จะไปต่อกันยังไง...

ก่อนอื่นต้องว่ากันถึงข่าวดีเมื่อรัฐบาลจีนได้รับอนุญาตให้รัฐบาลไทยส่งเครื่องบินไปรับคนไทยที่ “อู่ฮั่น” กลับบ้านเกิดเมืองนอนเสียที

ถ้าเป็นไปตามนั้นป่านนี้ก็คงถึงเมืองไทยกันแล้ว

จะได้หยุดด่ารัฐบาลกันเสียที ถ้าให้ดีหันมาช่วยกันแก้ไขปัญหา “โคโรนา” เพื่อชีวิตและความปลอดภัยที่สำคัญสุด

“เฟกนิวส์” จะได้ลดลงไปบ้าง มิฉะนั้นจะสร้างความสับสนวุ่นวาย ทุกข์ใจ ตื่นตระหนกตกใจทั้งที่ไม่เป็นความจริงต้องการล้มรัฐบาล

หรือนักการเมืองที่พยายามเล่นนอกเกมยกตนข่มท่าน สร้างข่าวสร้างประเด็นเพราะหวังผลทางการเมือง

นี่โลกปัจจุบัน เมื่อ “สื่อโซเชียล” ที่บทบาทและพลังที่สำคัญอันไม่ต่างไปจากการเปิดโลกใหม่ของมนุษยชาติ

ด้านดีสร้างสรรค์ก็มาก

สร้างความเสียหายก็เพียบ

การเลือกใช้เลือกเสพโซเชียลจึงต้องพึงระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญก็คือ อย่าไปใช้ในทางไม่ดีก็จะไม่เกิดประโยชน์เพราะวันนี้การปล่อยข่าวเท็จไม่ใช่เกิดแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่กลายเป็นเรื่องของโลกไปแล้ว

ล่าสุดองค์การอนามัยโลกได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่ไวรัสตัวนี้ได้แพร่ระบาด

เบื้องต้นก็ต้องเข้าใจว่าการที่องค์การอนามัยโลกประกาศในลักษณะนี้หลังจากประเมินสถานการณ์ผิดพลาดที่ประกาศล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็นหลังจากที่เชื้อตัวนี้ได้แพร่ระบาดไปนอกประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเป็นเช่นนี้ประเทศต่างๆ สามารถที่จะจำกัดการเดินทางและส่งสินค้าเข้าออกได้ เพราะเป็นระเบียบโลกที่ตกลงกันไว้แล้ว

แต่ละประเทศหากไม่มั่นใจว่าสถานการณ์ลุกลามหรือหวั่นว่าจะนำเชื้อเข้ามาระบาดในประเทศก็สามารถสั่งห้ามได้

...

หลังประกาศนี้เท่ากับว่าจีนได้ถูกปิดล้อมทางการค้าและเศรษฐกิจไปโดยปริยาย ผ่านทางกลไกทางสาธารณสุข

แม้ว่าจีนจะทุ่มเทเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเอาการเอางาน กล้าตัดสินใจอย่างเฉียบคม แต่ในสภาพความเป็นจริงการจัดการปัญหานี้ต้องกินที่กินเวลา

เพราะไวรัสชนิดนี้ระบาดไปได้อย่างรวดเร็วจากประเทศหนึ่งไปยังประเทศหนึ่ง ซึ่งวันนี้ได้พบแล้วในหลายประเทศ

ว่าไปแล้วนี่เป็นปัญหาของโลกที่เกี่ยวพันกับคนทั้งโลก

ไม่ว่าชาติใดชาติหนึ่ง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องร่วมมือร่วมใจกันฝ่าภัยนี้กันไปให้ได้ไม่ว่าผิวขาว ผิวเหลือง ตะวันตก ตะวันออก ต่างก็เป็น “คน” มีชีวิตจิตใจเหมือนกัน ดังนั้น การจะอยู่ร่วมกันได้ล้วนมีชีวิตเหมือนกันทั้งนั้น

จิตสำนึกตรงนี้จึงต้องอยู่ในใจเสมอ

เช่นกัน ไทยเองก็เหมือนกันหากเอาเรื่องนี้มาสร้างข่าว สร้างประเด็น จริงบ้างโกหกบ้างเพื่อหวังประโยชน์เฉพาะตัวตนหรือพวกพ้องจึงไม่ควรอย่างยิ่ง

“นักการเมือง” ในฐานะที่เป็นตัวแทนของประชาชนควรที่จะร่วมมือร่วมใจ สามัคคีเป็นหัวหอกหัวกระบวนเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาของชาติ

แม้แต่ชีวิตคนไทยด้วยกันเอง...ยังไม่อีนังขังขอบ.

“สายล่อฟ้า”