เล่นแง่แก้ปากท้องก่อนรธน. ปปช.ฟันเทือก-ปทีปคดีโรงพัก เพรียวพันธ์-อดุลย์-สุพรรอด
“บิ๊กตู่” ครวญขอวัคซีนแก้โรคการเมือง ลั่นขอแก้ไขปมถวายสัตย์ฯด้วยตัวเอง ยืนกรานได้ทำครบถ้วนแล้ว ฝ่ายค้านยังเกาะติดตั้งท่ารอยื่นกระทู้หลังนายกฯกลับจากใต้ ดักคออย่าหลบเลี่ยงปัญหาจี้แก้ไขให้ถูกต้อง “เรืองไกร” ขยี้ซ้ำยื่นอัยการสูงสุดส่งศาล รธน.ขัดทั้ง ม.161-162 ผู้ตรวจการแผ่นดินรับคำร้อง “ศรีสุวรรณ” พิจารณาส่งศาล เพื่อไทยเดินหน้ารณรงค์ลุยแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายกฯยังเล่นแง่บอกแก้ปากท้องด่วนกว่า ขณะที่ ป.ป.ช.ลงดาบฟัน “เทพเทือก-ปทีป” ชี้มูลทุจริตคดีโรงพักร้าง “มาร์ค-เพรียวพันธ์-อดุลย์” รอดบ่วงพ้นมลทิน “วิรัช” โดนเชือดปมก่อสร้างสนามฟุตซอล เจ้าตัวโต้ ป.ป.ช.อาศัยหลักฐานเลื่อนลอยไร้น้ำหนัก สั่งทีมทนายงัด ม.157 ฟ้องกลับ ตั้งทีมกุนซือ รมต. “ธนกร” ผงาดนั่งขนาบข้างขุนคลัง
หลังจากที่หลายฝ่ายออกมาตามขยี้ปมการกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณเข้ารับหน้าที่ของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่ครบถ้วน พร้อมเรียกร้อง ให้หาทางแก้ไขให้ถูกต้องเพราะจะส่งผลต่อสถานภาพของนายกฯและ ครม.ในอนาคต ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ มีท่าทีที่จะขานรับหาทางแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว
“บิ๊กตู่” ร้องขอฉีดยาแก้โรคการเมือง
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องรับรองใต้ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนการประชุม ครม.ระหว่างที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข นำคณะเข้าพบรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แก่บุคลากรกลุ่มเสี่ยง พล.อ.ประยุทธ์ได้ฉีดวัคซีนป้องกันปอดอักเสบเนื่องจากฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่มาแล้ว โดยกล่าวกระเซ้ากับนางพยาบาลที่กำลังฉีดวัคซีนให้ว่า “มีวัคซีนอะไรแก้โรคการเมืองไหม ปวดหัวเหลือเกิน” สร้างเสียงหัวเราะขำกันทั้งห้อง
...
ลั่นจะแก้ปมถวายสัตย์ฯด้วยตัวเอง
ต่อมาเวลา 12.45 น. ภายหลังการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายและตั้งกระทู้ถามประเด็นกล่าวคำ ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนว่า กำลังพยายามแก้ไขปัญหาอยู่ แต่ยืนยันว่าได้ทำครบถ้วน เรื่องดังกล่าวคงต้องว่ากันต่อไป เมื่อถามว่า ที่ระบุว่ากำลังหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวนั้นหาทางอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “ก็กำลังหาทาง ไม่รู้จักคำว่าหาทางหรืออย่างไร เอาละ เรื่องนี้ผมจะทำของผมเอง” เมื่อถามย้ำว่าจะชี้แจงในสภาฯด้วยตัวเองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ถ้าให้ชี้แจงในวันที่ 7 ส.ค.นี้ คงไปไม่ได้เพราะจะเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการที่ภาคใต้คงรอไปก่อน เรื่องบางเรื่องต้องฟังเหตุฟังผลกันบ้าง ถ้าเอาทุกอย่างมาผูกกันหมดจะแก้ไขปัญหาไม่ได้ ขอให้ไว้ใจตน เชื่อว่าตนทำได้และต้องทำให้ได้
อารมณ์ดีเหน็บสื่อแยกกันโจมตี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์แถลงข่าวเสร็จสิ้น ระหว่างเดินออกจากตึกบัญชาการ1 กลับไปห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า ได้กล่าวกระเซ้าสื่อมวลชนที่ยืนบริเวณหน้าตึกบัญชาการ 1 ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “สวัสดี แบ่งกันโจมตีหรือ ดีแล้วมีคนมาช่วย”
ฝ่ายค้านกังขานายกฯหนีปัญหา
ด้านฝ่ายค้าน ที่พรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาดโฆษกพรรคเพื่อไทยในฐานะผู้ประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงภายหลังการประชุมวิปฝ่ายค้านว่า 1.กรณีนายกฯกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดนั้น ที่ประชุมวิปฝ่ายค้านลงมติว่าจะนำเรื่องนี้ไปดำเนินการต่อในสภาฯแม้ทางวิปรัฐบาลจะบอกว่า ไม่อยากให้ดำเนินการในช่วงนี้เพราะตัวนายกฯยังไม่อยู่ นี่คือความพยายามที่จะหลบเลี่ยง หรือหนีปัญหาของ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ ทั้งที่ทางออกของเรื่องนี้ คือไปแก้หรือทำให้ถูกต้อง หรือไปแก้รัฐธรรมนูญให้สิ่งที่ทำกลายเป็นสิ่งที่ถูก ทั้งนี้ เราไม่ได้ตั้งใจนำเรื่องนี้มาล้มรัฐบาลแต่อย่างใด เพียงแต่อยากแนะนำให้ทำทุกอย่างให้ถูกต้องเท่านั้น เพราะต่อจากนี้จะมีเรื่องอื่นๆเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯอีก เช่น พ.ร.บ.งบประมาณ ถ้าในอนาคตมีคนไปร้องแล้วผิดจะเสียโอกาสของประชาชน
ไม่คิดซ้ำเติมใช้ปมบึมดิสเครดิต
นายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า 2.กรณีเหตุระเบิดป่วนเมือง พรรคฝ่ายค้านเรามองว่ายิ่งปล่อยเวลาให้ทอดยาวออกไป แล้วตัวรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ผบ.ทบ.ออกมาพูดทุกวัน อยากให้มาตอบ คำถามเหล่านี้ในสภาฯ โดยพรรคฝ่ายค้านจะยื่นกระทู้ถามในสัปดาห์นี้ เรื่องนี้ละเอียดอ่อน และกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน ส่วนจะนำเรื่องนี้มาดิสเครดิตรัฐบาลนั้นไม่มีใครจำเป็นต้องไปดิสเครดิตเพราะดิสเครดิตตัวเองอยู่ทุกวันอยู่แล้ว และขอให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเลิกพูดถึงสาเหตุที่คิดเอาเองได้แล้วเพราะทำให้ทุกอย่างค่อนข้างสับสน
“เรืองไกร” จ่อร้อง อสส.บี้นายกฯ
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว. กล่าวว่า วันที่ 7 ส.ค. เวลา 10.00 น. จะยื่นหนังสือให้อัยการสูงสุด พิจารณายื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเอาผิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม กรณีนำ ครม.กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 และกรณีไม่ได้ชี้แจงที่มาของรายได้ที่จะนำมาใช้จ่ายในนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 162 ตามมาตรา 3 ที่ระบุว่า ครม.ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และมาตรา 5 ที่ระบุไว้ว่ารัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ การกระทำขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ การกระทำนั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้ ซึ่งการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 161 และ 162 อาจเข้าข่ายขัดต่อมาตรา 3 วรรคสอง และใช้บังคับมิได้ตามมาตรา 5 วรรคหนึ่ง เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ มีความสำคัญอย่างยิ่ง จะปล่อยไปมิได้
ผู้ตรวจการฯ รับลูกสอบถวายสัตย์
นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดิน มีมติรับคำร้องที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ขอให้พิจารณาและส่งเรื่องพร้อมความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลปกครองวินิจฉัยว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม รวมทั้ง ครม.กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 เป็นการกระทำขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้ว และได้สั่งให้ฝ่ายกฎหมายของสำนักงานฯ เร่งตรวจสอบทั้งประเด็นข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงเพื่อเสนอให้ที่ประชุมผู้ตรวจการฯพิจารณา
เพื่อไทยเดินหน้าลุยแก้ รธน.
อีกเรื่อง การเดินหน้ารณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อเวลา 14.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายโภคิน พลกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค กล่าวว่า จะให้ ส.ส.เสนอร่างเพื่อเพิ่มหมวดแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับไปยังสภาฯ เมื่อผ่านสภาฯแล้วจะให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยจะให้ประชาชนเลือก ส.ส.ร. 200 คน มาจากแต่ละจังหวัด และร่างให้เสร็จภายใน 240 วัน ทั้งนี้ ในการทำงานนั้น ให้ ส.ส.ร. 200 คนเป็นผู้ตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมา จำนวน 29 คน โดยจะประกอบด้วยประชาชน นักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิจากด้านต่างๆ จากนั้นจะส่งร่างที่ประชาชนร่วมกันยกร่างขึ้นมานี้ไปให้ ส.ส.ร.พิจารณา เมื่อผ่านแล้วก็ส่งเรื่องไปยัง กกต. เพื่อให้ กกต.นำร่างที่ผ่านจาก ส.ส.ร. มาจัดทำประชามติ ซึ่งเนื้อหาเราไม่สามารถไปกำหนดได้ ขึ้นอยู่กับประชาชน ขณะที่นายวัฒนา เมืองสุข คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค กล่าวว่า พรรคจะเปิดเว็บไซต์และใช้สื่อโซเชียลมีเดีย ให้ประชาชนเข้ามาร่วมสนับสนุนกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญ และรณรงค์ผ่านเวทีต่างๆทั่วประเทศ
“ประยุทธ์” ยักท่าเรื่องอื่นด่วนกว่า
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่พรรคอนาคตใหม่เดินสายรณรงค์เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญทั่วประเทศว่า เรื่องดังกล่าวคงต้องมาศึกษาประเด็นที่จะแก้ไขก่อน ซึ่งกำหนดไว้ในนโยบายรัฐบาลแล้วว่าสามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนต่างๆ ต้องดูว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นแก้เพื่ออะไรเพื่อใคร และประชาชนจะได้ประโยชน์หรือไม่ เพราะเรื่องเร่งด่วนกว่านี้คือการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงการแก้ปัญหาบริหารจัดการน้ำและเรื่องภัยแล้ง
ยันไม่มีรายการนายกฯพบ ปชช.
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกฯ มีแนวคิดจะเสนอให้จัดรายการนายกฯพบประชาชนว่า รายการอะไรไม่มีๆยังไม่มี ต่อจากนี้จะไม่มีการจัดรายการแบบ 5 ปีที่ผ่านมา ถ้าจะมีคือการจัดรายการแบบเป็นครั้งเป็นคราว อยากให้ทุกคนย้อนกลับไปดูว่าที่พูดมาทั้งหมด 5 ปี ได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง บางทีนายกฯพูดยาวพูดไว ทำให้คนตามไม่ทัน แล้วบอกว่านายกฯพูดไม่รู้เรื่อง แต่จากนี้จะเป็นการจัดรายการเป็นครั้งเป็นคราวเท่าที่จำเป็น จะไม่พูดออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจถ้าไม่จำเป็น
เหลวไหลส่งคนไปทำร้าย “ปวิน”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีที่นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการผู้ต้องหาคดี ม.112 ถูกทำร้ายร่างกายที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว กล่าวหาว่ารัฐบาลเป็นคนทำว่า “ก็เห็นใจเขานะ แต่เขาถูกทำร้ายร่างกายที่ญี่ปุ่น ถ้ากล่าวหาว่ารัฐบาลส่งคนไปทำ แล้วใครจะกล้าไปทำ เพราะกฎหมายบ้านเขาก็มีอยู่ รัฐบาลคงไม่ทำอย่างนั้น และไม่ทำอยู่แล้ว แต่ละประเทศมีสัญญากันอยู่ว่าจะพยายามไม่ให้คนที่ทำร้ายประเทศของตัวเองมาอยู่ในประเทศของเขา เหมือนกับเราที่พยายามดูแลไม่ให้คนที่พยายามต่อต้านประเทศของเขามาอยู่ในไทย”
ป้อง “ปารีณา” อาจไม่ได้โพสต์เอง
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีพรรคอนาคตใหม่จะยื่นฟ้องร้อง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊ก โดยเป็นเนื้อหาข่าวปลอม ภาพตัดต่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โยงกับเหตุระเบิดกลางกรุงเทพฯ ว่า “น.ส.ปารีณาจะคลี่คลายเรื่องต่างๆในเฟซบุ๊กของตัวเองเพราะมีการกล่าวอ้างเยอะเหมือนกัน บางครั้ง น.ส.ปารีณาไม่ได้เขียนเองจึงเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กันต่อไป วันนี้เราต้องระวังเรื่องของเฟกนิวส์ โพสต์ข้อความไม่มีข้อมูลความเป็นจริงทุกคนต้องรับผิดชอบ จำเป็นต้องมีการสืบสวนสอบสวนตามกฎหมาย “หลายเรื่องโพสต์ออกมาในนามผมก็มี ลุงตู่บ้าง ประยุทธ์บ้าง เยอะไปหมด ทั้งที่ผมไม่ได้ตั้งมากมายขนาดนั้นเพราะเป็นเรื่องที่คณะทำงานเขาตั้งขึ้น”
โปรยยาหอมอวยพรวันเกิด 3 รมต.
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้กำชับรองนายกฯถึงการมอบนโยบายหัวหน้าส่วนราชการ ในวันที่ 8 ส.ค. ที่อิมแพค เมืองทองธานี ให้เน้นเรื่องแนวทางการขับเคลื่อนนโยบาย ขณะนี้ไม่ใช่เป็นเพียงนโยบายของพรรคใดพรรคหนึ่ง หวังว่าจะได้ร่วมมือทำงานร่วมกัน หากมีอุปสรรคใดๆสามารถหารือกันได้ในที่ประชุม ครม. ช่วงหนึ่งนายกฯยังได้มอบของขวัญและอวยพรวันเกิด 3 รัฐมนตรีที่เกิดในวันนี้ ได้แก่ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายกฯขอให้สุขภาพแข็งแรงและเป็นกำลังใจในการร่วมกันสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น รักใคร่สามัคคีกัน
ครม.ตั้ง “ธนกร” เลขาฯรมว.คลัง
นางนฤมลแถลงว่า ครม.เห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ดังนี้ พล.อ.สุชาติ หนองบัว เป็นเลขานุการ รมว.กลาโหม นายสิรภพ ดวงสอดศรี เป็นที่ปรึกษา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เป็นเลขานุการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายนภินทร ศรีสรรพางค์ เป็นกรรมการผู้ช่วย รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เป็นเลขานุการ รมว.ยุติธรรม นายจักษ์ พันธ์ชูเพชร เป็นที่ปรึกษา รมว.แรงงาน พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ เป็นเลขานุการ รมว.แรงงาน นางสุวรรณี คำมั่น เลขานุการ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม นายวิรัช พิมพะนิตย์ เป็นที่ปรึกษา รมว.คมนาคม นางสุขสมรวย วันทนียกุล เป็นเลขานุการ รมว.คมนาคม นายตติรัฐ รัตนเศรษฐ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมว.คมนาคม นายอนุรุทธิ์ นาคาศัย เป็นเลขานุการ รมว.พลังงาน นายภูผา ลิกค์ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายธนกร วังบุญคงชนะ เป็นเลขานุการ รมว.คลัง นายภิรมย์ พลวิเศษ เป็นเลขานุการ รมว.อุตสาหกรรม นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล เป็นเลขานุการ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) นายนพดล พลเสน เป็นกรรมการผู้ช่วย รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี เป็นผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศ นายธงชัย ลืออดุลย์ เป็นเลขานุการ รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายณัฏฐชัย ศรีรุ่งสุขพินิจ เป็นที่ปรึกษา รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เครือญาติคนดัง–พวกสอบตกพรึ่บ
นางนฤมลกล่าวว่า นอกจากนี้ ครม.ยังแต่งตั้งข้าราชการการเมืองประจำรองนายกรัฐมนตรี ได้แก่ พล.อ.อ.ธนู ปานสุวรรณ เป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ประจำ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายประสาน หวังรัตนปราณี เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำ พล.อ.ประวิตร นายสุรชัย ภู่ประเสริฐ เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประจำนายวิษณุ เครืองาม พล.ต.ท. พิจาร จิตติรัตน์ เป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ประจำนายวิษณุ นายรณภพ ปัทมะดิษ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำนายวิษณุ นายพลพีร์ สุวรรณฉวี เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ประจำนายอนุทิน ชาญวีรกูล นางใยอนงค์ ทิมสุวรรณ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ประจำนายอนุทิน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้าราชการการเมืองที่มีการแต่งตั้งครั้งนี้ ส่วนใหญ่ เป็นญาติของ ส.ส. และอดีตผู้สมัคร ส.ส.ที่สอบตก
“จุฑาฑัตต” เป็น ส.ส.แทนเลขาฯรปช.
นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ โฆษกพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวว่า ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรคและ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ดำรงตำแหน่งเป็น รมว.แรงงานแล้วนั้น ต่อมา ม.ร.ว.จัตุมงคลได้ขอลาออกจาก ส.ส.เมื่อวันที่ 30 ก.ค. เพื่อจะได้ปฏิบัติหน้าที่ในกระทรวงแรงงานและใน ครม.ได้อย่างเต็มที่ ไม่เกิดผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎรในสภาฯ การลาออกจากการเป็น ส.ส.ของ ม.ร.ว.จัตุมงคล สภาผู้แทนราษฎรจึงได้ประกาศชื่อนายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง เลขาธิการพรรค ซึ่งอยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับที่ 5 ของพรรค ให้ขึ้นเป็น ส.ส.แทนเมื่อวันที่ 31 ก.ค.62 แต่เนื่องจากนายทวีศักดิ์มีปัญหาด้านสุขภาพที่อาจมีผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. จึงได้ยื่นขอลาออกจากสมาชิกภาพของสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 62 โดยผู้ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ลำดับถัดไปที่สภาผู้แทนราษฎรจะประกาศให้เป็น ส.ส.แทน คือ น.ส.จุฑาฑัตต เหล่าธรรมทัศน์
ป.ป.ช.ฟัน “เทือก–ปทีป” ทุจริตโรงพัก
เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงข่าวผลการไต่สวนการทุจริตโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจโรงพักทดแทน 396 แห่งวงเงิน 6,928 ล้านบาท ว่า ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯกับพวกรวม 11 คน มีความผิดกรณีดังกล่าว เนื่องจากไต่สวนพบว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้เสนอโครงการต่อนายสุเทพ โดยให้กระจายการจัดจ้างไปตามตำรวจภูธรภาคเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา จากนั้น ครม.อนุมัติวันที่ 17 ก.พ.2552 ต่อมา พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงแนวทางจัดจ้างจากที่ ครม.อนุมัติให้กระจายการจัดจ้างไปตามตำรวจภูธรภาค จัดจ้างก่อสร้างทุกอาคารรวมกันในครั้งเดียว โดยระบุว่าไม่ขัดต่อ พ.ร.บ. ความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ซึ่งนายสุเทพอนุมัติให้เปลี่ยนแนวทางจัดจ้างโดยไม่เสนอ ครม.จึงเป็นการอนุมัติโดยไม่มีอำนาจและรู้อยู่แล้วว่า แนวทางที่อนุมัติให้เปลี่ยนแปลงดังกล่าว การก่อสร้างจะแล้วเสร็จไม่ทัน
แฉเล่ห์ชงราคาเสาเข็มถูกเว่อร์
นายวรวิทย์กล่าวว่า ต่อมา สตช.จัดประกวดราคาการก่อสร้างด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ วงเงิน 6,928 ล้านบาท โดยกำหนดความยาวเสาเข็มตอกไว้ที่ 21 เมตร โดยผู้ชนะการประกวดราคาคือบริษัท พีซีซี ดีเวลล๊อปเมนท์ แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด เสนอวงเงิน 5,848 ล้านบาท พร้อมส่งบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคาให้คณะกรรมการประกวดราคาระบุราคา เสาเข็มตอก 21 เมตรไว้ที่ 2,520 บาทต่อต้น ต่ำกว่าราคาท้องตลาด ที่กำหนดราคาต้นละ 8,151 บาทต่อต้น และราคากลางของ สตช.อยู่ที่ 6,360 บาท ซึ่งการระบุราคาต่ำกว่าท้องตลาดและราคากลางดังกล่าว มีเจตนาให้ สตช.หักลดค่าเสาเข็มที่ตอกไม่ครบถ้วนตามแบบได้น้อย หรือต่ำกว่าราคาที่แท้จริง ซึ่งต้องเสนอราคาตามความเป็นจริง ทำให้การเสนอราคาไม่มีการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม ต่อมาปรากฏว่า การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญา แม้ สตช.จะขยายระยะเวลาการก่อสร้างอีกหลายครั้ง จน สตช.บอกเลิกสัญญาวันที่ 18 เม.ย.2556 เป็นเหตุให้ สตช.ฟ้องคดีต่อศาลปกครองบริษัท พีซีซีชดใช้ค่าเสียหาย 1,728 ล้านบาท
“มาร์ค–เพรียวพันธ์–อดุลย์” รอด
นายวรวิทย์กล่าวว่า ป.ป.ช.พิจารณาการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาแต่ละรายแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ 8 เสียง โดยชี้มูลความผิดนายสุเทพ และ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ พล.ต.อ.ปทีป มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 นอกจากนี้ ยังชี้มูลความผิด พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ พ.ต.ท.สุริยา แจ้งสุวรรณ์ คณะกรรมการประกวดราคา มีมูลความผิดทางอาญาตาม พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ตลอดจนบริษัทพีซีซี โดยนายวิษณุ วิเศษสิงห์ กรรมการผู้จัดการ มีมูลความผิดทางอาญา ตาม พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ส่วนผู้ถูกกล่าวหาอื่นได้แก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว พล.ต.ท.ธีรยุทธ กิติวัฒน์ และ พล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ ข้อกล่าวหาไม่มีมูลให้ข้อกล่าวหาตกไป
โดนคดีแฟลตตำรวจพ่วงอีกคดี
นายวรวิทย์กล่าวว่า นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังมีมติชี้มูลความผิดนายสุเทพ กับพวกทุจริตโครง การก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย (แฟลต)ของ สตช.163 หลัง เป็นเหตุให้ สตช.เสียหาย 3,994 ล้านบาท กระทำผิดคล้ายกับคดีโรงพักทดแทน นอกจากนี้ระหว่างการก่อสร้าง พ.ต.ท.คมกริบ นุตาลัย คณะกรรมการตรวจการจ้าง เรียกรับเงินจากผู้รับจ้างแลกกับการช่วยเหลือการตรวจการจ้างเป็นเงิน 60,000 บาท และ ด.ต.สายัณ อบเชย ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง ผลประโยชน์ที่มิควรได้ ดังนั้นจึงชี้มูลความผิดนายสุเทพ และคณะกรรมการประกวดราคาทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ส่วน ด.ต.สายัณ อบเชย มีมูลความผิดทางอาญา และมีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรง โดยในส่วนของ ด.ต.สายัณที่เรียกรับเงิน 91 ล้านบาทนั้น จะขยายผลต่อไปว่ามีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่
เชือด “วิรัช” ทุจริตสนามฟุตซอล
นายวรวิทย์กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ป.ป.ช.ยังมีมติชี้มูลความผิดนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และพวกรวม 24 คน กรณีการจัดสรรงบประมาณเพื่อก่อสร้างสนามฟุตซอล ในพื้นที่เขต 2 จ.นครราชสีมา จากการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายปี 2555 หรืองบแปรญัตติ ในสมัยที่ดำรงตำแหน่ง ส.ส.นครราชสีมา สังกัดพรรคเพื่อไทย โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งประกอบด้วยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการระดับสูง และกลุ่มเอกชน มีพฤติการณ์ร่วมกันทุจริตเชิงนโยบาย สนับสนุนช่วยเหลือซึ่งกันและกันกระทำความผิดอย่างเป็นกระบวนการ มีการเข้าไปครอบงำบงการการใช้จ่ายงบประมาณ โดยปราศจากอำนาจตามกฎหมาย เพิ่มเติมงบประมาณ 7,000 ล้านบาท โดยไม่มีรายละเอียด เปิดโอกาสให้นายวิรัชกับพวกเข้าไปแทรกแซงการใช้จ่ายงบประมาณตามความ ต้องการ กำหนดคุณลักษณะร่างทีโออาร์ในลักษณะกีดกันผู้ค้ารายอื่นมิให้ร่วมในการเสนอราคา และภายหลังส่งมอบงานให้โรงเรียนต่างๆ ปรากฏว่าแผ่นยางสังเคราะห์ที่กำหนดใน TOR เกิดการโก่งงอ และเมื่อเกิดความเสียหาย ผอ.โรงเรียนต่างๆมิได้เรียกผู้รับจ้างเข้ามาแก้ไข ยึดหลักประกันสัญญาบรรเทาความเสียหาย
ท้าฟ้องกลับยันมั่นใจการทำงาน
นายวรวิทย์กล่าวว่า ป.ป.ช.พิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ 9 เสียง ชี้มูลผู้ถูกกล่าวหา 24 ราย ประกอบด้วยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 3 ราย ได้แก่นายวิรัช นางทัศนียา รัตนเศรษฐ และนางทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มข้าราชการ 11 ราย อาทิ นายชินภัทร ภูมิรัตน อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) นายรังสรรค์ มณีเล็ก ผอ.สำนักนโยบายและแผน สพฐ. และกลุ่มเอกชน 10 ราย โดยจะส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดดำเนินคดีในวันที่ 7 ส.ค. สำหรับการทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอลที่เหลืออีก 6 เขต 50 โรงเรียน อยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนที่นายวิรัชขู่จะฟ้อง ป.ป.ช.ฐานประพฤติมิชอบ เพราะใช้หลักฐานแค่เอกสารชิ้นเดียวในการเอาผิดนั้น ป.ป.ช.มั่นใจในการทำงาน ใครจะฟ้องคงห้ามไม่ได้
ฟันอดีต ผอ.สำนักพุทธฯรวยผิดปกติ
นายวรวิทย์กล่าวว่า นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังชี้มูลความผิดนายพนม ศรศิลป์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พ.ศ.) กรณีร่ำรวยผิดปกติ 216 ล้านบาท หลังพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับการทุจริตเบิกจ่ายเงินงบประมาณอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์ที่จัดสรรให้วัดพนัญเชิงวรวิหาร ประจำปีงบประมาณ 2557-58 ผลการไต่สวนข้อเท็จจริง พบเงินฝากและทรัพย์สินต่างๆของนายพนม คู่สมรส นางจรินรัตน์ แซ่ตั้ง และนางสมพิศ สุทธิบุญ ซึ่งเป็นภริยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส รวมทั้งบุตรและญาติพี่น้อง ที่ไม่สามารถพิสูจน์ที่มาของทรัพย์สินหลายรายการอาทิ เงินฝาก 16 แห่ง มูลค่า 163,022,595.05 บาท เงินลงทุน 8 แห่ง มูลค่า 22,470,000 บาท ที่ดิน จ.อุดรธานี จำนวน 7 แปลง มูลค่า 5,119,400 บาท บ้านพร้อมที่ดิน จ.อุดรธานี และ จ.นครปฐม มูลค่า 805,919 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้น 216,062,819.54 บาท โดย ป.ป.ช.ได้สั่งอายัดไว้ชั่วคราว 44.1 ล้านบาท หลังจากนี้จะส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบพิพากษาคดีต่อไป
“วิรัช” โต้ ป.ป.ช.ชี้มูลเลื่อนลอย
ที่อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เกียกกาย นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แถลงว่า กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดทุจริตสนามฟุตซอลในพื้นที่สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เขต 2 จ.นครราชสีมา ตนได้ยื่นหนังสือทักท้วงต่อ ป.ป.ช.ไปแล้ว เพราะหลักฐานสำคัญที่นำมาดำเนินคดีเป็นเพียงใบบัญชีคุมยอดรายการแปรญัตติเพิ่มปี 2555 สพฐ.ที่ระบุเพียงว่า พรรคเพื่อไทยได้รับงบฯ 2,588,420,000 บาท เป็นเพียงเอกสารลอยๆไม่มีการระบุที่มา ไม่มีการเซ็นชื่อรับรองว่าเป็นเอกสารจากหน่วยงานใด แค่มีชื่อตนเข้าไปปรากฏอยู่ก็ถูกนำไปชี้มูลความผิด ยืนยันว่า ไม่เคยได้รับงบแปรญัตติดังกล่าวเลย และ ป.ป.ช.เคยทำหนังสือสอบถามไปยังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2555 หรือไม่ว่า ได้มีการจัดสรรงบแปรญัตติดังกล่าว และตนได้รับงบแปรญัตติจริงหรือไม่ ที่ผ่านมาก็เรียกตนไปชี้แจงเพียงแค่ครั้งเดียว
ทีมทนายงัด ม.157 ฟ้องกลับ ป.ป.ช.
นายทศพล เพ็งส้ม ทีมทนายความคดีทุจริตสนามฟุตซอลของนายวิรัช กล่าวว่า เตรียมฟ้องดำเนินคดีเอาผิดกับ ป.ป.ช.ตามมาตรา 157 ตามประมวลกฎหมายพิจารณาคดีอาญา และมาตรา 172 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต เนื่องจากเห็นว่า หลักฐานเรื่องการแปรญัตติงบที่ ป.ป.ช.นำมาใช้เอาผิดนายวิรัช ไม่ได้สอบสวนอย่างละเอียดรอบคอบเป็นเอกสารลอยๆที่ไม่มีใครกล้าเซ็นรับรอง แต่กลับนำมาใช้เอาผิด รวมทั้งไม่เคยไปสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง กมธ.งบประมาณปี 2555 หรือพรรค การเมืองต่างๆว่าได้มีการแปรญัตติงบไปให้หรือได้รับงบแปรญัตติจริงหรือไม่
“วราวุธ” ตั้งท่ารอรื้อ “88 การ์มองเต้”
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี 88 การ์มองเต้ รีสอร์ท อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมาว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ในกระบวนการยุติธรรมว่าศาลจะพิจารณาอย่างไร ตนยังไม่ได้ติดตามว่าเจ้าของรีสอร์ตได้ไปยื่นร้องต่อศาลปกครองถ้าศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวจะมีวิธีการดำเนินการต่อไป แต่ถ้าศาลฯไม่คุ้มครองเราจะดำเนินการตามมาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เราจะต้องไปพูดคุยกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องของที่ดิน ส.ป.ก.ซึ่งที่ผ่านมามีการพูดคุยกันในระดับเจ้าหน้าที่เพื่อให้เกิดความเข้าใจมาหลายรอบแล้ว