กมธ.ป.ป.ช.เดือดอีก "สิระ" ปะทะ "เสรีพิศุทธ์" ซัดไม่ยอมรับเรื่องสร้างบ้านหรูของตัวเองริมน้ำรุกเจ้าพระยา ถึงเดินออกห้องประชุม "ปารีณา" ผสมโรง ชี้ วีรบุรุษนาแก ทำไม่เหมาะสม ขณะ เสรีพิศุทธ์ แจง ขออนุญาตกรมเจ้าท่าถูกต้อง
วันที่ 5 ก.พ. ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธาน โดย นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรค พปชร. ในฐานะ กมธ.ป.ป.ช. ได้ขอยื่นเรื่องให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของกรมเจ้าท่า ที่ปล่อยให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ สร้างบ้านริมน้ำในลักษณะเข้าข่ายรุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยาหรือไม่ หลังพาสื่อมวลชนล่องเรือลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว เมื่อ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไม่ขอรับเรื่องดังกล่าวไว้ แต่ให้นายสิระ ยื่นต่อเลขานุการกมธ.เอง เพราะนายสิระแทรกเรื่องระหว่างกำลังหารือวาระอื่น ทำให้เกิดปากเสียงแสดงความไม่พอใจ จาก นายสิระ ที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่ยอมรับเรื่องด้วยตัวเอง
โดยนายสิระ ได้กล่าวว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กลัว ส.ส.สิระ ทั้งที่ผ่านมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็รับเรื่องจากคนอื่นๆ โดยตรงมาตลอด ขณะที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบโต้ว่า เป็นเพราะไม่อยากให้เกียรตินายสิระ ก่อนที่นายสิระจะเดินออกจากห้องประชุมไป โดยมีนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกมธ.ป.ป.ช.อีกคน พยายามทักท้วง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถึงความไม่เหมาะสมที่ไม่ยอมรับเรื่องดังกล่าว จนมีการประท้วงตอบโต้กันไปมา ระหว่าง นางสาวปารีณา กับ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จึงได้เชิญสื่อมวลชนออกจากห้องประชุมเพื่อไม่อยากให้เห็นภาพความวุ่นวายที่เกิดขึ้น
...
ด้านพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงกรณีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ ยื่นเรื่องให้คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. ตรวจสอบบ้านพักริมแม่น้ำเจ้าพระยา ติดวัดจันทร์สโมสร ย่านเกียกกาย โดยยอมรับว่า บ้านพักหลังดังกล่าวเป็นบ้านพักของตนเองจริง ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างมาเป็นเวลานานแล้ว จนเกิดจากปัญหาน้ำกัดเซาะตลิ่ง ยืนยันว่า ไม่ได้รุกล้ำลำน้ำ ส่วนการสร้างท่าเรือ ก็ขออนุญาตกรมเจ้าท่าถูกต้องตามกฎหมาย
โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อธิบายว่า จนกระทั่งปี 2552 มีนายตำรวจที่ตนเองสั่งสอบสวนกรณีเกี่ยวพันกับ บ่อน ป.ประตูน้ำ ร้องให้ตรวจสอบท่าเรือบริเวณบ้านพักตนเอง จนมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน และมีผลสรุปทั้งฝ่ายตำรวจและอัยการไม่สั่งฟ้อง จึงถือว่าคดีถึงที่สุดแล้ว เว้นแต่จะมีพยานหลักฐานใหม่ ซึ่งท่าเรือก็ไม่เคยมีการต่อเติมอะไรใหม่ นอกจากที่กรมเจ้าท่าเคยอนุญาตไว้ พร้อมมองว่า นายสิระ ไม่เข้าใจการทำหน้าที่กรรมาธิการ ว่าเรื่องใดที่อยู่ในการพิจารณาขององค์กรอิสระและศาลก็ให้ยุติ เรื่องใดที่ต้องดำเนินการก็ให้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาซักถาม แล้วค่อยลงพื้นที่ตรวจสอบ ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับ
ส่วนถือว่าเป็นการจงใจเล่นงานส่วนตัวหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ชัดเจนอยู่แล้วว่า มีปัญหากันมาโดยตลอด ที่นายสิระเข้ามาทำหน้าที่ในคณะกรรมาธิการชุดนี้ เพื่อยุติกรณีซักถามเกี่ยวกับปัญหาถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ถูกต้อง แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะรับเรื่องที่นายสิระจะขอให้ดำเนินการไว้ผ่านทางเลขานุการกรรมาธิการ แต่จะไม่รับด้วยตนเอง และตอบโต้ด้วยข้อหาหมิ่นประมาทหรือแจ้งความอันเป็นเท็จ และคงจะต้องฟ้องต่อไปเรื่อยๆ แต่คงไม่ถึงกับให้ต้องมากราบเท้าในภายหลัง เพราะกรณีนี้ไม่ได้เป็นเรื่องหนักเหมือนนายสัตวแพทย์ ธีทัชฐ์ เกียรติลดารมย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ