นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.พรรคเพื่อไทยอภิปรายในรัฐสภา จี้ให้นายอุตตม สาวนายน ชี้แจ้งว่าทำไมไม่ทักท้วงกรณีปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุมเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย กล่าวในที่ประชุมรัฐสภาในวาระพิจารณาการแถลงนโยบายรัฐบาลเมื่อเวลาประมาณ 1:40น. วันเสาร์ที่ 27 ก.ค. 2562 ซึ่งล่วงเลยมาจากคืนวันศุกร์ที่ 26 ก.ค. กล่าวเตือนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่แสดงอารมณ์ฉุกเฉียวระหว่างการอภิปรายก่อนหน้านี้ว่า หากไทยเป็นเจ้าโลกจะถือว่าอันตราย เพราะถือพลเอกประยุทธ์อารมณ์ฉุกเฉียวขึ้นมา แล้วปุ่มกดขีปนาวุธอยู่ใกล้มือ คงกดทันทีและจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ชี้เป็นทหารต้องอดทน และเป็นนายกฯ ก็ต้องยิ่งอดทนสูง
จากนั้น นายจิรายุอภิปรายถึงราคาพืชผลทางการเกษตรว่าราคาตกต่ำลง ยกตัวอย่างราคาข้าวปี 2555-56 ราคาเกวียนละ 1.5 หมื่นบาท ถังละ 500 บาท แต่ทุกวันนี้เหลือเกวียนละ 7,000 บาทส่วนราคาถังเท่าเดิมจึงถามว่าชาวนาจะอยู่อย่างไร ขณะที่ราคายางปี 2555 อยู่ที่กิโลกรัมละ 90-120 บาท ทุกวันนี้ 2-3 กิโลกรัมขายได้เพียง 100 บาท แต่ราคายางขอบ 13 กลับอยู่ที่ 3,250 บาทเท่าเดิม ด้านราคาปาล์มปี 59 อยู่ที่กิโลกรัมละ 5.71 บาท ทุกวันนี้เหลือเพียงกิโลกรัมละ 2 บาท จะให้ไว้ใจนโยบายการเงินการคลังได้อย่างไร
...
นายจิรายุยังพูดถึงการกู้งบประมาณกลาง ระบุว่า รัฐบาลปี 2548 ไม่ได้กู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบฯ ส่วนปี 2554 กู้ 4 แสนล้านบาท ค่อย ๆ ลดลง จนกระทั่งหลังรัฐประหาร ปี 2559 มีการกู้เงิน 3.9 แสนล้านบาท ปี 2560 กู้ 5.2 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่ากู้เยอะ ไม่รู้ว่ากู้มาแล้วหาเงินไม่เป็นหรือไม่
ในส่วนของหนี้สิน รัฐบาลปี 2558-2560 ก่อหนี้ 2.5 ล้านล้านบาทขอถามว่าหาเงินใช้หนี้ได้หรือไม่ เพราะข้อมูลพบว่าประมาณการณ์การเก็บภาษี ปี 2557 ตัวเลขขยับสูงเกือบ 2.5 ล้านล้านบาท แต่เก็บได้เพียง 2.1 ล้านล้านบาท ต่างกับรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ซึ่งนายจิรายุระบุว่า ตนไม่มั่นใจว่ารองนายกรัฐมนตรี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จะดำเนินการตามวินัยการเงินการคลัง พัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของไทยได้หรือไม่
นายจิรายุยังพูดถึงปมการปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทยแก่กลุ่มบริษัท กฤษดามหานคร ซึ่งนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชี้แจงไปแล้วในช่วงค่ำ แต่นายจิรายุระบุว่าบางเรื่องยังพูดไม่หมด การจะปล่อยกู้เกิน 2,000 ล้านบาทต้องให้กรรมการทั้ง 5 คนเป็นผู้เซ็นอนุมัติ ซึ่งนายอุตตม ต้องเซ็นชื่อด้วย แต่กลับปล่อยให้อนุมัติด้วยคนเพียง 3 คนได้อย่างไร หมายความว่านายอุตตมไม่ได้ทักท้วง ถ้าอ้างว่าท้วงด้วยวาจา แล้วหลักฐานอยู่ที่ไหน ตนไม่ได้ตัดสินว่านายอุตตมทำผิดหรือไม่ เพราะเป็นหน้าที่ของศาล แต่ท่านขัดจริยธรรมที่ว่า ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต และอยากให้ชี้แจงว่าทำไมไม่ทักท้วง
หลังจากนายจิรายุอภิปรายเสร็จ นายอุตตมก็ลุกขึ้นชี้แจงคำถามของนายจิรายุว่า หากพูดถึงเรื่องจริยธรรม ตนได้ทำตามมาตรฐานจริยธรรมในขณะนั้นอย่างเต็มที่แล้ว และได้ทำการทักท้วงในที่ประชุม ซึ่งทำได้หลายรูปแบบ ไม่มีกฎข้อใดของธนาครกรุงไทยที่ระบุว่าต้องบันทึก หน่วยงานตรวจสอบอิสระวินิจฉัยแล้วว่าตนทำตามมาตรฐานจริยธรรม ท่านมีสิทธิ์คิดสิทธิ์พูด แต่สังคมจะตัดสินเองว่าตนมีจริยธรรมหรือไม่ และไม่มีระเบียบระบุว่าจะต้องมีกรรมการครบ 5 คน เพราะระเบียนตอนนั้นกับตอนนี้ไม่เหมือนกัน