นักข่าวรุ่นผม...รุ่นที่เริ่มประจำการ ปี พ.ศ.2518 ติดตามข่าวนายกฯ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เปิดความสัมพันธ์ กับท่านประธาน เหมา เจ๋อ ตง ของจีน...ด้วยใจระทึก

ก่อนและหลัง พ.ศ.2500 ไม่มาก นักข่าวรุ่นตำนาน ถูกจับเข้าคุกกันระนาว ข้อหา “ทัวร์จีน” เมื่อ “เปลว สีเงิน” ตามขบวนนายกฯ คึกฤทธิ์ ไปกลับมาถึงไทยโดยสวัสดี เขียนหนังสือเล่มใหญ่ “กันเปย ปักกิ่ง”

ก็ตั้งตาอ่าน ถึงฉากประทับใจ ก็คือการได้เข้าส้วมตามแบบจีน อ่านไปฮาไป

ราวๆปี 2530 ผมไปกับคณะปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นแขกรัฐบาลจีน นอนใน “เตียวหยูไถ่” ตำหนักตกปลาฮ่องเต้เคี่ยนหลง กินเป็ดปักกิ่ง ในภัตตาคาร “เป็ดปักกิ่ง” กลางกรุงปักกิ่ง

ไม่จำรสชาติ เป็ดปักกิ่งต้นตำรับเป็นไง...เผลอจำแต่ภาพห้องน้ำ ซึ่งก็ยังอยู่ในสถานการณ์ เห็นก้อนเนื้อสีเหลืองๆเรี่ยราด เรื่องกลิ่นไม่ว่ากัน ไปที่ไหนก็ต้องทำใจ

ในโรงละครแห่งชาติ...ตี๋รุ่นน้อง ที่นั่งใกล้ เบียดเข้ามากระซิบ ขอที่ติดต่อ สุ้มเสียงอาการ สมัยนั้นคนรุ่นใหม่หาช่องทางหนีจากจีนแผ่นดินใหญ่ จะไปอยู่แผ่นดินเล็กที่ไหนก็ไม่ว่า

ตัดภาพจำ 30 ปีออกไป ผมอึ้งทึ่ง เมื่อได้ฟังผู้รู้เรื่องจีนเล่า คนไทยไปซื้อผักจากอาซิ้มในตลาดสด ขืนควักแบงก์เงินหยวนยื่นให้ อาซิ้มเป็นตะเพิดไล่ส่ง

วันนี้ ซื้อผักปลาในตลาดสดเมืองจีน เขาจ่ายกันด้วยบาร์โค้ด ทางโทรศัพท์มือถือ

ชุดความจำเรื้อรัง...ถูกฟื้นอีกครั้ง เมื่ออ่าน มองตะเกียบเห็นป่าไผ่ 3 (สำนักพิมพ์โพสต์บุ๊ค) นิธิพันธ์ วิประวิทย์ เขียนเรื่อง แผ่นดินใหญ่ยากจน ไต้หวันสกปรก ฮ่องกงคอร์รัปชัน

30-40 ปีที่แล้ว พี่น้องไทยเชื้อสายจีนไปเยี่ยมญาติที่เมืองจีน จะกลับมาแบบหมดเนื้อหมดตัว

ไม่ได้ถูกใครหลอกต้มตุ๋น แต่เป็นเพราะ อาอี๊ อาซิ้ม อาเจ็ก อาแปะ อาตี๋ ยากจนข้นแค้นแสนสาหัส ขอทุกอย่างที่มีในตัว เงินทอง เครื่องประดับ กระทั่งเสื้อผ้า

...

ใครจะคิดว่า แค่ 30 ปีผ่านไป ชาวจีนอยู่ดีกินดี ออกท่องเที่ยวพยุงเศรษฐกิจ เทคโนโลยีก้าวไกล จะเป็นสังคมไร้เงินสดอีก 5 ปีข้างหน้า

ถาม เพราะอะไร คำตอบก็คือ วิสัยทัศน์ผู้นำ ที่กล้าพลิกอุดมการณ์ล้าสมัย เปิดประเทศเปิดระบบเศรษฐกิจอย่างมีแผนการ

สิ่งสำคัญ คือวิธีการคิดที่ฝังรากชาวจีน ที่ต้องการต่อสู้เพื่อชีวิตที่ดีกว่า แต่ละนโยบายที่ออกมา แต่ละเซลล์ในร่างกายชาวจีนพร้อมจะตอบสนอง ผลักดันให้ทั้งสังคมจีนเดินไปข้างหน้า

เมื่อนโยบายถูกทาง ชีวิตความเป็นอยู่จึงพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว

ไต้หวันช่วงปี 1970-1980 เศรษฐกิจพัฒนาก้าวกระโดด แต่พ่วงมาด้วยปัญหาขยะล้นเมือง อุดมไปด้วยหนูแมลงวัน แมลงสาบ

กลิ่นไม่พึงประสงค์ คนไต้หวันเรียกบ้านเมืองตัวเอง “เกาะขยะ”

แล้วไต้หวัน ก็สร้างระบบเก็บขยะใหม่ ยกเลิกการตั้งถังขยะริมถนน ประชาชนต้องเดินมาทิ้งขยะในรถขยะที่มาพร้อมกับเสียงเพลง เงื่อนไขถุงขยะต้องใช้ของรัฐ ใครทิ้งมากจ่ายค่าถุงมาก

แต่ถ้าใครแยกประเภทขยะรีไซเคิล รถขยะอีกประเภทจะมาเก็บให้ฟรีๆ

ฮ่องกงปี 1974 มีแต่คอร์รัปชัน การยัดเงิน ติดสินบนบนโต๊ะ ใต้โต๊ะ เหมือนอากาศในชีวิตประจำวัน ไฟไหม้รถดับเพลิงมา ถ้าเงินไม่มี น้ำก็ไม่มา

คนฮ่องกงตื่นตัวประท้วง ทางการตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อต่อต้านคอร์รัปชัน รัฐบาลแทรกแซงไม่ได้ ใช้ยุทธการทั้งไม้อ่อนไม้แข็ง ถึงปี 1986 ดัชนีเรื่องไร้คอร์รัปชัน ฮ่องกงแพ้แค่สิงคโปร์เท่านั้น

ผมอ่านมาถึงแค่นี้ ก็ได้แต่เศร้าใจ...เวลา 30 ปีเหมือนจีนไต้หวัน ฮ่องกง ผู้นำไทยมัวแต่ไปทำอะไรกันอยู่ เคยแอบหวังกับรัฐบาลทหาร ถึงวันนี้ก็งั้นๆ ไม่ว่าทหารหรือพลเรือนก็บ้อเท่าโล่... พอๆกัน.

กิเลน ประลองเชิง