ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษายกฟ้อง นายพานทองแท้ ชินวัตร พ้นผิดคดีฟอกเงินกู้ธนาคารกรุงไทย
ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดอ่านคำพิพากษาเวลา 10.00 น. วันที่ 25 พ.ย.นี้ เป็นคดีที่คณะกรรมการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายพานทองแท้ ชินวัตร ความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบการฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5, 9 และ 60 และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฉบับที่ 5 พ.ศ.2558 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 และ 91
คดีนี้พนักงานอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 10 ต.ค.61 กรณีนายพานทองแท้รับโอนเงินเป็นเช็คจำนวน 10 ล้านบาทเข้าบัญชี โดยเงินนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำจากการทุจริตปล่อยเงินกู้สินเชื่อระหว่างธนาคารกรุงไทยกับกลุ่มกฤษดามหานคร ที่มีนายวิชัย กฤษดาธานนท์ อายุ 80 ปี ผู้บริหารกฤษดามหานคร กับนายรัชฎา กฤษดาธานนท์ อายุ 53 ปี บุตรชาย และอดีตคณะผู้บริหารธนาคารกรุงไทยตกเป็นจำเลย คดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีดังกล่าวศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้จำคุกนายวิชัยและนายรัชฎา บุตรชาย คนละ 12 ปี นอกจากนี้นายวิชัย นายรัชฎา และกลุ่มอดีตกรรมการบริษัทเอกชนในเครือกฤษดารวม 6 คน ยังถูกอัยการยื่นฟ้องความผิดฐานฟอกเงินการปล่อยกู้ดังกล่าวต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบด้วย
ชั้นพิจารณาศาลอาญาคดีทุจริตฯ “นายพานทองแท้” จำเลยก็ให้การปฏิเสธสู้คดีว่าไม่ได้กระทำผิดตามฟ้อง ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นส่วนที่จะร่วมลงทุนธุรกิจนำเข้ารถซุปเปอร์คาร์กับนายรัชฎา บุตรชายของนายวิชัย อดีตผู้บริหารกฤษดามหานคร ขณะที่ “นายพานทองแท้” ได้รับการประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี 1 ล้านบาท พร้อมเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
...
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่าผู้กระทำความผิดรับโอนเงินตามพระราชบัญญัติการฟอกเงินนั้นบุคคลนั้นต้องรู้ว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมามีเพียงว่านายวิชัย คือ ผู้ถือหุ้นของกลุ่มกฤษดามหานคร และนายรัชฎา บุตรชายมีความสนิทกับครอบครัวของจำเลยซึ่งขณะนั้น นายทักษิณ ชินวัตร บิดาของจำเลยเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นเพียงเพื่อนสนิทที่มีการใช้ชีวิตทำกิจกรรมคล้ายกัน
การรับเช็คจากนายวิชัยมาเป็นเพียงเพื่อการลงทุนนำเข้ารถยนต์หรู โดยระหว่างที่นายพานทองแทได้รับโอนเงินมานั้นมีการเบิกถอนเงินคราวละ 5,000 - 20,000 บาทรวม 11 ครั้งไม่ได้เป็นพิรุธผิดสังเกตแต่อย่างใดบัญชีดังกล่าว เป็นลักษณะเปิดเผยไม่มีลักษณะเป็นการอำพรางแหล่งที่มา สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา
ขนาดจำเลยรับโอนเงินมีอายุ 26 ปี จบการศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และมีทรัพย์สินมากกว่า 400 ล้านบาท เงินจำนวน 10 ล้านบาทที่ได้รับมาหากเทียบแล้วคิดเป็นเงินเพียง 0.025% เท่านั้นพยานโจทก์ฟังไม่ได้ว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง แต่ผู้พิพากษาของคณะมีความเห็นแย้งจึงได้ทำความเห็นแย้งประกอบไว้ในคำพิพากษานี้
ภายหลังนายพานทองแท้ กล่าวว่า "ขอบคุณทุกกำลังใจ" ส่วนคุณหญิงพจมาน กล่าวว่า "ก็รู้สึกสบายใจขึ้น"
อย่างไรก็ตามฝ่ายโจทก์สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายในหนึ่งเดือนนับจากวันอ่านคำพิพากษานี้.