“จุรินทร์” เผย ที่ประชุมเคาะ “หน้ากากอนามัย-เจลล้างมือ” เป็นสินค้าควบคุม เตรียมชง ครม.เห็นชอบ แก้ปัญหาขาดแคลน-กักตุน-โก่งราคา รับสถานการณ์ไวรัสโคโรนา เชือดแล้วคนขายฉวยโอกาส
วันที่ 3 ก.พ. 2563 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ กกร. ครั้งที่ 1/2563 แถลงว่า ที่ประชุมเห็นชอบกำหนดให้หน้ากากอนามัยและวัตถุดิบในการผลิต รวมถึงเจลล้างมือแอลกอฮอล์ เป็นสินค้าควบคุม ก่อนนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบ หากให้ความเห็นชอบจะเร่งดำเนินการให้มีผลบังคับใช้ทันที และจะทำให้สินค้าควบคุมตามกฎหมายเพิ่มขึ้นเป็น 54 รายการ จากเดิม 52 รายการ ซึ่งจะทำให้สามารถควบคุมราคาและปริมาณ รวมถึงกระจายสินค้าไปยังที่ๆ ขาดแคลนทั่วประเทศได้ เพื่อให้สินค้าทั้ง 2 ชนิด มีปริมาณที่เพียงพอในประเทศก่อน และจะมีมาตรการอื่นๆ ตามมา รวมถึงการส่งออกหากเกิน 500 ชิ้น ก็ต้องขออนุญาตจากกรมการค้าภายใน
จากการตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน เพื่อแก้ปัญหาหน้ากากอนามัยและเวชภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องขาดแคลน ขณะที่กรมการค้าภายในก็มีการติดตามสถานการณ์ การผลิตและการใช้ในภาวะปกติ สมดุล แต่จากสถานการณ์ไวรัสโคโรนาจะมีความต้องการใช้มากขึ้นจำนวนหนึ่ง อาจจะถึง 40-50 ล้านชิ้นต่อเดือน จึงจะต้องประสานให้เร่งผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการใช้ในประเทศ และวันนี้จะประชุมกับผู้ผลิตอีกครั้ง
“มาตรการที่จะออกมาหลังที่ประชุม ครม. ให้ความเห็นชอบ จะเป็นมาตรการระยะสั้น ใช้เท่าที่จำเป็น และถ้าพ้นจากภาวะไม่ปกติก็จะยกเลิกทันที ทางวอร์รูมกระทรวงพาณิชย์จะติดตามใกล้ชิด หาก ครม. เห็นชอบจะดำเนินการให้เสร็จภายใน 1-2 วัน”
...
จากนั้นผู้สื่อข่าวตั้งคำถามว่า แม้กระทรวงพาณิชย์จะยืนยันว่าสินค้าไม่ขาดตลาด แต่ห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อกลับไม่มีสินค้ามีการประสานผู้ประกอบการอย่างไร โดย นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ให้คำตอบว่า เบื้องต้นผู้ประกอบการหลายรายใช้วิธีการจำกัดปริมาณการขาย และห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่ปกติไม่ได้ขายหน้ากากอนามัย หรือไม่ได้มีขายเป็นการเฉพาะ เมื่อประชาชนไปซื้อก็เหมือนกับสินค้าขาดแคลน แต่ทางกรมการค้าภายในก็มีการประสานขอความร่วมมือวางขายแล้วเพื่อให้ทั่วถึงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเตรียมประสานกรมศุลกากรให้มีการสุ่มตรวจด้วย
อย่างไรก็ตาม นายวิชัย ยกตัวอย่างด้วยว่า หากหน้ากากชนิด N95 ราคาเกิน 60 บาท อาจจะต้องเข้าไปจัดการ เรียกเข้ามาถามเหตุผล ใช้มาตรา 29 ของพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ออกหมายเรียกคนเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย มีฟ้องไปแล้ว 1 รายที่สำเพ็ง และส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี รวมถึงการขายสินค้าออนไลน์ด้วย ปัจจุบันมีข้อร้องเรียนเข้ามา 100 กว่าราย กำลังส่งเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการ.