นับถอยหลังเวลาก่อนศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” สมาชิกภาพ ส.ส. จะสิ้นสุดลงหรือไม่ หลัง กกต. ร้องคดีถือครองหุ้น วี-ลัค มีเดีย
อีกเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็จะถึงเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญจะออกนั่งอ่านคำวินิจฉัย กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ ในคดีการถือครองหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น ไทยรัฐออนไลน์ ขอย้อนเวลากลับไปช่วงสายวันที่ 15 พ.ย. 2562 ที่ นายธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวปิดคดีปมถือหุ้นสื่อ บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ที่พรรคอนาคตใหม่ โดยเจ้าตัวชี้แจงดังนี้
1. บริษัท วี-ลัค ไม่ใช่สื่อแล้ว เนื่องจากยุติการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. 2561 ไม่มีผลิตภัณฑ์ ไม่มีสินค้า ไม่มีรายได้ ไม่มีพนักงาน และวันที่ตนเองไปสมัคร ส.ส. เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2562 บริษัท วี-ลัค ไม่มีสิ่งเหล่านี้แล้ว
2. คำถามที่ว่ายังเป็นผู้ถือหุ้นสื่อหรือไม่ โดยมีการอ้างอิง บอจ.5 ว่ายังเป็นผู้ถือหุ้นสื่อจนถึงวันที่ 21 มี.ค. 2562 นั้น นายธนาธร แจงว่า ข้อเท็จจริงในการทำธุรกรรมการโอนหุ้นระหว่างตนเองกับ นางสมพร (มารดา) จนถึงวันนี้ ยังไม่มีใครมีหลักฐานเป็นอื่น หรือหนักแน่นเพียงพอที่จะมาหักล้างข้อเท็จจริงของการโอนหุ้นได้ และธุรกรรมได้เสร็จสิ้นในวันที่ 6 ม.ค. 2562 ไปแล้ว
3. การถือหุ้นสื่อผิดเจตนารมณ์หรือไม่ ส่วนตัวชี้ให้เห็นแล้วว่าไม่มีเจตนารมณ์ที่จะใช้บริษัท วี-ลัค หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัท วี-ลัค ให้คุณให้โทษใดๆ อีกทั้งบริษัท วี-ลัค ยังปิดตัวก่อนที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 จะประกาศออกมา
...
พร้อมกันนี้ นายธนาธร ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงอนาคตทางการเมืองต่อจากนี้ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาเป็นทางลบ ซึ่ง นายธนาธร ตอบว่า “พรรคอนาคตใหม่คือการเดินทาง เรามีเป้าหมาย มีความฝันทางการเมือง ดังนั้นการเดินทางมันเกิดขึ้นต่อไป และขอย้ำอีกครั้งว่าคดีวี-ลัค ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับการยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีวี-ลัค คือมาตรา 98 (3) คือคุณสมบัติการเป็น ส.ส.ของผม ไม่เกี่ยวกับเรื่องการยุบพรรค ไม่เกี่ยวกับหัวหน้าพรรค ไม่เกี่ยวกับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพราะการเป็นหัวหน้าพรรคไม่ได้ยุติไปด้วย และ ธนาธร ในฐานะหัวหน้าพรรคไม่มีคดีอะไร เราตั้งพรรคขึ้นมาก็เล่นตามกติกา เราแพ้หรือชนะเลือกตั้งก็เล่นตามกติกา งานในสภาฯ ส.ส.ของเราก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเราก็เล่นในกติกา ทำงานอย่างมุ่งมั่น สร้างสรรค์ และจริงใจในกติกา เราอยู่และทำงานในกรอบของกฎหมาย”
ทั้งนี้ มีคำถามหนึ่งในนั้นจากผู้สื่อข่าวต่างประเทศด้วยว่า วันพุธที่ 20 พ.ย. จะไปศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่ง นายธนาธร ตอบว่า “คิดว่าคงต้องไป I think, I have to go.” พร้อมทั้งเชื่อว่ายังมีคนสนับสนุนพรรคอยู่มาก แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่ยังไม่เชื่อในความจริงใจของเรา มีวิธีเดียวคือให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเราทำอย่างที่พูดจริงหรือไม่ เมื่อมีอำนาจ เราใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองหรือใช้อำนาจนั้นเพื่อประชาชน.