"อภิสิทธิ์" เดินสายหาเสียงภาคตะวันออก ลุยสวนผลไม้ที่ระยอง โชว์เก็บมังคุด ปีนตัดทุเรียน ปราศรัยเมืองจันท์ จวกคู่แข่งดีแต่พูด...
เมื่อเวลา 14.30 น. 11 มิ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายอลงกรณ์ พลบุตร และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปยังสวนผลไม้กายเกษตร ต.สองสลึง อ.แกลง จ.ระยอง เพื่อหาเสียงกับกลุ่มเกตรกรชาวสวนผลไม้ มีนายภาคินัย เลิศเรืองแก้ว เจ้าของสวน และบรรดากลุ่มสตรีอาสาพัฒนาหมู่บ้านสองสลึง รอมอบเงาะที่ร้อยต่อเป็นพวงยาวกว่า 2 เมตรให้นายอภิสิทธิ์เพื่อเป็นการต้อนรับ ก่อนจะกรูกันเข้าหอมแก้ม ผูกผ้าขาวม้า และคล้องพวงมาลัย
ทั้งนี้ เจ้าของสวนได้นำผลไม้ อาทิ ทุเรียน มังคุด เงาะ และกระท้อน มากองต้อนรับเพื่อมอบให้คณะของนายอภิสิทธิ์เป็นที่ระลึก จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้รับฟังปัญหาต้นทุน ทั้งปุ๋ย ยาฆ่าแมลง การขาดแคลนแรงงาน รวมทั้งปัญหาของกลุ่มสตรีที่ขอให้ดูแลสวัสดิการอย่างทั่วถึง รวมทั้งการส่งเสริมการพัฒนาการแปรรูปผลผลิต โดยเฉพาะหาตลาดเพิ่มให้กับสินค้าโอทอปด้วย
ด้านนายอภิสิทธิ์ กล่าวชี้แจงแนวทางแก้ปัญหาและย้ำถึงนโยบายที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้ว โดยเฉพาะได้แสดงความเป็นห่วงว่าเกษตรกรจะหันไปทำสวนยางพารา เนื่องจากราคาดีกว่าผลไม้ โดยไปบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ และเกรงว่าอนาคตจะไม่มีคนปลูกผลไม้ให้บริโภค อย่างไรก็ตาม ก่อนจะเดินทางออกจากสวนผลไม้ นายอภิสิทธิ์ได้โชว์เก็บมังคุดและทุเรียนหมอนทองจากต้นโชว์ผู้สื่อข่าวด้วย อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ที่มือข้างซ้ายของนายอภิสิทธิ์ได้ติดพลาสเตอร์ยาไว้ ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าเป็นอะไร นายอภิสิทธิ์หัวเราะก่อนบอกว่า ถูกสาวๆ ข่วนจากการหาเสียง
จากนั้นในเวลา 15.30 น. นายอภิสิทธิ์เดินทางไปที่โรงเรียนบ้านสองสลึงตั้งตรงจิตร 9 เพื่อพบกับประชาชนและผู้สนับสนุน ที่อาคารเอนกประสงค์ของโรงเรียน มีชาวบ้านรอเข้าไปรุมกอดหอมแก้ม และมอบดอกกุหลาบ โดยนายอภิสิทธิ์ย้ำถึงนโยบายของรัฐบาลที่ดำเนินการ และพรรคประชาธิปัตย์จะสานต่อหากได้เป็นรัฐบาล โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้พรรคการเมืองต่างๆ ได้แสดงออกถึงความแตกต่างที่ชัดเจน โดยเฉพาะการแข่งขันระหว่างประชาธิปัตย์กับเพื่อไทย ตนอยู่การเมืองมา 20 ปี เป็นธรรมดาที่มีคนเชียร์และคนไม่เชียร์ แต่ตนไม่เห็นจะต้องเข้าไปขัดขวางการหาเสียง หรือพยายามเข้าไปสร้างประเด็นสร้างข่าว เพื่อไม่ให้พรรคการเมืองคุยกับประชาชนได้เต็มที่
...
"เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ตนไปที่ตึกซันทาวเวอร์ ประชาชนมาต้อนรับจำนวนมาก แต่มีคนมาชูป้ายด่าคนที่มาสนับสนุน สงสัยว่าทำไมต้องมารังแกขนาดนี้ ตนบอกว่าไม่เป็นไร เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา ตนอดทนอดกลั้น ยังต้องทำงานให้เขา และพูดคุยทำความเข้าใจ อย่างน้อยทำไม่ได้ก็ต้องพูดคุยกันได้ ถึงจะเป็นนายกฯ เป็นผู้นำรัฐบาลที่ปรองดองได้อย่างแท้จริง ยอมรับตรวจสอบ การวิพากษ์วิจารณ์ และเข้าหาทุกผู้ทุกกลุ่ม การเลือกตั้งครั้งนี้ อยากให้ทุกคนยืนยันว่าเป็นบ้านเมืองของทุกคนทุกสี แล้วเราจะเดินหน้าประเทศไทยต่อไปได้ บ้านเมืองนี้จะสงบได้ คนต้องเคารพกฎหมาย และกฎหมายต้องศักดิ์สิทธิ์ วันที่ 3 ก.ค. สำคัญมาก เที่ยวนี้การเลือกตั้งจะแข่งขันกันเข้มข้นมาก บอกได้เลยว่าถ้าจ.ระยองใครตกหล่นหายไป อาจหมายถึงเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนนายกฯได้เลย ทุกคะแนนทุกที่นั่งมีความหมาย ถ้าต้องการให้ประเทศไทยเดินหน้า มีรัฐบาลทำงานเพื่อประชาชน ต้องบอกต่อๆ ไปทุก พื้นที่ให้เลือกประชาธิปัตย์" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ต่อจากนั้นในเวลา 17.15 น. นายอภิสิทธิ์เดินทางตระเวนไปหาเสียงที่จ.จันทบุรี เดินขอคะแนนประชาชน พ่อค้า แม่ค้าผลไม้ ที่ตลาดส่งผลไม้หนองคล้า วัดศรีเมือง อ.ท่าใหม่ และเดินทางต่อไปยังลานสนามหญ้า หน้าตึกสำนักงานหอการค้า จ.จันทบุรี เพื่อพบปะและขึ้นเวทีปราศรัย ท่ามกลางประชาชนมารอมอบดอกกุหลาบคล้องพวงมาลัยจนท่วมหัว
ทั้งนี้ก่อนขึ้นเวทีปราศรัย ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ไม่ถึง 5 นาทีก็หยุดตกจนสนิท นายอภิสิทธิ์ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีตอนหนึ่งว่า ในฐานะที่เป็นคนตระกูลเวชชาชีวะ มีความผูกพันกับจันทบุรี เพราะส.ส.คนแรกที่มีนามสกุลเวชชาชีวะ คือส.ส.จันทบุรี คือลุงของตน นายประพันธ์พงษ์ เวชชาชีวะ วันนี้มีความพยายามสร้างกระแสด่าตนว่าดีแต่พูด แต่ตนมานั่งนึกดูว่าคนที่มานั่งด่าว่าดีแต่พูด เคยพูดไว้ แต่ไม่ได้ทำ แต่คนที่มาทำคือพวกตน ที่มายืนด่าว่าดีแต่พูด เคยหาเสียงกันมาทั้งนั้น เรื่องเรียนฟรี ปีแล้วปีเล่า พี่น้องก็ยังบ่นว่าไม่เรียนฟรีจริง แต่ผมใช้เวลา 99 วัน ก็ทำได้จริง ปีนี้เป็นปีที่ 3 ไม่ทราบว่า คนที่ด่าว่าดีแต่พูดไปทำอะไรอยู่ หรือมัวแต่ดีแต่พูดด้วยการด่า