“จุรินทร์” รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ นำทีมไทยไปจีน เป็นประธานประชุม รมต.อาร์เซ็ป ตั้งเป้าปิดรอบเจรจาให้ได้ในปี 2562 หวังลดผลกระทบสงครามการค้า

วันที่ 1 ส.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้นำคณะตัวแทนประเทศไทยเดินทางเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีอาร์เซ็ป (RCEP) สมัยพิเศษ ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 1-3 ส.ค.2562 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถือเป็นการประชุมระหว่างประเทศนัดแรกหลังเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยประเทศไทยในฐานะประธานที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนปีนี้ จะต้องทำหน้าที่ประธานการประชุมรัฐมนตรีอาร์เซ็ป 16 ประเทศ

ดังนั้น การประชุมรอบนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะหาทางออกในประเด็นที่ยังค้างเพื่อขับเคลื่อนการเจรจาสู่เป้าหมาย และปิดรอบให้ได้ในปีนี้ ทั้งนี้ การสรุปผลการเจรจาอาร์เซ็ปในปีนี้ ผู้นำอาเซียนให้ความสำคัญ และเป็น 1 ใน 13 ประเด็นเศรษฐกิจที่กลุ่มอาเซียนประกาศความตั้งใจว่า จะดำเนินการให้สำเร็จในปีนี้ ซึ่งประเด็นสำคัญที่คาดว่าจะหารือในการประชุมครั้งนี้ อาทิ การติดตามความคืบหน้าการเจรจาและตัดสินใจระดับนโยบายในเรื่องที่ยังติดขัดโดยเฉพาะความคืบหน้าล่าสุด จากการประชุมคณะกรรมการเจรจาอาร์เซ็ป ครั้งที่ 27 ซึ่งเป็นการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-31 กรกฎาคม 2562 ณ เมืองเจิ้งโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ตั้งเป้าให้การเจรจามีความคืบหน้า เช่น การเปิดตลาดการค้าสินค้า การค้าบริการและการลงทุน ทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงการจัดทำภาคผนวกการเงิน เป็นต้น

...

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หลังจากประชุมระดับรัฐมนตรีที่ปักกิ่งแล้ว สมาชิกอาร์เซ็ปจะมีการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสอีก 1 ครั้ง ในเดือนตุลาคมนี้ ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และการประชุมระดับรัฐมนตรีอีก 2 ครั้ง ในเดือนกันยายน และเดือนตุลาคม 2562 ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยความตกลงอาร์เซ็ปจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับการค้าระหว่างประเทศของสมาชิกทั้ง 16 ประเทศ ท่ามกลางวิกฤติสงครามการค้า รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับภูมิภาคอาเซียนและอาร์เซ็ป โดยหากการเจรจาจัดทำความตกลงอาร์เซ็ปประสบผลสำเร็จ จะส่งผลให้อาร์เซ็ปกลายเป็นความตกลงการค้าเสรีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากสมาชิกอาร์เซ็ป 16 ประเทศ มีประชากรกว่า 3,560 ล้านคน หรือเกือบครึ่งของประชากรโลก มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 11.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 30 ของมูลค่าการค้าโลก โดยในปี 2561 ไทยกับประเทศสมาชิกอาร์เซ็ปมีมูลค่าการค้ารวมอยู่ที่ประมาณ 2.9 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 58.7 ของการค้ารวมทั้งหมดของไทย เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ร้อยละ 12.6 สำหรับประเทศสมาชิกอาร์เซ็ปที่ไทยส่งออกมากที่สุด ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ตามลำดับ โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทย เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบเม็ดพลาสติก น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องคอมพิวเตอร์ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยาง ยางพารา เครื่องจักรกล และเหล็ก เป็นต้น.