“อนุทิน” นำบอร์ด สสส.ออกกำลังกายสไตล์ไทย ชี้ สสส. คือ พลังนโยบายภาครัฐ เดินหน้าขยายงาน พชอ.จับมือ มท.-สธ.ลุย 800 อำเภอ ปิดประตูบุหรี่ไฟฟ้าผิด ก.ม. 100 % สูบแล้วติด ห่วงเยาวชนเข้าใจผิด

วันที่ 16 ส.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะ รองประธานกรรมการกองทุนฯ คนที่ 1 เข้าร่วมประชุมกรรมการกองทุนฯ ครั้งที่ 7/2562 ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งแรกภายหลังเข้ารับตำแหน่ง ทั้งนี้ ในช่วงก่อนเริ่มการประชุม นายอนุทิน พร้อมด้วย รมช.สาธารณสุข ร่วมออกกำลังกาย “บริหารร่างกายสไตล์ไทย” ที่ สสส. ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงแรงงาน พัฒนาท่าบริหารร่างกายประกอบเพลงเพื่อให้คนทำงานได้บริหารร่างกายก่อน หรือช่วงเวลาปฏิบัติงานระหว่างวัน เพื่อเตรียมร่างกาย และจิตใจให้พร้อมทำงาน ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อและสมอง ช่วยให้ปอดและหัวใจแข็งแรงขึ้น

...

นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ประชุมฯ เห็นชอบแผนการดำเนินงานประจำปี 2563 ซึ่งกำหนดตัวชี้วัดหลักที่สอดคล้องกับเป้าหมายและตัวชี้วัดแผนหลัก 3 ปี และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ถึงร้อยละ 89.3 อาทิ เสริมประสิทธิภาพงานควบคุมยาสูบระดับเขตและจังหวัด เคลื่อนงานศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เน้นอำเภอเสี่ยง 283 อำเภอ และแก้ปัญหารถจักรยานยนต์ในกลุ่มเสี่ยง เพิ่มกิจกรรมทางกายในโรงเรียน สถานประกอบการ และชุมชนตามแผนกิจกรรมทางกายชาติ ลดอัตราภาวะน้ำหนักตัวเกินและโรคอ้วนในวัยเรียนให้น้อยกว่าร้อยละ 10 สนับสนุนขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ถุงยางอนามัยแห่งชาติและจังหวัดต้นแบบยุติเอดส์ เกิดกลไกระดับอำเภอดูแลสุขภาวะเด็กกลุ่มเปราะบางเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการของรัฐ กลุ่มคนไร้บ้านมีศักยภาพความพร้อมในการกลับคืนสู่สังคม สนับสนุนขับเคลื่อนด้านวิชาการ การใช้กัญชาทางการแพทย์ ให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุดจากการใช้กัญชา กัญชง หรือพืชสมุนไพรอื่นๆ

นอกจากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบโครงการควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ โดยกรมควบคุมโรค ทำหน้าที่เสริมความเข้มแข็งของการควบคุมแอลกอฮอล์และยาสูบ ผ่านคณะทำงานระดับชาติ เขต จังหวัด และอำเภอ จนถึงระดับชุมชน ขยายพื้นที่ดำเนินการให้ครอบคลุม ป้องกันนักสูบนักดื่มหน้าใหม่ ผ่านสถานศึกษาทุกระดับ ดำเนินงานตามเกณฑ์คุณภาพสถานศึกษาปลอดบุหรี่และสุรา เป็นการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่าง สสส. และกระทรวงสาธารณสุข

“ผมพร้อมสนับสนุน สสส. และภาคีเครือข่าย ซึ่งหลายโครงการของ สสส. ที่ขับเคลื่อนอยู่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับพื้นที่อย่างชัดเจน อาทิ สนับสนุนการขับเคลื่อนระบบสุขภาพระดับอำเภอทั่วประเทศอย่างน้อย 800 อำเภอ ผ่านกลไก คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิต(พชอ) ซึ่งทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเสริมสมรรถนะการจัดการสุขภาพในพื้นที่ แต่ขอให้ สสส.เน้นการทำงานลงไปถึงพื้นที่ ลงถึงชุมชน เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์อย่างแท้จริง เพราะ สสส. เป็นพลังที่จะช่วยให้การทำงานตามนโยบายของรัฐบาลถูกนำไปปรับใช้อย่างแท้จริง” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมได้มีการพูดถึงประเด็นบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีความพยายามที่จะนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า และสื่อสารว่าช่วยลดเลิกบุหรี่ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว กรมควบคุมโรค ยืนยันว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีพิษภัย และห้ามนำเข้า 100% หากจะนำเข้าต้องมีการแก้กฎหมาย ซึ่งในยุคนี้คงไม่มีใครทำเรื่องแบบนั้น เพราะจะเป็นอันตรายต่อเด็กและเยาวชน แม้จะมีนิโคตินในปริมาณน้อยกว่า แต่หากสูบผลลัพธ์ก็คือการเสพติดอยู่ดี ดังนั้นฝากให้กรมควบคุมโรคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สื่อสารสร้างความเข้าใจถึงพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า