พรรคอนาคตใหม่ ประเดิมเรื่องร้อนอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาฯ หลังถูกยุบพรรคในทันที ด้วยการเปิดประเด็นบิ๊กในรัฐบาล อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี "1MDB" (1Malaysia Development Berhad) หรือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของมาเลเซีย ซึ่งเป็นคดีอาชญากรรมทางการเงินที่อื้อฉาวโด่งดังระดับโลก
ประเด็นร้อนแรงนี้เริ่มจาก ช่อ-พรรณิการ์ วานิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ทำหน้าที่บนเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาฯ โดยเชื่อว่าจะเป็นวันเริ่มต้นที่ประชาชนออกมาเรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ตอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ภายหลังธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรค ได้ติดตามข้อมูลเรื่องนี้ด้วยตัวเอง จนได้หลักฐานสำคัญที่พัวพันถึงบุคคลสำคัญในรัฐบาล อาจเชื่อมโยงกับการทุจริตยักยอกเงินกองทุน 1MDB ของนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ซึ่งขณะนี้กำลังถูกดำเนินคดีหลายข้อหาในมาเลเซีย
แน่นอนหลายคนอาจยังไม่รู้จัก คดีทุจริตกองทุน “1MDB” ทาง “ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์” ได้เรียบเรียงให้เข้าใจอย่างง่ายๆ และอาจทำให้รื้อฟื้นเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องนี้ในที่สุด จากจุดเริ่มของคดีที่เกี่ยวโยงกับหลายๆ บุคคลในหลายวงการหลายประเทศ แม้เรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศมาเลเซีย เป็นการยักยอกเงินรัฐ 1.44 แสนล้านบาทครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ก็ตาม แต่มีตัวละครบางคนที่เกี่ยวข้องในเมืองไทย และยังสะเทือนไปถึงวงการฮอลลีวูดอีกด้วย ทำไมมีชื่อของ “ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ” นักแสดงชื่อดังเข้าไปเกี่ยว
- กองทุน 1MDB (1Malaysia Development Berhad) หรือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของมาเลเซีย ตั้งขึ้นเมื่อปี 2552 โดยรัฐบาลนายนาจิบ ราซัค เพื่อนำเงินมาพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวในการลงทุนโครงการ และอุตสาหกรรมต่างๆในต่างประเทศ เพื่อทำกำไร แต่เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไป 6 ปี กองทุนนี้กลับสร้างหนี้มหาศาล 3.7 แสนล้านบาท
- กระทั่งพบว่าเงินกองทุน "1MDB" ไหลเข้ากระเป๋าผู้ทรงอิทธิพลขี้ฉ้อ นำเงินไปซื้อของใช้ฟุ่มเฟือยหรูหราให้กับตัวเองและครอบครัว อสังหาริมทรัพย์หรู เครื่องบินส่วนตัว และงานศิลปะล้ำค่าระดับโลก พร้อมกับมีการโยงไปถึงนายนาจิบ ราซัค เป็นเหตุให้ในปี 2559 ชาวมาเลเซีย ซึ่งส่วนใหญ่เชื้อสายจีน สวมเสื้อเหลือง ประท้วงขับไล่นายนาจิบ
- แม้ชาวมาเลเซียจำนวนมากออกมาชุมนุมประท้วงอย่างไร และการเข้าร่วมของมหาเธร์ โมฮัมหมัด แต่ไม่สามารถเขย่าเก้าอี้นายกฯ ของนายนาจิบได้เลย และยังปฏิเสธข้อกล่าวหามาโดยตลอด จนปี 2561 นายนาจิบถูกมหาเธร์ซึ่งจับมือกับฝ่ายค้านที่เรียกตัวเองว่า “พันธมิตรแห่งความหวัง” โค่นอำนาจแพ้เลือกตั้ง ทำให้เขาและนางรอสมะห์ มันซอร์ ภรรยา ถูกห้ามออกนอกประเทศ
- เมื่อนายนาจิบ ตกจากเก้าอี้นายกฯ มาเลเซีย จึงถูกรัฐบาลตั้งข้อหาฟอกเงิน พร้อมกับภรรยา พร้อมกับถูกยึดทรัพย์สินมีค่า และเงินสด โดยเมื่อ 3 เม.ย. 2562 ศาลกรุงกัวลาลัมเปอร์เปิดการไต่สวนนัดแรก ในคดีที่นายนาจิบยักยอกเงินกองทุน 1MDB รวม 7 กระทง จากทั้งสิ้น 42 กระทง
- ขั้นตอนการฟอกเงินที่ซับซ้อนและการทุจริตกองทุน 1MDB อย่างเป็นระบบ ได้พัวพันบริษัทโกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งถูกรัฐบาลมาเลเซียฟ้องร้องดำเนินคดีอาญากล่าวหาว่าหลอกลวงนักลงทุนให้ช่วยระดมทุนเข้ากองทุน 1MDB
- การเริ่มต้นขุดคุ้ยทุจริตกองทุน 1MDB เกิดจากนางแคลร์ ริวแคสเซิล บราวน์ นักข่าวสายสืบสวนสอบสวน เว็บไซต์ซาราวัก รีพอร์ต ได้เกาะติดเปิดโปงจนรู้เส้นทางการเงิน โดยเฉพาะมีเงินเข้าบัญชีส่วนตัวนางรอสมะห์ มันซอร์ ภรรยาของนายนาจิบ ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐอย่างน้อย 6 ประเทศ สอบสวนเส้นทางธุรกรรมทางการเงิน
- คดีนี้เกี่ยวข้องกับเมืองไทย เพราะนางแคลร์ มาพบนายซาเบียร์ จูสโต อดีตนายธนาคารชาวสวิส มาทำธุรกิจโรงแรมในเกาะสมุย ทั้งคู่นัดคุยที่โรงแรมดังย่านถนนวิทยุ มีการมอบข้อมูลกองทุน 1MDB ให้นางแคลร์ จนปี 2558 มีกระแสว่านายซาเบียร์ถูกกดดันให้สารภาพว่ากุเรื่องกองทุน 1MDB จนถูกตำรวจไทยตั้งข้อหาข่มขู่บริษัท เปโตร ซาอุดี ถูกจำคุก 3 ปี และได้รับอภัยโทษ เมื่อปี 2559
- ตัวละครอีกคน "หลอ เต็ก โฮ" หรือโจ โลว์ นักการเงินปีนัง ชาวมาเลเซีย ให้ความช่วยเหลือในการผ่องถ่ายเงินให้นายนาจิบ และเป็นคนชอบคลุกคลีกับไฮไซคนดังในแวดวงฮอลลีวูด จนร่วมมือกับนายริซา อาซิส ลูกเลี้ยงของนาจิบ สร้างหนังเรื่อง "The Wolf of Wall Street" จน “ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ” คว้านักแสดงยอดเยี่ยมรางวัลลูกโลกทองคำ
...
สำหรับ "โจ โลว์" ตัวละครคนสำคัญ ที่ช่อ-พรรณิการ์ ระบุว่า รัฐบาลสิงคโปร์ขอให้ตำรวจสากลออกหมายแดงติดตามตัวตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2559 และพบว่า โจ โลว์ มีการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยถึง 5 ครั้ง โดยเครื่องบินส่วนตัวทั้งในสนามบินกรุงเทพฯ และภูเก็ต กระทั่งออกจากไทยครั้งสุดท้ายในวันที่ 13 พ.ค. 2561 เพียง 3 วัน หลังจากนายนาจิบแพ้การเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามและตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงจากผู้เกี่ยวข้อง แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งนี้ หากมีข้อมูลข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจะรายงานให้ทราบต่อไป.