ความเห็นต่อ สถานการณ์การเมืองไทย ในเวลานี้ แยกเป็นสองความคิดเห็นด้วยกัน ฝ่ายหนึ่งเห็นว่า สมควรที่จะมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารประเทศ หลังจากที่ กองทัพ เข้ามาปกครองบ้านเมืองต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 5 ปี มาจนถึงรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง
สืบทอดอำนาจชัดเจน
จาก รัฐธรรมนูญฉบับใบสั่ง ที่วางไลน์เอาไว้ให้ รัฐบาล คสช. เข้ามาสืบทอดอำนาจที่เห็นชัดเจนคือ คสช.เป็นคนตั้ง ส.ว. 250 คน และ ให้อำนาจ ส.ว.ทั้ง 250 คนแต่งตั้งนายกฯในสภา เปิดช่องให้ พรรคการเมือง ที่ไม่ได้เสียงข้างมากจากการเลือกตั้ง สามารถที่จะตั้งรัฐบาลได้โดยวิธีการซื้อเสียง ส.ส.ในสภา และ ใช้กลไกขององค์กรอิสระ ในการเอื้อให้มีการสืบทอดอำนาจได้ตามเป้าหมาย
โดยการใช้อำนาจรัฐแทรกแซง
ผลที่ตามมาคือความเสียหายในการบริหารราชการแผ่นดิน การรักษาผลประโยชน์และการเสียผลประโยชน์ของแผ่นดิน การทุจริตคอร์รัปชัน ภาคเศรษฐกิจเสียหายและกระทบกับภาคสังคม ความยากจน ประเทศไม่พัฒนา
รวยกระจุกจนกระจายของจริง
เมื่อเทียบกับเศรษฐกิจฟองสบู่เมื่อปี 2540 กับเศรษฐกิจในปัจจุบัน เห็นได้ชัดว่าในปี 2540 วิกฤติเศรษฐกิจกระทบกับสถาบันการเงิน ทุนขนาดใหญ่ บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีทั้งล้มบนฟูกและล้มละลาย แล้วกระทบไปถึงคนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่ปัจจุบันกระทบกับคนส่วนใหญ่ของประเทศแล้วกระทบไปถึงธุรกิจขนาดใหญ่ จากล่างขึ้นบน ความเสียหายจึงยากที่จะควบคุมและแก้ไข ซึมลึก คนจนยิ่งจนมากและจนที่สุด รวยยังไปกระจุกอยู่กับทุนใหญ่
สร้างความเหลื่อมล้ำทางสังคมชัดเจน
ผลกระทบไปถึง ภาคสังคม คดีอาชญากรรมรุนแรง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อยู่ในเกณฑ์อันตราย ซึ่งเกิดขึ้นจากสภาพเศรษฐกิจและความเหลื่อมล้ำทางสังคมในปัจจุบัน
...
มาถึงภาคการเมือง ที่เห็นความเหลื่อมล้ำของระบบความยุติธรรม เห็นความอ่อนแอของระบอบประชาธิปไตย และเห็นความชัดเจนของเผด็จการซ่อนรูป นำไปสู่ความขัดแย้งครั้งใหญ่ของคนในประเทศ
การยุบพรรคอนาคตใหม่ เป็นตัวเร่ง เป็นสารตั้งต้น ของการลุกขึ้นมาทวงความยุติธรรมและทวงระบอบประชาธิปไตย อันเป็นสิทธิและเสรีภาพอันชอบธรรมของประชาชน
ภายใต้ความอึดอัดของสภาวะทางการเมือง
การลุกขึ้นมาทวงความยุติธรรม โดยไม่ได้นัดหมายของ นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนเที่ยวนี้ เป็นกรณีศึกษา ที่ผู้มีอำนาจจะต้องทบทวนให้ดี จะปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
หรือจะเสียสละสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของประเทศตามแนวทางระบอบประชาธิปไตย.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th