มาไวเคลมไว สไตล์การเมืองผู้ดีอังกฤษ
ล่าสุดนายกรัฐมนตรี “บอริส จอห์นสัน” ผู้นำสหราชอาณาจักร ที่เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ต้องประสบความพ่ายแพ้คิวโหวตสำคัญในรัฐสภา กรณียุทธศาสตร์ “เบร็กซิต” การถอนตัวจากสหภาพยุโรป (อียู) โดยปราศจากข้อตกลง
ทำให้ “จอห์นสัน” จ่อยื่นญัตติต่อรัฐสภาเพื่อขอเลือกตั้งใหม่
เก้าอี้ไม่ทันอุ่น ต้องยุบสภา นี่คือสปิริตทางการเมืองในแบบฉบับของเมืองผู้ดีอังกฤษ ประเทศที่ไม่ต้องมีรัฐธรรมนูญเป็นลายลักษณ์อักษร
ย้อนมาเมืองไทย ประเทศที่ใช้รัฐธรรมนูญมากที่สุดเบอร์ต้นๆของโลก
ตามฟอร์มทางการเมืองที่ต้องบอกว่า “แสบพอกัน” กับลูกเขี้ยวของฝ่ายรัฐบาลที่เปิดเวทีให้ฝ่ายค้านอภิปรายทั่วไปในประเด็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นำ ครม.ถวายสัตย์ฯไม่ครบ อาจขัดรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 18 กันยายน วันสุดท้ายก่อนปิดประชุมสภาสมัยสามัญ
เปิดให้ “ด่าฟรีคิก” แค่วันเดียว เที่ยงคืนดับไฟปิดวิกทันที
หลังปล่อยฝ่ายค้านถล่มตีกินมากว่า 2 เดือนแล้ว แนวโน้มปมถวายสัตย์ฯเริ่มเรตติ้งตกกระแสซา
และว่ากันตามเกม เป้าหมายจริงของฝ่ายค้านมันอยู่ที่เกม “รื้อรัฐธรรมนูญ” มากกว่า
จับสัญญาณจาก “เสี่ยคลอสเตอร์เบียร์” นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค
เพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้าน “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ “ตุ๊ดตู่” นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำขาใหญ่กลุ่มเสื้อแดง นปช. ที่ท่อง “สคริปต์เดียวกัน”
แปรรูปขบวน ตีธงรื้อรัฐธรรมนูญฉบับ “ยันต์กันทักษิณ”
มั่นอกมั่นใจถึงขั้นกล้าปล่อย “พิมพ์เขียว” ล่วงหน้า จะมีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) 200 คนที่มาจากการเลือกตั้งทั่วประเทศ กรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ 35 คน ใช้เวลาในการยกร่าง 8 เดือน หรือ 240 วัน จากนั้นนำไปสู่ขั้นตอนการทำประชามติ
...
พรรคร่วมฝ่ายค้านเหยียบคันเร่ง 120 ปิดไฟหน้า เดินหน้าชน
เขย่าทั้งเกมในสภา ทั้งปลุกมวลชนกดดันนอกสภา
เรื่องของเรื่องลำพังไม่ใช่ 7 พรรคฝ่ายค้านที่แท็กทีมกันแค่นั้น ปัจจัยพลิกผันจริงๆ
มันอยู่ที่คนยี่ห้อ “ประชาธิปัตย์” ที่ “ขี่คอ” พล.อ.ประยุทธ์ร่วมรัฐบาล ตามอาการแฝงเหลี่ยมกดดันให้บรรจุการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ใน “วาระเร่งด่วน” ของนโยบายรัฐบาล
สถานการณ์มันชัดยิ่งกว่าชัด “ประชาธิปัตย์” อยากรื้อรัฐธรรมนูญมากพอๆกับ “ทักษิณ”
มันจึงเป็นอารมณ์ร่วมของ “นักเลือกตั้งอาชีพ” จ้องหักด่านทีม คสช.
เพราะขืนปล่อยไปเลยตามเลย มันก็อย่างที่หมอดูหมอเดาทำนายตีกินล่วงหน้า สถานการณ์แบบที่ “ซินแส” นายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ที่ประเดิมเก้าอี้ “ซินแสรัฐบาล”
อวย “พี่น้อง 3 ป.” โหงวเฮ้งดี ส่อลากยาวอำนาจอีก 8 ปี
ดีกรีมันยิ่งเร้าให้นักการเมืองอาชีพแท็กทีมเฉพาะกิจ ผนึกกำลังเดินหน้ารื้อรัฐธรรมนูญที่ “ซือแป๋มีชัย ฤชุพันธุ์” ซ่อนหมากกลไว้หลายชั้น
ถ้าไม่ทำลายเงื่อนปมที่ล็อกไว้ใน “บทเฉพาะกาล” นักเลือกตั้งอาชีพมีหวังรอกัน “เหนียงยาน” หรืออาจล้มหายตายจากไปก่อนที่ “บิ๊กตู่” จะวางมือ
มันจึงเป็นอะไรที่เดาทางได้ ถ้ามีเหตุเกมอำนาจกระเพื่อม ต้องเลือกนายกรัฐมนตรีกันใหม่ ไม่ว่าจะเลือกตั้งหรือไม่เลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ชัวร์แบบเชื่อขนมกินได้เหมือนรอบที่ผ่านมา แม้จะมีแต้ม 250 ส.ว.เป็นต้นทุนหน้าตัก
เพราะจะโดนยี่ห้อประชาธิปัตย์ “หักเหลี่ยม” แน่
และจะถึงเวลาที่อุดมการณ์ “ไม่ร่วมงานกับพวกโคตรโกง” หรือ “ไม่สังฆกรรมกับอีแอบท็อปบูต”
ต้องถูกพับเก็บใส่ลิ้นชักไว้ชั่วคราว
คนประชาธิปัตย์จะเปิดกว้างพร้อมร่วมรัฐบาลกับทุกฝ่าย ขณะที่พรรคเพื่อไทย ลูกหาบ “นายใหญ่” ก็พร้อมเอาเสียงใส่พานประเคนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีให้คนประชาธิปัตย์แบบไร้เงื่อนไข
ขอแค่ให้ได้รื้อรัฐธรรมนูญ ทำลาย “ยันต์กันทักษิณ”
ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่บีบให้เดินไปสู่รูแคบๆทางเดียว ก็อย่าได้แปลกใจ จับทางของปรมาจารย์ “ชวน หลีกภัย” ประธานรัฐสภา ที่โชว์ฟอร์มเก๋า เล่นเชิงมวยข่ม “นายกฯลุงตู่” ถี่ๆ
แบบที่ไล่บี้ให้นายกฯมาตอบกระทู้ในสภา ช่วยฝ่ายค้านต้อน “บิ๊กตู่” เข้ามุมอับ
ถ้าเกมพลิกเมื่อไหร่ ยี่ห้อ “ชวน” นี่แหละรอรับส้มหล่น.
ทีมข่าวการเมือง