ธรรมเนียมชาวบ้าน ห้ามเหยียบธรณีประตูบ้านครับ แต่หากพลั้งเผลอกันบ้าง ก็ปล่อยๆกันไป ไม่ว่ากัน
เข้มงวดกวดขันกันอีกหน่อย ธรณีประตูโบสถ์ ยิ่งตอนที่ประคองนาคเข้าไปบวช พ่อแม่ที่ตามแห่ประคองพ่อนาค มักจะมีเสียงบอกกันดังๆ ระวัง อย่าเหยียบธรณีประตู
ในหนังสือ เรื่องจริงของจริง ในนิยายอิงประวัติศาสตร์ไทย สี่แผ่นดิน (พลตรี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ประพันธ์) กับเรื่องจริง ในราชสำนักสยาม (สำนักพิมพ์มติชน) คุณศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย เขียนเรื่อง ธรรมเนียมห้ามเหยียบธรณีประตู ไว้ว่า
เมื่อขึ้นจากเรือที่ท่าพระ แม่แช่มพาพลอยเดินเลาะกำแพงวัง เรื่อยมา ได้สักครู่จึงเลี้ยวเข้าประตูชั้นนอก
ประตูที่แม่แช่มพาพลอยผ่านเข้ามานั้น เป็นประตู พระบรมมหาราชวังชั้นนอกและชั้นกลาง ชั้นนอกเป็นประตูในกำแพงที่อยู่ริมถนนมหาราช เรียกประตูช่องกุด
เมื่อผ่านเข้ามาถึงลานกว้าง มีหาบขายของ และของที่วางขายก็ดูมีมากมายเหลือขนาด ลานกว้างนั้นคือ ถนนเขื่อนขันธ์นิเวศน์ ซึ่ง
เป็นถนนคั่นระหว่างกำแพงชั้นนอก กับกำแพงชั้นกลาง มีประตูตรงกับประตูช่องกุด คือประตูศรีสุดาวงศ์
ทั้งสองประตูเป็นทางเข้าออกของผู้คนในพระราชสำนักฝ่ายใน จะเปิดเวลา 06.00 น. และปิดเวลา 18.00 น.
ประตูศรีสุดาวงศ์ เป็นประตูเข้าสู่พระราชฐานชั้นใน มี ลักษณะเป็นประตูใหญ่สองบาน ซึ่งปกติจะปิดอยู่เสมอ ในบานใหญ่ จะมีประตูบานเล็กสำหรับเปิดปิดให้คนเข้าออกเป็นประจำ
ด้วยเหตุที่มีประตูบานเล็กซ้อนอยู่ในประตูบานใหญ่ จึงทำให้มีธรณีประตูค่อนข้างหนา ชาววังถือกันว่า ประตูพระบรมมหาราชวังทุกๆแห่ง มีเทวดารักษาอยู่ เวลาเข้าออกให้เดินข้ามผ่านไป
หากผู้ใดพลั้งเผลอไปเหยียบเข้า โขลนเฝ้าประตูจะดุว่า หรืออาจสั่งให้ลงกราบขอขมาธรณีประตูนั้น
พลอยเข้าวังครั้งแรกก็พบกับเรื่องที่ทำให้ตกใจกลัว และทำให้รู้จักกับคนที่เรียกว่าโขลน เมื่อพลอยเหยียบธรณีประตู ก็ได้ยินเสียงใครคนหนึ่ง ร้องราวกับฟ้าผ่าว่า “หยุด หยุดเดี๋ยวนี้ กลับมาที่นี่ก่อน”
โขลนเป็นพนักงานสังกัดกรมโขลน มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงรัตนโกสินทร์ ทำหน้าที่คล้ายตำรวจนครบาลของราชสำนักฝ่ายหน้า กรมโขลนสังกัดกระทรวงวัง มีการบังคับบัญชาตามลำดับชั้น
ตั้งแต่นาย (โขลนทุกคนเป็นผู้หญิง) จนถึงจ่า ชั้นสูงสุดคือหลวงแม่เจ้า ทั้งหมดมีอธิบดีโขลนเป็นผู้บังคับบัญชา
หน้าที่สำคัญของกรมโขลน ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยความปลอดภัย และกวดขันให้ทุกคนปฏิบัติตามขนบประเพณี ที่อยู่ในขอบเขตของกฎมณเฑียรบาล
ใครทำผิดหรือพลั้งเผลอทำผิดขนบประเพณีวัง โขลนจะใช้วิธีว่ากล่าวอบรมสั่งสอนต่อหน้าธารกำนัล
ทำให้ได้รับความอับอาย
ชาววังจึงเกรงกลัวโขลน ไม่อยากมีเรื่องราวกับโขลน อย่างที่แม่แช่มกระซิบสั่งสอนพลอยว่า “พลอยจะอยู่ในวังต่อไป จำไว้ให้ดี อย่าไปเกิดเรื่องกับโขลน แกด่ายับทีเดียว เราสู้เขาไม่ได้หรอก”
ธรรมเนียมโบราณ ถือว่าการเหยียบธรณีประตู เป็นการลบหลู่เทวดารักษาวัง แต่โทษก็ยังเบา แค่ถูกโขลนด่า
ยุคสมัยนี้ มีคนอยู่นอกเมือง แสดงความหาญกล้า นำขบวนเดินกลับบ้านเมือง แต่เผลอปล่อยลูกน้องปีนขึ้นไปขย่มธรณีประตูเมือง เทวดารักษาเมืองก็ตกใจ ไม่กล้าปรากฏตัว
บ้านเมืองเรา ดูเหมือนจะเข้าใกล้สมัย ดาวเดือนดินฟ้าอาเพศ ในเพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยา เข้าไปทุกที
หวังแค่ให้มีคนแบบโบราณมาช่วยเป็นด่าน ช่วยสกัด ช่วยด่า ให้รู้จักที่ต่ำที่สูง รู้ดีรู้ชั่วกันบ้าง น่าเสียดาย โขลนสมัยนี้...ไม่มีแล้ว.
...
กิเลน ประลองเชิง