ต้องดูของจริง?

เป็นอันแน่นอนแล้วว่า 6 พรรคฝ่ายค้านได้ยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเรียบร้อยไปแล้ว รอวันเวลาที่ชัดเจนว่าจะเปิดเกมกันเมื่อใดเท่านั้น

6 รัฐมนตรีตัวเลขเท่ากับ 6 ฝ่ายค้านพอดิบพอดี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ

ว่ากันว่าราย “บิ๊กป้อม” นั้นเป็นปัญหาทำให้ต้องชักเข้าชักออกอยู่หลายรอบกว่าจะลงตัวได้เมื่อพรรคอนาคตใหม่ขอให้ใส่ชื่อลงไปด้วย

หากมองกันในแง่ยุทธศาสตร์แล้วอนาคตใหม่มุ่งหวังไปที่เรื่องของกองทัพและความมั่นคงเพื่อให้สอดรับกับนโยบายของพรรคที่กำลังขับเคลื่อนอยู่อย่างเช่นยกเลิกการเกณฑ์ทหาร

พูดกันตรงๆก็คือมุ่งโจมตีกองทัพเพื่อชี้ให้เห็นว่านี่แหละคือต้นตอของการปฏิวัติ ยึดอำนาจอันเป็นการทำลายประชาธิปไตย

แม้ว่าครั้งนี้ พล.อ.ประวิตรไม่ได้นั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหมก็จริง แต่ยังรับผิดชอบด้านความมั่นคงอยู่จึงไม่ผิดฝาผิดฝั่งแต่อย่างใด

อย่างเรื่อง “นาฬิกายืมเพื่อน” ก็แค่น้ำจิ้มเท่านั้น...

แต่เรื่องใหญ่ใจความอยู่ที่ต้องการให้แยกกองทัพออกจากการเมืองเป็นหลักก็คงว่าด้วยเรื่องราวต่างๆ ที่ส่องไปในกองทัพที่ผ่านมาได้เกิดอะไรขึ้น

การซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ การใช้งบประมาณ งบลับเงินใต้โต๊ะ การบังคับบัญชาทหารด้วยรูปแบบเก่าๆ

การเข้ามามีอำนาจในทางการเมืองหนุนนำให้ “3 ป.” เข้ามามีอำนาจเบ็ดเสร็จและยังสืบทอดอำนาจอย่างต่อเนื่องภายใต้รัฐธรรมนูญที่เอื้อต่อฝ่ายอำนาจ

...

จากนั้นก็ทิ้ง “ไพ่” ไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกฯ

ที่สุดก็คือทุกกระบวนท่าล้วนพุ่งเป้าไป “ลุงตู่” อย่างชัดเจน แค่ฟังประเด็นที่จะซักฟอกก็คงได้เห็นแล้วสารพัดข้อหา

ถึงขั้นระบุว่า...“กร่าง เถื่อน” คิดดูก็แล้วกัน?

อีกราย อย่าง พล.อ.อนุพงษ์ ซึ่งรับผิดชอบมหาดไทยมาตั้งแต่รัฐบาล คสช. 1 ใน 3 ป. แม้จะวางบทบาทค่อนข้างดีแบบพูดน้อยต่อยหนักก็คงว่ากันเรื่องเก่าๆนั่นแหละคือไฟฟ้าขยะ แต่ว่าไปแล้วมุ่งหวังไปถึง “บูรพาพยัคฆ์” มากกว่า

อันบ่งบอกถึงการเข้ามามีอำนาจของ คสช. ต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลปัจจุบันที่ปกป้องพวกเดียวกัน แต่ไปฟาดฟันฝ่ายตรงข้าม

อันไม่ต่างไปจาก ดร.วิษณุ มือกฎหมายชั้นนำที่ใช้ความสามารถ ทางกฎหมาย การพูดจาชัดถ้อยชัดคำ ค้ำยันรัฐบาลรอดช่องกฎหมาย

หากไม่มี “มือกฎหมาย” คนนี้ป่านฉะนี้เรือเหล็กคงจมไปแล้ว เพราะการเมืองในยุคสมัยนี้เรื่องข้อกฎหมายเป็นประเด็นใหญ่

เป็นยุค “หัวหมอ” ล่อกันอุตลุด

การนำชื่อ ดร.วิษณุ ขึ้นเขียงชำแหละก็คงต้องการดิสเครดิตนักกฎหมายมือดี ภาพดี รับใช้การเมืองอย่างสุดจิตสุดใจทำนองนั้น

หากมองรูปการณ์ต่างๆแล้วศึกซักฟอกครั้งนี้ก็เพื่อเล่นงาน พล.อ.ประยุทธ์เต็มๆด้วยองคาพยพเพื่อให้ภาพความเป็นผู้นำประเทศขาดการยอมรับ

แถมยังหิ้ว “ผู้กองนัส” พ่วงมาอีกคน...คือตั้งรัฐมนตรีที่มีรอยด่าง!

“สายล่อฟ้า”