ม.วานูอาตูเป็นเครือ CSI LA โพสต์แฉอีก! พท.เร่งตู่รีบเคลียร์ ปูเชียร์น้องขึ้นดอย

“ภูมิธรรม” จี้นายกฯเคลียร์ปม “ผู้กองนัส” ให้ชัด ใครโกหกหลอกลวงต้องรับผิดชอบ เตือนเล่นพวก-ไม่โปร่งใส คือจุดจบผู้นำ เพจดังพาทัวร์ ม.แคลิฟอร์เนีย ตามที่อยู่ในวุฒิฯ พบเป็นแค่ตึก 2 ชั้นหัวมุมถนน อีกจุดเป็นที่รับเลี้ยงเด็ก

ด้านทีมอาจารย์โต้แทน“ธรรมนัส” ยันมีใบอนุญาตถูกต้อง รับเป็นพันธมิตรกับมหาลัยในวานูอาตู ขู่ฟ้องดะใครพูดทำให้เสียหาย “ศุภชัย” การันตีซักฟอกทำได้ พท.ดักคออย่าเบี้ยวสภาฯอีก “สมพงษ์” ชี้รัฐบาลกลัวตกขบวนต้องยอมเลื่อนญัตติด่วนตั้ง กมธ.ศึกษาแก้ รธน. “เสรี” ดันตั้งอนุ กมธ. วุฒิสภา เกาะติดสภาฯ แก้ รธน. “คำนูณ” อยากแจม กมธ.ร่วมรัฐสภา

ปมปัญหาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ตั้งแต่ถูกพาดพิงเกี่ยวพันยาเสพติด มาจนถึงเรื่องคุณสมบัติแสดงวุฒิบัตรปริญญาเอก ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในฝ่ายการเมือง ในสังคมลามไปถึงในโลกโซเชียลที่ติดตามตรวจสอบอย่างเข้มข้น

...

“ภูมิธรรม” จี้นายกฯเคลียร์ให้ชัด

เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ จ.มหาสารคาม นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน และแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐธรรมนูญกำหนดคุณสมบัติผู้ลงสมัคร ส.ส.ไว้แค่วุฒิปริญญาตรี นอกจากนั้น ไม่ต้องไปสนใจ ว่า นายวิษณุต้องเข้าใจหัวใจของปัญหาก่อน ตอนนี้นานาชาติกำลังดูความน่าเชื่อถือของไทย สิ่งที่ทุกคนปรารถนาเราต้องปกครองด้วยหลักนิติรัฐนิติธรรม ไม่ใช่เรื่องปริญญาตรี โท หรือเอก ปัญหาคือทำถูกหรือทำผิดกฎหมาย เพื่อให้มั่นใจว่ารัฐบาลเลือกคนดีมีความซื่อสัตย์มาทำหน้าที่ อาจเป็นปัญหาในอนาคตว่ารัฐบาลจะอะไรก็ได้ หลักเกณฑ์ไม่ต้องมี นึกอยากเอาใคร หรืออธิบายอย่างไรก็ได้ แบบนี้ความน่าเชื่อถือของประเทศจะหายไป ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเรายึดหลักเกณฑ์และความถูกต้อง

ใครโกหกหลอกลวงต้องรับผิดชอบ

นายภูมิธรรมกล่าวว่า นายกฯพูดมาตลอดว่า ต้องการคนดี มีความสามารถ และซื่อสัตย์สุจริต หลักการต้องดูจากจุดนี้ แล้วการคัดเลือกเป็นคนดี มีความรู้ความสามารถแค่ไหน นายกฯต้องรีบทำให้ชัดเจนขึ้น ถ้าคลุมเครือแบบนี้แสดงว่านายกฯเอาใครก็ได้มาสนองการดูแลอำนาจของตัวเอง เมื่อถามว่านายกฯอ้างว่ามีการตรวจคุณสมบัติผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีแล้ว นายภูมิธรรมตอบว่า อยากให้ทำเรื่องนี้ ให้ประจักษ์ชัดไม่มีข้อครหา ถ้าทุกอย่างตรวจสอบแล้วถูกต้องใครจะไปวิจารณ์ได้ “ถ้าคุณเริ่มโกหกหลอกลวงบอกคุณสมบัติที่ไม่จริงมา ก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง ยิ่งเป็นบุคคลที่ต้องมีส่วนในการรับผิดชอบประเทศแล้ว ยิ่งต้องได้คนที่มีคุณสมบัติครบถ้วน” ส่วนกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัสระบุว่า หากทำงานไม่ได้ ก็พร้อมลาออกเอง ไม่ต้องให้ใครมาไล่นั้น เป็นเรื่องที่ดี ถ้าทำงานไม่ได้ก็ควรออกเอง วันนี้เราต้องการคนที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย

เล่นพวก-ไม่โปร่งใสจุดจบผู้นำ

เมื่อถามว่า มีการเรียกร้องให้ปรับ ครม. นายภูมิธรรมตอบว่า มีคนวิพากษ์วิจารณ์ตัวรัฐมนตรีใน ครม.ชุดนี้มากแล้ว จริงๆความผิดเริ่มตั้งแต่นายกฯกระทำการไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ทำให้ต่างชาติตั้งคำถามว่าประเทศไทยยังใช้หลักนิติรัฐ นิติธรรมอยู่หรือไม่ เมื่อถามย้ำว่าถือเป็นการอุ้มคนของตัวเองแม้จะทำความผิดหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า เรื่องนี้บั่นทอนเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ถ้าเป็นรัฐบาลที่ยึดหลักกฎหมายเป็นตัวตั้ง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนพวกใครหากทำผิดกฎหมายต้องถูกดำเนินคดี หากไม่ทำจะกลายเป็นว่าพวกเราทำอะไรก็ได้ แต่หากไม่ใช่พวกเราก็ทำอะไรไม่ได้ สิ่งนี้เป็นจุดจบของระบบ และของผู้บริหารประเทศหลายคน เพราะไม่ทำอะไรให้โปร่งใสชัดเจน อาจทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปไม่ได้

เพจดังพาทัวร์ ม.แคลิฟอร์เนีย

วันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก CSI LA ได้ไลฟ์ขณะเดินทางไปที่ California University ในย่านฟิลิปปินส์ทาวน์ ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา หลังจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ โชว์ใบวุฒิการศึกษาว่าจบปริญญาเอกจาก California University จริง โดยพบว่าสถานที่ตั้งที่ระบุในวุฒิการศึกษาดังกล่าว เป็นตึกหัวมุมถนนขนาด 2 ชั้น แต่ประตูทางเข้า California University ชั้น 2 ถูกล็อกไว้ จึงมีการสอบถามกับพนักงานว่าหากต้องการเทียบวุฒิการศึกษาจะต้องทำอย่างไร โดยพนักงานคนดังกล่าวแจ้งว่าไม่มีใครอยู่ และได้ให้เบอร์ติดต่อบุคคลหนึ่งมา จากนั้นแอดมินที่ไลฟ์แกล้งขอใช้ห้องน้ำ แต่ปรากฏว่าบริเวณชั้น 1 คือร้านทำฟัน จากนั้นทางเพจได้เดินทางไป California University อีกหนึ่งจุด ใกล้ย่านฮอลลีวูด พบว่าเป็นสถานที่รับเลี้ยงเด็ก มีการปิดกั้นแน่นหนา ไม่สามารถเข้าไปสอบถามได้ ด้านนอกมีป้ายติดว่า “ห้ามบุกรุก หากฝ่าฝืนเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต อาจถูกอาวุธปืนยิงได้”

ทีมผู้แทนโต้ใบอนุญาตถูกต้อง

อีกด้าน เพจเฟซบุ๊ก The Reporters รายงานข่าวระบุว่าทีมอาจารย์ผู้แทน California University FCE ประจำประเทศไทย นำโดย รศ. ธัชพนธ์ ยอดทอง รศ.อรปภา ชุติกรทวีสิน และ ดร.สุขุมพงษ์ ชาญนุวงศ์ นำหลักฐานมายืนยันกับ The Reporters สรุปว่า California University FCE เป็นสถาบันการศึกษาที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจากรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกา และรัฐแคลิ– ฟอร์เนีย ให้ดำเนินงานด้านการศึกษาทุกระดับตั้งแต่อนุบาล ประถม มัธยม และมหาวิทยาลัย จึงไม่แปลกที่จะตรวจสอบพบว่ามีใบอนุญาตการศึกษาระดับมัธยม แต่มีใบรับรองจากรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ให้เป็นสถาบันอุดมศึกษาขั้นสูง ระดับปริญญาเอก สำหรับชาวต่างชาติ มีการรับรองจาก Unesco ให้ดำเนินกิจการเพื่อสังคม และสามารถนำไปสมัครงานได้เพราะได้รับรองจากสมาคมอุดมศึกษาและนายจ้าง หรือ NACE และเป็นสมาชิกสมาคมอุดมศึกษานานาชาติ เหมือนมหาวิทยาลัยชั้นนำในแคลิฟอร์เนีย แต่ไม่มีการเรียนการสอน ทำการเทียบวุฒิการศึกษาเทียบเท่าสถาบันการศึกษาในสหรัฐฯ

รับเป็นพันธมิตรกับ ม. “วานูอาตู”

The Reporters ยังรายงานคำชี้แจงของทีมอาจารย์อีกว่า ส่วนกรณีมีการกล่าวหาว่าเป็นมหาวิทยาลัยปลอม น่าจะมาจากที่มีผู้แอบอ้างโดยใช้ชื่อ California University FCE Ideal Center ที่ตั้งอยู่ในฟิลิปปินส์ ขณะนี้กำลังถูกดำเนินคดีและสั่งปรับ โดย California University FCE ที่เป็นของจริง สำหรับกรณีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ จบการศึกษาได้ใบปริญญาเอกจริง วิธีการเรียนคือการทำวิจัย มีคณะอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นทีมพี่เลี้ยง ผู้เรียนต้องทำวิจัยให้ผ่านตามหลักเกณฑ์ สามารถเข้าไปตรวจสอบชื่อ ร.อ.ธรรมนัสได้ในเว็บไซต์ของสถาบัน ส่วนกรณีใบทรานสคริปต์ระบุว่าเทียบวุฒิมาจากสาธารณรัฐวานูอาตูนั้น ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัสเรียนในปี 2557 มหาวิทยาลัยคาลามัสได้รับการรับรองจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นเครือข่ายกัน ทางผู้แทนในไทยเห็นว่ามีความสามารถในการเรียนทางไกลเหมาะกับผู้เรียนในไทย จึงเลือกที่นี่ ไม่เกี่ยวกับปัจจุบันที่มีชื่อเป็นสถาบันการศึกษาที่ไม่ผ่านการรับรอง เพราะในเวลานั้นถือว่าถูกต้อง

ขู่ฟ้องดะใครทำให้เสียหาย

ทีมอาจารย์ยังแจ้งอีกว่า ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่เปิดเผยว่าในไทยมีนักศึกษามาแล้วกี่คนนับแต่ได้รับอนุญาตเมื่อปี 2556 เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการเรียน และบริษัทเป็นผู้แทนโดยตรงจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ไม่เกี่ยวกับไทย จึงไม่ต้องขออนุญาตจากหน่วยงาน การศึกษาในไทย จากการนำเสนอเรื่องนี้ทำให้สถาบัน ได้รับความเสียหาย จะมีการฟ้องร้องดำเนินคดี ขอให้สังคมแยกแยะการศึกษากับการเมือง

พปชร.ย้ำเป็นเรื่องตัวบุคคล

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ระบุว่าจะตรวจสอบเรื่องของ ร.อ.ธรรมนัสนั้น การตรวจสอบสามารถทำได้ตามกลไกรัฐสภา แต่ต้องรับผิดชอบหากทำให้เสียหาย เพราะ รอ.ธรรมนัสชี้แจงแล้ว และเตรียมให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินคดี เรื่องนี้แน่นอนว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลังหวังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์รัฐบาล เพราะ ร.อ.ธรรมนัสถือว่าเป็นแกนนำอีกคนที่มีบทบาท แต่เชื่อว่าไม่มีผลกระทบกับการทำงานของรัฐบาล เพราะเป็นเรื่องตัวบุคคล และ ร.อ.ธรรมนัสชี้แจงชัดเจนหลายครั้งแล้ว

“ธรรมนัส” ตั้งวอร์รูมดำเนินคดี

ต่อมาช่วงค่ำ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ทีมอาจารย์ผู้แทน California University ออกมายืนยันแล้วว่าสถาบันมีอยู่จริง ที่สหรัฐอเมริกา ตนคงไม่ขอชี้แจงอีก และการตรวจสอบคุณสมบัติก็ถูกตรวจสอบมา 2 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2557 ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในนามพรรคเพื่อไทย ไม่เข้าใจว่าเหตุใดถึงนำ เรื่องนี้มาเป็นประเด็น แต่ก็ทำใจได้เพราะมองว่าเป็นเรื่องการเมือง ขณะนี้ได้ตั้งวอร์รูมติดตามการโพสต์ การแชร์ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง รวบรวมเป็นหลักฐาน ดำเนินคดีตามกฎหมาย การข่าวด้านความมั่นคงได้ข้อมูลต่างๆมาให้ตนด้วย เชื่อว่าต้องการทำลายความมั่นคงของรัฐบาล โดยคณะทำงานวอร์รูมจะบันทึกเก็บหลักฐานผู้ที่แชร์ข้อความที่ไม่ถูกต้อง สร้างความเสียหายไปดำเนินคดี และผู้ที่แชร์ต้องยอมรับผลของการกระทำนั้นด้วย ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีไปบางส่วนแล้ว เชื่อว่ามีคนที่อยู่ในการเมืองอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ตนเป็นเพียงด่านแรกของรัฐบาลที่ถูกทำลาย โดยผู้ที่อยู่เบื้องหลังต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลง รัฐบาล อีกทั้งภูมิหลังกลุ่มเหล่านี้ต้องการล้มเสาหลักของบ้านเมือง พร้อมกันนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการแบบเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พร้อม น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภริยา ได้เข้าสักการะศาลหลักเมืองพะเยา ตั้งอยู่ริมถนนท่ากว๊าน โดย ร.อ.ธรรมนัสได้จุดธูปสักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายคนใกล้ชิดและคณะเจ้าหน้าที่ที่มาคอยรับอย่างเป็นกันเอง

“หมอทศ” วาดภาพประชด “ลิง”

เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ลานสกายวอล์ก หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.แพร่ พรรคไทยรักษาชาติ นำแนวร่วมราว 10 คน ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “วาดรูปพิภพวานร” เป็นการสเกตช์ภาพรูปลิง 9 ตัว มีลิงคิ้วหนาอยู่ตรงกลาง ก่อนนำปากกาเมจิกมาเชิญชวนให้ประชาชนที่ผ่านไปมาช่วยกันลงสีที่รูปลิง ซึ่งได้รับความสนใจจากวัยรุ่นจำนวนหนึ่ง นพ.ทศพรระบุว่า ประเด็นการเมืองที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากตอนนี้คือ เรื่องคนเลี้ยงลิง ที่สะท้อนว่ารัฐธรรมนูญมีปัญหา ส่งผลให้เกิดรัฐบาลและ ส.ส.ที่มีปัญหา และคนเลี้ยงลิงก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ ทุกวันนี้เลี้ยงไว้ถึง 200 กว่าตัว ขณะที่ผู้ที่สนใจมาช่วยลงสีส่วนใหญ่ทราบกันดีว่าเป็นกิจกรรมการล้อเลียนการเมือง แต่ไม่มีใครพูดได้แต่อมยิ้ม ตรงกับที่คาดหวังว่าจะให้ภาพที่สื่อออกมากระทบจิตใจคนที่เห็นจนเกิดความคิดต่อยอด

“ศุภชัย” การันตีซักฟอกทำได้

ส่วนประเด็นการเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในวันที่ 18 ก.ย. นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จากการหารือกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร มั่นใจว่าสามารถทำได้ แม้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญจะระบุเหตุผลที่ไม่รับคำร้องก็ตาม เพราะในญัตติที่ฝ่ายค้านเสนอขออภิปรายทั่วไปไม่ถือว่าเป็นการตรวจสอบ แต่เป็นการสอบถามข้อเท็จจริง พร้อมเสนอแนะประเด็นต่อรัฐบาลเท่านั้น เมื่อศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องถือว่ากระบวนการถวายสัตย์ฯจบลงแล้ว แต่เมื่อ ส.ส.มีข้อสงสัยว่าอาจไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ก็มีสิทธิยื่นญัตติสอบถามข้อเท็จจริงได้ตามกระบวนการนิติบัญญัติ และในญัตตินี้ไม่ได้มีเพียงประเด็นการถวายสัตย์ฯ แต่ยังมีรายละเอียดเรื่องที่มางบประมาณในการจัดทำนโยบายรัฐบาลด้วย เมื่อรัฐบาลชี้แจงกระบวนการก็จบไม่มีการเอาผิดกัน ส่วนการเสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เชื่อว่าไม่มีปัญหา เพราะ ส.ส.ทุกคนต่างมองเห็นว่ารัฐธรรมนูญเมื่อบังคับใช้ไปแล้ว อาจมีส่วนบกพร่องอยู่บ้าง สภาฯก็ศึกษาหาแนวทางแก้ไขเตรียมการรองรับไว้ ไม่ได้หมายความว่าต้องแก้ทันที

“สมพงษ์” ชี้รัฐบาลกลัวตกขบวน

ขณะที่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านกล่าวว่า ตามที่ฝ่ายรัฐบาลโจมตีว่าฝ่ายค้านเอาแต่พูดเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่พูดถึงความเดือดร้อนประชาชนนั้น ต้องมองภาพลึกลงไปว่าข้อเท็จจริงเศรษฐกิจที่มีปัญหาตลอด 5 ปีที่ผ่านมาก็เพราะการรัฐประหาร การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต้องทำไปพร้อมกัน วันนี้เกือบทุกพรรคเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กรณีที่ประชุมสภาฯมีมติเห็นด้วยกับการเสนอเลื่อนญัตติการตั้งกรรมาธิการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นมา สะท้อนอะไรว่าเขากลัวตกรถไฟ ถ้าไม่เอาด้วยประชาชนต้องเข้าใจว่าฝ่ายรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงยกมือเต็มสภา

วางตัวคนซักฟอกไว้พร้อมแล้ว

เมื่อถามถึงการเตรียมพร้อมอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ในวันที่ 18 ก.ย. นายสมพงษ์ตอบว่า เบื้องต้นกำหนดตัวบุคคลไว้คร่าวๆแล้ว ก่อนจะอภิปรายจะหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อกำหนดตัวบุคคลที่ชัดเจนอีกที เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยกำหนดตัวผู้อภิปรายไว้ไม่น้อยกว่า 10 คน ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้านอาจต้องลดหลั่นกันไป รวมแล้วคงไม่เกิน 25 คน นอกจากนี้สัดส่วนการแบ่งเวลาอภิปรายระหว่างประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน กับการแถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น คงแบ่งสัดส่วนเวลาเท่าๆกัน

ดักคอ “บิ๊กตู่” อย่าเบี้ยวสภาฯอีก

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ซ้อมลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจไกลๆเพื่อที่วันที่ 18 ก.ย. จะได้ ขยายภาพว่าภารกิจเยอะมาก จนอาจกระทบต่อการไปชี้แจงต่อสภาฯ ในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 กรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนหรือไม่ เพราะเริ่มเห็นกำหนดการของ พล.อ.ประยุทธ์ว่ามีภารกิจก่อนไปชี้แจงสภาฯ ซึ่งหากที่สุดไม่สามารถเดินทางไปตอบคำถามได้ จะสวนทางกับสิ่งที่บอกตลอดว่าไม่กลัวสภาฯ ไม่กลัวการตรวจสอบ

“เทพไท” แนะ ส.ว.ดูท่าทีสภาฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นเอกฉันท์ ให้เลื่อนญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษารัฐธรรมนูญขึ้นมาเป็นอันดับแรก โดยไม่มีเสียงคัดค้านแม้แต่เสียงเดียว แสดงให้เห็นว่า ส.ส.ทั้งสภาฯตระหนักถึงปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับนี้จริง เชื่อว่าทุกพรรคต้องเตรียมส่งคนที่มีความรู้ความสามารถ มีจุดยืนที่ชัดเจนในด้านประชาธิปไตยเข้าเป็นกรรมาธิการ ไม่ควรส่งคนที่สร้างปัญหาประเภทฮาร์ดคอร์ เพราะอาจทำให้การทำงานไม่ราบรื่น ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณให้ทุกฝ่ายเห็นว่า ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง มีความเห็นต่อเรื่องรัฐธรรมนูญไปในแนวทางเดียวกัน อยากให้ ส.ว.ที่เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ตระหนักถึงเจตนารมณ์ของมติดังกล่าว และร่วมมือกันผลักดันให้เป็นผลสำเร็จให้จงได้

“ราเมศ” สวนอย่าพูดแค่เอามัน

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุว่าหากมีโอกาสแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจยุบศาลรัฐธรรมนูญนั้น ขอเตือนว่าการพูดดังกล่าวเป็นเหมือนทำลายความน่าเชื่อถือของอำนาจตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอาจไม่ถูกใจใครไปทั้งหมด แต่ทุกคนควรถือว่าคำวินิจฉัยเป็นข้อยุติของสังคม อาจมีการติติงในเชิงวิชาการ หรือเชิงวิเคราะห์ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาในเชิงหลักการ แต่การไม่พอใจคำตัดสินแล้วออกมาพูดว่าจะยุบองค์กร ถือเป็นแนวคิดที่แย่มาก มองว่ามีจุดประสงค์เดียวคือทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันอำนาจตุลาการ ผ่านการพูดด้วยอคติ

ส.ว.ตั้งอนุเกาะติดสภาฯแก้ รธน.

ด้านนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวว่า ในวันที่ 16 ก.ย.นี้ จะเสนอคณะกรรมาธิการฯ ตั้งคณะอนุกรรมาธิการติดตามการพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อติดตามการทำงานพร้อมเสนอความเห็นในประเด็นที่เกี่ยวข้อง เหตุผลที่ต้องติดตามคือยังไม่ทราบชัดเจนว่าสภาฯจะขอแก้ไขประเด็นใด แม้จะมีแนวทางที่ระบุคือตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) แต่ยังไม่เห็นประเด็นที่แท้จริงว่าเกิดประโยชน์ต่อประชาชน หรือบ้านเมือง ขณะนี้ ส.ว.ยังไม่มีประเด็นนำไปสู่การแก้ไข เพราะรัฐธรรมนูญเพิ่งผ่านการบังคับใช้เพียงระยะหนึ่ง การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสำเร็จได้ต้องผ่านการเห็นร่วมกันของทุกฝ่าย โดยเฉพาะ ส.ว.ที่ต้องมีส่วนร่วม

“คำนูณ” แจมตั้ง กมธ.ร่วมรัฐสภา

นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. กล่าวว่า มีข้อเสนอต้องการให้ตั้ง กมธ.ร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมี ส.ว.เข้าร่วมเป็น กมธ. เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดว่าต้องมีเสียง ส.ว.ร่วมเห็นชอบ 1 ใน 3 ทั้งในวาระแรกและวาระสาม หากให้ ส.ว.มีส่วนร่วมตั้งแต่แรกเชื่อว่าจะทำความเข้าใจร่วมกันได้ และสามารถทำได้ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา หรือตั้งผ่านอำนาจของนายชวน หลีกภัย ในฐานะประธานรัฐสภา ส่วนกรณี ส.ส.ปฏิเสธการมีส่วนร่วมของ ส.ว.นั้นไม่ติดใจ เพราะถึงอย่างไรก็ต้องอาศัยเสียง ส.ว.ร่วมลงมติอยู่ดี ทั้งนี้มีข้อเสนอเพิ่มเติมว่าเมื่อตั้ง กมธ.แล้ว ควรขยายประเด็นศึกษาแนวทางแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองช่วง 13 ปีที่ผ่านมา และศึกษาแนวทางการนิรโทษกรรมบุคคลที่กระทำผิดในทุกการชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ปี 2549-2557 ด้วย

“นิกร” มองเริ่มมีสัญญาณดี

นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ควรเชิญฟากรัฐบาลส่งตัวแทนเข้าร่วมเป็น กมธ. พร้อมทั้งเชิญตัวแทนที่เป็นสัดส่วนคนนอก โดยเฉพาะนักวิชาการ นักกฎหมาย ร่วมเป็น กมธ.ด้วย โดยเริ่มจากประเด็นที่เป็นปัญหากับประชาชนเป็นหลัก อย่าเริ่มด้วยประเด็นทางการเมือง เพราะอาจล่อแหลม โดยเฉพาะเนื้อหาในบทเฉพาะกาล การดำเนินการเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่อยากให้ฝ่ายการเมืองนำเรื่องนี้ออกไปนอกสภาฯ ควรปล่อยให้ฝ่ายประชาชนข้างนอกทำประเด็นนี้คู่ขนานกันไป เช่นเดียวกับ ส.ว.ที่จะทำเรื่องนี้ด้วย ต่างฝ่ายต่างทำถือเป็นเรื่องดี

ฉะ “มงคลกิตติ์” ทำตัวอยากดัง

อีกเรื่อง นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เรียกร้องให้ตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการเช่ากล้องซีซีทีวีในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และการจัดซื้อรถยนต์บรรเทาสาธารณภัยของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) โดยระบุว่าเกิดในสมัยที่นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็น รมว.อุตสาหกรรม ว่า ได้สอบถามนายอุตตมแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เป็นเรื่องภายในของ กนอ.เท่านั้น ไม่เคยเสนอเรื่องมายังรัฐมนตรี ตนรู้จักนายมงคลกิตติ์ดี เป็นน้องที่น่ารัก แต่หลังจากเป็น ส.ส.แล้ว รู้สึกผิดหวัง เพราะเปลี่ยนไปเยอะเหมือนคนหลงทางเตลิดเข้าป่า อยากฝากว่าการให้ข่าวไม่ใช่มีปากสักแต่จะพูด เหมือนพวกอยากดัง ยังมีเวลาทำงานให้บ้านเมือง กลับตัวกลับใจสังคมยังรออยู่

อนค.จ่อทำไพรมารีโหวต

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคอนาคตใหม่ว่า วันที่ 15 ก.ย. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เตรียมลงพื้นที่ร่วมประชุมสมาชิกพรรค ที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม กรณีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. พร้อมขอฉันทามติรับรองผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 5 นครปฐม โดยมีแคนดิเดต 3 คน ได้แก่ นายไพรัฎโชติ จันทรขจร สามีของนางจุมพิตา จันทรขจร อดีต ส.ส.นครปฐม เคยเป็นที่ปรึกษาของนักการเมืองระดับสูงในพรรคไทยรักไทย น.ส.สาวิกา ลิมปะสุวัณณะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 นครปฐม และนางปภัสรินทร์ ชาติธีรสวัสดิ โดยจะเปิดให้แสดงวิสัยทัศน์ก่อนใช้การโหวตจากสมาชิกพรรคในพื้นที่ ที่คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมาณ 100 คน

“จุรินทร์” กระชุ่นจ่ายลอตแรก 15 ต.ค.

วันเดียวกันเวลา 10.00 น. ที่ จ.ร้อยเอ็ด นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ นำคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและพบปะเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากพายุ พร้อมมอบถุงยังชีพ ให้แก่ผู้ประสบภัย ที่โรงเรียนจันทรุเบกษาอนุสรณ์ ต.เกษตรวิสัย อ.เกษตรวิสัย พร้อมเปิดรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายประกันรายได้เกษตรกร นายจุรินทร์กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายร่วมกับภาคเอกชน ผลักดันการส่งออกข้าวไทยให้ได้มากที่สุด ตามนโยบายประกันรายได้ จากนี้ชาวนาไทยจะมีรายได้ 2 ทาง คือ รายได้จากการขายข้าวตามราคาตลาด และเงินส่วนต่างที่รัฐบาลประกันให้ และจะมีการจ่ายส่วนต่างลอตแรกในวันที่ 15 ต.ค.นี้ โดยโอนเข้าบัญชีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งรอบเก็บเกี่ยวไว้ ขอย้ำให้ชาวนาเร่งลงทะเบียนให้ถูกต้องก่อนวันที่ 31 ต.ค.นี้

ชาวบ้านโวยอย่าห้ามทำนาปรัง

ที่บ้านหนองวาย อ.เมืองมหาสารคาม 7 พรรคฝ่ายค้านจัดกิจกรรมฝ่ายค้านเพื่อประชาชนสัญจร ครั้งที่ 2 นำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมนายสุทิน คลังแสง นพ.กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ ส.ส.มหาสารคาม นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคปวงชนไทย นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ นายสุพจน์ อาวาส โฆษกพรรคประชาชาติ ให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัย ขณะที่ตัวแทนชาวบ้านสะท้อนความเดือดร้อนฝากไปถึงนายกฯอย่าห้ามชาวนาทำนาปรัง เพราะทำอาชีพเดียวคือการปลูกข้าวทั้งนาปีและนาปรัง เพราะปลูกอ้อย ข้าวโพดไม่ได้ อยากให้รัฐบาลสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว รวมถึงประกันราคาผลผลิตข้าวอย่าให้เหมือน 5 ปีที่ผ่านมา

ขู่รัฐบาลอย่ามั่นใจจนเกินไปนัก

นายสมพงษ์กล่าวว่า ที่ชาวบ้านต้องการเครื่องปั๊มน้ำเพิ่ม 4 ตัว จะประสานรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ ขอให้ประชาชนช่วยเป็นปากเป็นเสียงให้กับ 7 พรรคฝ่ายค้าน มีกำลังใจในการทำงาน รัฐบาลที่มีเสียงปริ่มน้ำนั้นไม่แน่นอน เห็นได้ว่าหลายครั้งการทำงานในสภาฯ รัฐบาลเพลี่ยงพล้ำพรรคฝ่ายค้าน ดังนั้น รัฐบาลทำอะไรอย่ามั่นใจเกินไป เดี๋ยวจะเสียใจ ตอนนี้พรรคเล็กพรรคน้อยแตกกระจาย เพราะไปหาว่าเขาเป็นลิง

ขณะที่นายนิคมกล่าวว่า นอกจากลงพื้นที่ดู ความเดือดร้อนประชาชนจากภัยน้ำท่วมแล้ว 7 พรรค ฝ่ายค้านจะจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 15 ก.ย. พร้อมเปิดกว้างให้นักกิจกรรม นักวิชาการ และประชาชนใน จ.มหาสารคาม ร่วมแสดงความเห็น ถ้ารัฐธรรมนูญเป็นของประชาชนจะมีกติกาที่โปร่งใส แต่ถ้ากฎหมาย ยังเป็นแบบนี้ รัฐบาลที่มีนายทุนใหญ่สนับสนุน โครงการใหญ่ๆก็จะไปอยู่กับนายทุนกลุ่มนี้ ประชาชนยังคงยากจนเหมือนเดิม จึงอยากให้ประชาชนมาช่วยกันผลักดันให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

พท.แซะ “ลุงตู่” คงชอบทะเลมาก

ต่อมานายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ความจริงไม่อยากพูดถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมของนายกฯ คิดว่านายกฯคงชอบทะเล เมื่อครั้งที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายสอบถามเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน นายกฯก็มีภารกิจไปแถวจังหวัดติดทะเล มองดูแล้วทำให้รู้สึกว่าความสนใจที่มีให้กับประชาชนที่เดือดร้อนทางภาคอีสานคงน้อยไปหน่อย หากนายกฯไม่ลงพื้นที่ก็ต้องหาหนทางช่วยเหลือ ขอวิงวอนให้นายกฯให้ ความสำคัญและสนใจกับพี่น้องภาคอีสานบ้าง เพราะอย่างไรน้ำก็ไม่ท่วมทะเลอยู่แล้ว

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายกฯจะเลือกไปแต่ที่ที่ชอบ หรือเข้าใจว่า มีแต่คนรัก ก็เป็นสิทธิ แต่การเลือกลงพื้นที่ภาคใต้ ประชาชนอาจสงสัยว่าท่านจัดลำดับความสำคัญของการแก้ไขปัญหาวิกฤติอย่างไร รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมใหญ่แบบลูบหน้าปะจมูกไม่ได้ ควรตั้งวอร์รูมบูรณาการจัดการแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างใกล้ชิดและเป็นรูปธรรมมากกว่านี้

“ปู” ส่งกำลังใจ “ลูกช้างขึ้นดอย”

วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กให้กำลังใจนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ในฐานะศิษย์เก่า มช. ซึ่งวันนี้เป็นวันรับน้องขึ้นดอยประจำปี 2562 โดยระบุว่า “ADVERTISEMENT ขอส่งกำลังใจให้น้องๆลูกช้าง มช.ทุกคนในวันรับน้องขึ้นดอยปี 2562 นะคะ รับน้องขึ้นดอยเพื่อไปสักการะพระครูบาศรีวิชัยและพระธาตุดอยสุเทพเป็นประเพณีที่ดีงามที่ทำทุกปี เพื่อความเป็นสิริมงคลและสร้างความรู้จัก สมัครสมานสามัคคี มีน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นประเพณีที่ลูกช้าง มช.ทุกคนไม่มีวันลืม รวมทั้งดิฉันด้วยค่ะ”