อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าว...