“ประยุทธ์” แถลงหลังประชุม ครม.สัญจรที่นราธิวาส ยัน รับเรื่องเข้าพิจารณา เผย สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศเข้มเรื่องฝุ่น PM 2.5 ส่วนเรื่องหยุดเรียนเป็นอำนาจของ ผอ. แต่ต้องหาวันทดแทนด้วย
วันที่ 21 ม.ค. 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2563 (ครม.สัญจร) ว่า เป็นไปได้ความเรียบร้อย พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนมาหารือร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนต่อไปในอนาคต ซึ่งแผนพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนภาคใต้ก็นำเข้าสู่การพิจารณาใน ครม.วันนี้ ซึ่งบางอย่างอยู่ในงบประมาณปี 2563 แล้ว และคาดว่าจะยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ได้ ส่วนแนวทางลดความรุนแรงคือการพัฒนานำการทหาร และปัจจุบันสถานการณ์การใช้ความรุนแรงลดลงมากแล้ว ลดลงทุกปี แต่ก็ยังสั่งการเพิ่มความเข้มงวดให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายด้วย
สำหรับเรื่องฝุ่นพิษ PM 2.5 พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า ให้สร้างความเข้าใจร่วมกัน ขณะนี้มีแผนแม่บทร่วมกันทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวทุกมิติ ต้องดูว่าแต่ละพื้นที่ความเข้มมีระดับใด หากมีมากก็ออกมาตรการเฉพาะพื้นที่นั้นๆ ซึ่งสาเหตุหลักของปัญหาฝุ่น PM 2.5 มาจากการจราจร, การเผา, อุตสาหกรรม และการก่อสร้าง ต้องเข้าใจในข้อเท็จจริงเหล่านี้ พร้อมขอให้ทุกคนร่วมมือกัน เริ่มที่ตัวเองก่อน เพราะหากใช้มาตรการแรงก็จะเกิดข้อขัดแย้ง เรื่องควันดำก็สั่งกวดขัน จับกุม ปรับ ให้เข้มงวดที่สุดตามกฎหมายปกติ
ทั้งนี้ ได้สั่งการไปแล้วว่า ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศดูแลในเรื่องนี้ ส่วนการหยุดเรียนก็เป็นอำนาจของผู้อำนวยการโรงเรียนอยู่แล้วที่จะสั่งหยุด แต่ต้องหาเวลาสอนทดแทนให้เด็กนักเรียน เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่ครบชั่วโมง ถ้าทุกคนเสนอยาแรงอาจจะเกิดปัญหาตามมา พร้อมย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ทำทุกอย่างมาตลอด มาตรการเสริมอยู่ในแผนแม่บทของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ต้องใช้งบประมาณสูง ส่วนรายละเอียดจะออกมาในวันที่ 23 ม.ค. หลังการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ รวมทั้งการแก้ปัญหาเหล่านี้ก็ต้องเข้าใจความเดือดร้อนของผู้มีรายได้น้อยด้วย
...
“รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นพิเศษ ทั้งเด็กทารก นักรียน คนชรา คนตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยง ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ใช้หน้ากากป้องกัน ขอให้ช่วยกันสร้างความเข้าใจ นอนไม่หลับตลอดเรื่องนี้ ส่วนเรื่องที่ดารา นักร้อง ออกมาโพสต์ กรุณาฟังผมบ้าง ทุกคนอึดอัด ผมก็อึดอัด อยากให้เปิดใจและทำความเข้าใจร่วมกัน เพราะล้วนเกิดจากการกระทำของมนุษย์ทั้งสิ้น ร่วมมือกันรับรู้มีจิตสำนึกร่วมกันในเรื่องสิ่งแวดล้อม ทำไปตามกฎหมาย หลายอย่างทำไปแล้วแต่ยังไม่ดีขึ้น ต้องหยุดเผา รถที่ก่อมลพิษหยุดวิ่ง ต้องรถตำรวจไปจับหรือ ใครพบเห็นควันดำก็แจ้งเจ้าหน้าที่ให้จับ”
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันด้วยว่า ครม.รับทุกเรื่องไปพิจารณาสู่การขับเคลื่อน ในส่วนของคดีเกี่ยวกับรุกป่า ก็อยู่ในระหว่างการสอบสวนดำเนินคดี ทุกอย่างทำให้เกิดความโปร่งใส เท่าเทียม ขณะที่กรณี ส.ส.ไม่เข้าประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก็เป็นเรื่องของสภา อย่าเอาทุกปัญหามาถาม ต้องไปถามเจ้าตัวด้วย อย่าเอาปัญหานิติบัญญัติมาถามฝ่ายบริหาร แต่ฝ่ายนิติบัญญัติตรวจสอบฝ่ายบริหารได้ ยอมรับกติกาตรงนี้ พร้อมทิ้งท้ายว่า “ถ้าพูดสิ่งที่ดีความเชื่อมั่นก็เกิดขึ้น ฝากให้ช่วยกันคิดช่วยกันทำ ขอพักสมองใช้หัวไปเยอะ 2 วันนี้”.
(ภาพประกอบจาก thaigov.go.th)