“บิ๊กป้อม” นั่งหัวโต๊ะประชุมคณะกรรมการนโยบายป่าไม้ สั่งเพิ่มพื้นที่ป่า 40% ของพื้นที่ประเทศ เผย วางแผนใช้โดรนสำรวจ จัดการที่ดิน พร้อมทั้งเตรียมการรับมือป้องกันแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน

วันที่ 1 พ.ย. 2562 ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้ จัดการประชุมคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ครั้งที่ 3/2562 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุม พร้อมด้วย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นรองประธานกรรมการ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วยคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการป้องกันรักษาป่าและเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ให้ได้ร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศ จากสถานการณ์ป่าไม้ของประเทศไทยใน พ.ศ. 2558-2561 แนวโน้มโดยเฉลี่ยพื้นที่ป่าไม้ของประเทศเพิ่มขึ้น โดยใน พ.ศ. 2561 ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าไม้ คิดเป็นร้อยละ 31.68 ของพื้นที่ประเทศ แต่ยังไม่ถึงเป้าหมายที่กำหนด ดังนั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้เร่งขับเคลื่อนและผลักดันยุทธศาสตร์ เพื่อให้เกิดการอนุรักษ์ คุ้มครอง ฟื้นฟู และใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งบูรณาการและสร้างการมีส่วนร่วมกับภาคีทุกภาคส่วน ในการดำเนินการด้านต่างๆ

สำหรับการประชุมครั้งนี้ มีการหารือในประเด็นการขับเคลื่อนงานด้านการป่าไม้ การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ในงานด้านป่าไม้ โดยการนำอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) มาใช้ในการสำรวจพื้นที่ป่าไม้ และการเตรียมรับมือในการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เพื่อช่วยเรื่องการป้องกันรักษาป่า การนำภาพถ่ายดาวเทียมมาใช้ในการบริหารจัดการที่ดิน ตลอดจนการบริหารจัดการข้อมูลต่างๆ ให้สามารถเชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่นๆ นอกจากนี้ ทางด้านกฎหมายเกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้ ได้มอบให้ ทส. เร่งรัดจัดทำอนุบัญญัติหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จ รวมถึงการขออนุญาตให้เอกชนส่งไม้สักสวนป่าออกจำหน่ายต่างประเทศ และการขอยกเว้นพิกัดอัตราอากรขาออก พร้อมทั้งจะได้มุ่งเน้นให้เกิดกระบวนการการมีส่วนร่วม ที่จะได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการจัดการแก้ไขปัญหา เพื่อทำให้การปฏิบัติงานบรรลุผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ

...

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ในเรื่องการแก้ไขข้อปัญหาต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบนั้น รัฐบาลได้เร่งดำเนินการปรับปรุงแก้ไข ซึ่งหากมีการแก้ไขแล้วเสร็จจะทำให้เอกชนที่ปลูกไม้ถูกกฎหมายสามารถส่งไม้สวนป่าออกนอกประเทศได้ เป็นแรงจูงใจให้มีการปลูกไม้เศรษฐกิจและการสร้างธุรกิจไม้ให้โตขึ้น เป็นการสร้างอาชีพให้กับประชาชน ผู้ประกอบการค้าไม้ ภาคเอกชน อีกทั้งยังส่งผลต่อภาพรวมในการเพิ่มพื้นที่ป่าและเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย.