รับปากให้1ตำแหน่ง น้องชาดาชักเครียด พท.ซัดวิษณุพูดชี้นำ อนค.ลุยชิงท้องถิ่น

ชพน.ไม่ยอม ทวงคำสัญญาลูกผู้ชาย พปชร. “ดล” ลั่นรอคำตอบโควตา รมต.ที่เคยรับปากไว้ โฆษก ภท.ฉะมีคนจ้องดิสเครดิต 2 ว่าที่รัฐมนตรี “วีระศักดิ์” แจงคดีรุกที่ ส.ป.ก.จบไปแล้ว ท้าสื่อตรวจสอบ “ชาดา” รับ “มนัญญา” เครียดตกเป็นเป้าโจมตี “วิษณุ” ไม่การันตีคดีน้อง “ชาดา” แต่ “วีระศักดิ์” ไม่ติดข้อห้าม คาดส่งเลขาฯ ครม.เช็กประวัติหลังจบสุดยอดอาเซียน “ชัยเกษม” ห่วง “วิษณุ” พูดชี้นำ ยกคำ “ธานินทร์” ย้อนตีความพิสดาร พท.เย้ย “บิ๊กตู่” ไม่เชื่อเป็นผ้าพับไว้ได้ “ปิยบุตร” ยันเอาจริงชิงท้องถิ่น ต้องยุติรัฐราชการรวมศูนย์ “พิชัย” จี้ “อุตตม” แจงปล่อยกู้กรุงไทย เผย “บิ๊กตู่” ติดโซเชียลงอมแงม

แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. รวมถึงแกนนำพรรคพลังประชารัฐ จะออกมาประสานเสียงว่าการจัดโผ ครม.เป็นไปด้วยความเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดแกนนำพรรคชาติพัฒนาออกมา ทวงคำสัญญาลูกผู้ชาย หลังถูกกระชากเก้าอี้รัฐมนตรีกลับคืน เพราะพรรคแกนนำเกลี่ยโควตาไม่ลงตัว

“วิษณุ” ไม่การันตีคดีน้อง “ชาดา”

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวมี 2 รายชื่อผู้ถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีช่วยจากพรรคภูมิใจไทย ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เนื่องจากมีปัญหาด้านคดีความในอดีตและถูกร้องเรียนว่า สำหรับคดีของนายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เรื่องบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก. 1,200 ไร่ ศาลตัดสินให้คดีถึงที่สุดแล้วว่าไม่ต้องรับโทษจำคุก ถือว่าไม่ใช่ข้อห้ามตามกฎหมายในการเป็นรัฐมนตรี ส่วนคดีของ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ นายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี น้องสาวของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ที่มีปัญหาพัวพันเกี่ยวกับโครงการบ่อบำบัดร้างที่ จ.อุทัยธานี มีการใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท ตนไม่ทราบว่าเรื่องนี้มีความเป็นมา หรือมีมูลความผิดอย่างไร กระบวนการของคดีไปถึงไหนแล้ว

...

ส่งเลขาฯ ครม.เช็กหลังจบอาเซียน

เมื่อถามว่า หากศาลมีคำตัดสินในระหว่างดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีไปแล้ว น.ส.มนัญญาต้องออกจากตำแหน่งหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า แน่นอนหากคดีถึงที่สุดศาลตัดสินว่ามีความผิด ก็ต้องออกจากตำแหน่ง กรณีนี้ไม่ทราบว่าจะส่งผลให้ น.ส.มนัญญาขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะผู้ที่ตรวจสอบคือเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ไม่ใช่ตน จนถึงขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ยังไม่ได้ส่งรายชื่อรัฐมนตรีให้เลขาธิการ ครม.ตรวจสอบคุณสมบัติ คาดว่าอาจส่งให้ตรวจสอบหลังการประชุมสุดยอดอาเซียน

โฆษก ภท.ฉะมีคนจ้องดิสเครดิต

พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า ขณะนี้รายชื่อรัฐมนตรีของพรรค ส่งให้นายกฯพิจารณาแล้ว เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ กระแสข่าวที่ออกมาเป็นเพียงข่าวลือที่หวังดิสเครดิตรัฐมนตรีของพรรค ส่วนกรณีปรากฏข่าวว่าตนจะไปเป็นทีมโฆษกรัฐบาลนั้น ยังไม่ทราบเรื่อง เข้าใจว่าคงเป็นการคาดคะเนและฟอร์มทีมล่วงหน้า แค่ได้ทำหน้าที่ ส.ส.ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้ว จะได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนในทุกมิติ

“วีระศักดิ์” แจงรุกที่ สปก.จบไปแล้ว

นายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เรื่องคุณสมบัติของตนไม่น่ามีปัญหา เรื่องคดีบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก.ที่ยกมาอ้างถึงเป็นเรื่องที่จบไปแล้ว เชื่อว่าชี้แจงได้ทุกประเด็นที่ถูกโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม เรียกร้องให้สื่อมวลชนลงพื้นที่ อ.เสิงสาง อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าตนไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล จนถึงขณะนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ไม่มีการติดต่อเข้ามาพูดคุยในเรื่องนี้ ยืนยันว่าไม่เคยมีการต่อรองหรือกดดันพรรคเพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่ง แต่เป็นการตัดสินใจของ หัวหน้าพรรค ส่วนกรณีที่จะให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ได้เป็นรัฐมนตรี ลาออกจาก ส.ส.เพื่อแก้ปัญหาเสียงปริ่มน้ำนั้น ยังไม่ทราบว่าจะมีการดำเนินการ อย่างไร แต่อย่างน้อยอยากขอโอกาสให้ได้เข้าไปทำหน้าที่ ส.ส.สมัยแรก เพื่อพิสูจน์ตัวเอง

“ชาดา” รับ “มนัญญา” เริ่มเครียด

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีมีการตีความว่า 2 รายชื่อที่พรรคภูมิใจไทยเสนอเป็นรัฐมนตรีช่วย ถูกนายกฯ ตีตกคุณสมบัติ เป็นชื่อของ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ น้องสาวว่า เป็นเพียงกระแสข่าว จนถึงขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณใดๆออกมาจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค แต่ยอมรับว่าข่าวที่ออกมาทำให้ น.ส.มนัญญาเครียดจากการที่ต้องตกเป็นเป้าโจมตี ทั้งที่ตัวเองไม่ได้มีปัญหาใดๆ ทุกอย่างเป็นการพิจารณาของหัวหน้าพรรค ยืนยันว่าทั้งตนและน้องสาวไม่ได้รู้สึกยินดีหรือเสียใจกับตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะเชื่อว่าอยู่จุดใดก็สามารถทำประโยชน์เพื่อประชาชนได้

“ธนกร” แอบหวังนั่งโทรโข่งรัฐบาล

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐมีความเป็นหนึ่งเดียว บางครั้งอาจมีปัญหาความไม่เข้าใจกันบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติทางการเมือง แต่เมื่อทำความเข้าใจกันทุกอย่างก็จบ เมื่อตั้ง ครม.เสร็จทุกอย่างจะเดินหน้า เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะสามารถสร้างความเข้าใจอันดีในหมู่สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้ เพราะเป็นที่รักและเคารพของสมาชิก จะสามารถนำประเทศเดินไปในทิศทางที่ประชาชนคาดหวังได้ ส่วนข่าวตนมีชื่อเป็นแคนดิเดตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีด้วยนั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ นายกฯ ตนพร้อมทำงานได้ทุกที่

ชพน.ทวงสัญญาลูกผู้ชาย พปชร.

ที่พรรคชาติพัฒนา นายดล เหตระกูล เลขาธิการพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนาอยู่ระหว่างรอคำตอบจากพรรคพลังประชารัฐ เรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค และงานที่ได้รับมอบหมายในการเข้าร่วมรัฐบาล ขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบและไม่ทราบว่าจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีที่ไหน ยืนยันว่าเป็นข้อตกลงร่วมกันในการเชิญเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ตามที่มีการแถลงข่าวว่าจะจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี 1 ตำแหน่งให้ พรรคจึงตอบรับโดยไม่มีเงื่อนไขว่าต้องได้กระทรวงไหน ให้พรรคแกนนำเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสม ส่วนกระแสข่าวที่ว่าตำแหน่งรัฐมนตรีเต็มแล้ว ไม่สามารถจัดสรรให้พรรคชาติพัฒนาได้ ไม่ทราบข้อเท็จจริง และเราไม่ได้เป็นพรรคที่มาทีหลัง แต่ถือว่าเป็นพรรคผู้ร่วมก่อตั้ง และได้รับจัดสรรตำแหน่ง รัฐมนตรีมาก่อนแล้วตามข้อตกลง และสัญญาสุภาพบุรุษที่มีต่อกัน เราเชื่อมั่นต่อพรรคพลังประชารัฐและ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เสนอรายชื่อบุคคลไปให้นายกฯ พิจารณาแล้ว

“ชัยเกษม” ห่วง “วิษณุ” พูดชี้นำ

วันเดียวกัน นายชัยเกษม นิติสิริ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐเตรียมยื่นตรวจสอบ 30 ส.ส. ของ 7 พรรคฝ่ายค้านถือหุ้นสื่อ ว่า พรรคพลังประชารัฐมีสิทธิยื่นได้ แต่ที่กังวลคือการที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ลักษณะว่าข้อเท็จจริงมีความแตกต่างกัน อาจทำให้มีผลต่อการตัดสินคดี เรื่องนี้ไม่ว่าใครเป็นผู้ยื่นตรวจสอบทุกอย่างต้องตกไปอยู่ที่ฝ่ายตุลาการจะว่าอย่างไร เรื่องนี้มีมาตรฐานจากคำตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งแล้ว แต่ความเห็นส่วนตัวในฐานะนักกฎหมายไม่เห็นด้วย การมีชื่อในบริษัทที่จดทะเบียนวัตถุประสงค์ทำสื่อตามแบบฟอร์มภาครัฐ แต่ไม่ได้ทำสื่อจริง ไม่ควรถูกมองว่าถือหุ้นสื่อ แต่เมื่อปักหลักแล้วก็เป๋ไปหมด ใครก็อ้างจากตรงนั้น หากมีคดีที่สามารถนำเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาแล้วเปลี่ยนแปลงคำตัดสินให้ถูกต้องปัญหาก็จบ แต่เมื่อมีการร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่ทราบว่าจะตัดสินใจอย่างไร จะตัดสินตามแนวทางเดิมหรือต่างออกไป ไม่สามารถคาดเดาได้

ยกคำ “ธานินทร์” ย้อนตีความพิสดาร

นายชัยเกษมกล่าวต่อว่า เราเดาไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินตามที่ควรจะเป็น หรือตัดสินให้เกิดผลพิสดาร “อย่างที่อาจารย์ธานินทร์ กรัยวิเชียร (อดีตองคมนตรี) เคยสอนไว้ว่าการตีความกฎหมายต้องไม่เกิดผลพิสดาร กรณีนี้มีลักษณะไม่ดูเจตนาและข้อเท็จจริงประกอบ ทำให้เกิดปัญหาพิสดารแบบที่เป็นอยู่ ตอนนี้วินิจฉัยอะไรเป็นการเมืองไปหมด ไม่รู้เหมือนกันว่าต่อไปอาจารย์สอนหนังสือจะสอนอย่างไร เหตุที่เลิกสอนหนังสือเพราะอธิบายไม่ได้เช่นกัน อยากให้ประชาชนคอยติดตามว่าจะตัดสินอย่างไร วันนี้เราได้เพียงแต่ตามเท่านั้น”

พท.ไม่เชื่อ “บิ๊กตู่” เป็นผ้าพับไว้ได้

นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯระบุว่าจะเป็นนายกฯที่เรียบร้อยขึ้นนั้น ขอให้ทำได้จริงตามที่พูดต่อหน้าผู้นำภาคธุรกิจอาเซียน แต่เกรงว่าจะทำไม่ได้ กลายเป็นคนเสียคำพูดอีกครั้ง เพราะเสียมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ในความรู้สึกคนในสังคมต่อบุคลิกภาพของ พล.อ.ประยุทธ์โดยรวม คือเป็นนายกฯที่กะรุ่งกะริ่ง คุ้มดีคุ้มร้าย ควบคุมสติและอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เมื่อถูกรุมเร้าด้วยปัญหาโดนวิพากษ์วิจารณ์ จะแสดงกิริยาอาการโมโหฉุนเฉียว โกรธเกรี้ยวด่าทอสื่อมวลชน และดำเนินคดีกับผู้เห็นต่างทุกครั้ง ไม่สามารถปรับเปลี่ยนสัญชาตญาณหรือนิสัยถาวรในความเป็นทหารได้ ยิ่งปัจจุบันเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค เสถียรภาพง่อนแง่น จึงยากจะเชื่อว่าจะเป็นนายกฯที่เรียบร้อยได้

ซัด ส.ว.ติดหล่มสืบทอดอำนาจ

นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. เตือนเพื่อน ส.ว.ว่าอย่าติดหล่มกับความเกรงใจ เวลาลงมติลงต้องมีอิสระ ว่า ส.ว.สรรหามาจาก คสช. จะเป็นอิสระได้อย่างไร การโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ เห็นกันทนโท่ว่าตอบแทนบุญคุณเพื่อรับใช้ พล.อ.ประยุทธ์ นายเสรีควรเตือน ส.ว.ให้เกรงใจประชาชนให้มาก ไม่ใช่มาตักเตือนให้ ส.ว.อย่าเกรงใจกันเอง ยังมีอีกหลายเรื่องที่ประชาชนจะได้เห็นการปฏิบัติหน้าที่และการตัดสินใจของ ส.ว. ว่าจะรับใช้ พล.อ.ประยุทธ์ หรือรับใช้ประชาชน แล้วจะได้เห็นว่าการได้รับการสรรหามาเป็น ส.ว.ที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญนั้น ส.ว.จะออกมาปกป้องตัวเองและแก้ต่างให้คณะกรรมการสรรหา และ คสช.อย่างไร จะได้เห็นกันว่าการติดหล่มของ ส.ว.อยู่ในวังวนของกระบวนการสืบทอดอำนาจ คสช. เพื่อ พล.อ.ประยุทธ์นั้น มีการดิ้นทุรนทุรายอย่างไร

“ปิยบุตร” ยันเอาจริงชิงท้องถิ่น

ที่เวียงศิริ รีสอร์ท จ.ลำพูน นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ พร้อมแกนนำพรรค ร่วมงานเสวนา “อนาคตใหม่ท้องถิ่นลำพูน” จัดโดยศูนย์ประสานงานพรรคอนาคตใหม่ จ.ลำพูน มีประชาชนสนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก นายปิยบุตรกล่าวว่า การเลือกตั้งระดับประเทศ การกระจายอำนาจเป็นนโยบายสำคัญของแทบทุกพรรค สำหรับพรรคอนาคตใหม่เรามีนโยบายตอนหาเสียงเรื่องยุติระบบรัฐราชการรวมศูนย์ ต้องการให้อำนาจคืนกลับไปอยู่ที่ท้องถิ่นจริงๆ อย่างที่ทราบกันดีว่าในนามของพรรคการเมืองที่ส่งลงเลือกตั้งท้องถิ่น น่าจะมีอยู่ที่เดียวคือ กทม. เรื่องนี้เราชั่งใจและคิดกันว่าเหตุหนึ่งที่ไม่อาจยุติระบบรัฐราชการรวมศูนย์ได้ เพราะความคิดฝังหัวผู้คนในสังคมไปแล้ว ว่าการกระจายอำนาจเท่ากับกระจายคอร์รัปชัน คนไม่เชื่อมั่นว่าการเมืองท้องถิ่นจะไม่ใช่การเมืองของผู้มีอิทธิพล เราจึงตัดสินใจจะทำการเมืองท้องถิ่นด้วย เพื่อทำลายมายาคตินี้ และเพื่อเปลี่ยนภูมิทัศน์การเมืองท้องถิ่นใหม่

ต้องยุติระบบรัฐราชการรวมศูนย์

นายปิยบุตรกล่าวอีกว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นเราไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ มีความเป็นไปได้ว่าอาจเลื่อนไปเป็นต้นปีหน้า สำหรับวิธีคิดของพรรคอนาคตใหม่ในการส่งผู้สมัคร 1.จะไม่ส่งคนลงสมัครแบบยิงลูกโดด หรือ 2-3 คน เพราะถ้าได้รับเลือกเข้าไปจะไม่มีผลงาน ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงท้องถิ่นได้แน่นอน เราจะส่งผู้สมัครเป็นทีม และ 2.การส่งผู้สมัครลงพื้นที่ใด ต้องประเมินในทางยุทธศาสตร์ของพื้นที่ รวมถึงดูว่าทีมผู้สมัครมีนโยบายที่สอดคล้องกับพรรคหรือไม่ การส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่นของพรรคอนาคตใหม่ เราตั้งอยู่บนฐานคิดที่ว่าต้องการเปลี่ยนแปลงการเมืองท้องถิ่น จึงไม่ใช่การส่งเพื่อให้สมาชิกมีตำแหน่ง ไม่ใช่เอาตำแหน่งมากระจายให้คนในพรรค ไม่ใช่เพราะเป็นเครื่องปลอบใจคนที่พลาดการเมืองระดับชาติ แต่เราต้องการส่งเพื่อจะเปลี่ยนท้องถิ่นจริงๆ เพื่อกระจายอำนาจให้เกิดขึ้นจริง ต้องการยุติระบบรัฐราชการรวมศูนย์ให้ได้

กลุ่มภาคเหนือหนุนเต็มที่แก้ รธน.

ที่ร้านกาแฟลับแลคลับ จ.อุตรดิตถ์ ทีมคณะทำงาน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร ตาก พิจิตร สุโขทัย พิษณุโลก และอุตรดิตถ์ และ 2 จังหวัดภาคเหนือตอนบนคือ แพร่ และลำปาง พรรคอนาคตใหม่ ประกอบด้วย นายเกษมสันต์ มีทิพย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าทีมคณะทำงาน นายปัณณวัฒน์ นาคมูล นายอภิสิทธิ์ พรหมฤทธิ์ ร่วมกันแถลงจุดยืนเดินหน้าสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 นายปัณณวัฒน์กล่าวว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เตรียมเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในนามทีมงานอนาคตใหม่ภาคเหนือ เห็นด้วยอย่างยิ่ง และพร้อมสนับสนุนเต็มที่ทุกรูปแบบ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ทั้งที่มาและเนื้อหาสาระไม่มีความเป็นประชาธิปไตย เป็นรัฐธรรมนูญที่ถูกออกแบบมาเพื่อประโยชน์คนบางกลุ่ม เพื่อการสืบทอดอำนาจ ผลพวงพิษร้ายของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ส่งผลให้ประชาชนคนไทยทั่วประเทศเห็นแล้วว่าเป็นอย่างไร

ไม่มีวันเห็นปฏิรูปจากรัฐบาลนี้

ที่โรงแรมทีค การ์เด้น อ.เมืองเชียงราย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมเสวนา “อนาคตเชียงราย กับธนาธร” มีนายกิตติ ทิศสกุล นายกสมาพันธ์การท่องเที่ยวภาคเหนือ ผศ.ดร.นิอร สิริมงคลเลิศกุล อาจารย์ด้านสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย ร่วมอภิปรายด้านการพัฒนาจังหวัดเชียงราย นายธนาธรกล่าวว่า วันนี้ยังไม่มีการกระจายอำนาจการปกครอง กระจายอำนาจการคลัง ประชาชนไม่ได้ต้องการมีส่วนร่วม แต่ต้องการอำนาจคืนเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรของตัวเอง เราจะนำอำนาจนั้นคืนมาสู่ท้องถิ่น จะส่งตัวแทนลงเลือกตั้งท้องถิ่นอย่างสร้างสรรค์ หากพรรคอื่นไม่ทำต้องสูญพันธุ์ สิ่งที่เราจะได้เห็นจากรัฐบาลนี้คือการแจกเงินให้ประชาชนเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่เราจะไม่เห็นการปฏิรูปราชการ ไม่เห็นการผลักดันนโยบายที่ก้าวหน้าที่แตะต้องเชิงโครงสร้างประเทศจากรัฐบาลนี้ ประเทศไทยจำเป็นต้องปฏิรูปยุติระบบรัฐราชการรวมศูนย์ ปฏิรูปกองทัพ เอาประชาธิปไตยกลับคืนมา ยุติการผูกขาดกลุ่มทุน

“พิชัย” จี้ “อุตตม” แจงปล่อยกู้กรุงไทย

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า ตามที่ได้เปิดเผยเอกสารการเซ็นชื่ออนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย ให้กับบริษัท กฤษฎามหานคร โดยมีชื่อนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ขณะนั้นดำรงตำแหน่งหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของธนาคารกรุงไทย ที่อนุมัติปล่อยเงินกู้ดังกล่าว โดยคณะกรรมการบริหาร 3 คน ถูกดำเนินคดีและถูกศาลสั่งจำคุกแล้ว แต่นายอุตตมกลับไม่โดนดำเนินคดี จึงอยากเรียกร้องให้นายอุตตม ชี้แจงว่าเอกสารดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวอย่างไรหรือไม่ เหตุใดจึงไม่ถูกดำเนินคดีร่วมกับคณะกรรมการคนอื่นๆ หากอ้างว่าถูกกันเป็นพยานก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้กระทำความผิด แต่ต้องมาพิจารณาว่าหากเป็นเช่นนั้นจะมีความเหมาะสมเป็น รมว.คลังขนาดไหน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ควรให้นายอุตตมออกมาชี้แจงให้ชัดเจนด้วย

คนใกล้ชิดแห่เบิร์ธเดย์ “ยิ่งลักษณ์”

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าเมื่อช่วงค่ำวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีการจัดฉลองเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 52 ปี ให้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยมีคนในครอบครัว เพื่อนนักธุรกิจ รวมถึงนักการเมืองที่ใกล้ชิดเข้าร่วมงานอย่างอบอุ่น บรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นมื่นในการแสดงความยินดี แต่ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องการเมือง ขณะที่บรรยากาศในเมืองไทย ทีมงานคนสนิทที่เคยทำงานร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมตัวกันรับประทานอาหารเย็นที่บ้านพัก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซอยโยธินพัฒนา 3 มีการเป่าเค้กและวิดีโอคอล์อวยพรวันเกิดให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปยังกรุงลอนดอน โดยนายศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวอวยพรว่า “รักแม่ และแม่เป็นคนที่เข้าใจที่สุด” ทำเอา น.ส.ยิ่งลักษณ์ถึงกับน้ำตาคลอ กล่าวตอบกลับมาว่า “ขอบคุณที่ร่วมอวยพรวันเกิด และยังคิดถึงกัน”

ชี้ 4 ปม “ประยุทธ์ 2” เสี่ยงสุดๆ

นายไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ความเสี่ยงของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สมัยที่ 2 “รัฐบาลในความเสี่ยงสุดๆ” 1.เสี่ยงเรื่องจำนวน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่ไม่นิ่ง ล่าสุดอาจหายไปถึง 5 เสียง จากพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 เสียง จากพรรคชาติพัฒนา 3 เสียง หาก 5 เสียงนี้สวิงไปมา หาก 5 เสียงนี้เทไปฝั่งไหน ฝั่งนั้นก็จะชนะโหวตทันที 2.เสี่ยงเรื่องการถูกสั่งพักการทำหน้าที่ของ 41 ส.ส. หากศาลรัฐธรรมนูญสั่งพักเหมือนกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จะมี ส.ส.น้อยกว่าฝ่ายค้านถึง 36 เสียง หมายถึงฝ่ายรัฐบาลไม่สามารถเสนอกฎหมายใดๆได้เลย โหวตเมื่อไหร่แพ้เมื่อนั้น 3.เสี่ยงเรื่องมวลชนที่ต้องการเคลื่อนไหวนอกสภา ตอนนี้เริ่มขยับเพื่อปลุกกระแสต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์แล้ว 4.เสี่ยงจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้น จากความล่าช้าของการจัดทำ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 และจากภาวะแข็งค่าของเงินบาท ทำให้ภาคการส่งออกได้รับผลกระทบหนัก เป็นวิกฤติซ้ำวิกฤติ ปัจจุบันรัฐบาลยังไม่มีนโยบาย มาตรการ หรือกลไกใดๆมารองรับ ไม่รู้ว่าไม่รัฐบาลใหม่จะเดินหน้าไปได้ไกลแค่ไหน จะไปได้สักกี่น้ำ

“กรณ์” กลับลำประชานิยมเลิกยาก

นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีต รมว.คลัง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า บัตรสวัสดิการของรัฐ (บัตรคนจน) เป็นที่นิยมของชาวบ้านทั่วประเทศ ใช้เงินภาษีช่วยผู้มีรายได้น้อย 14 ล้านคนปีละ 50,000 ล้านบาท ผู้ได้ประโยชน์คือ 1.โชห่วยที่เข้าโครงการธงฟ้า 60,000 ร้าน 2.ผู้ผลิตสินค้า 15 ราย (เช่นสหพัฒน์ ทิปโก้ Unilever) 3.ประชาชนผู้ยากจน 14 ล้านคน ส่วนคำถามว่าโครงการนี้เข้าข่ายประชานิยมหรือไม่ ใช่แน่นอน และจะเลิกยากขึ้นเรื่อยๆ แต่ต้องยอมรับว่าเป็นการเสริมรายได้ให้ผู้มีรายได้น้อยที่มีประสิทธิภาพพอสมควร ไม่รั่วไหลเพราะยิงตรง และไม่มีการทุจริตเมื่อเทียบกับโครงการที่ต้องผ่านขั้นตอนราชการ และส่วนตัวยังเชื่อว่าทุกคนมีหน้าที่ต้องทำงาน ไม่ใช่รอรับเงินอย่างเดียว แต่เราดูแลผู้มีรายได้น้อยได้ด้วยบัตรสวัสดิการ และการประกันรายได้เกษตรกร แต่จะทำอย่างไรให้ยุติธรรมที่สุดกับทุกฝ่าย คือความท้าทาย

เฮทสปีดส่งผลต่อการปรองดอง

ช่วงเช้าวันเดียวกันที่บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารการสื่อสาร มวลชนระดับกลางด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ รุ่นที่ 8 จัดสัมมนาสาธารณะเรื่อง “Hate Speech บนโลกออนไลน์ บาดแผลร้ายที่ใครต้องรับผิดชอบ” โดยมีนักวิชาการ สื่อมวลชน ร่วมเสวนา ทั้งนี้ ศ.พิรงรอง รามสูตร อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ช่วงเรื่องตั้งปี 2562 มีการใช้ Hate Speech ทางการเมือง สร้างความเกลียดชังในหลากหลายระดับ ทั้งปลุกกระแสให้เกิดความแตกแยก จนไปถึงความรุนแรง และอาจเป็นอุปสรรคต่อระบอบประชาธิปไตยในระยะยาว ส่งผลกระทบต่อการปรองดองที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ ถ้าไม่มีการเปิดกว้างทางความคิด ดังนั้นภาครัฐต้องเปิดเวทีรับฟัง เพื่อแก้ปัญหานี้เร่งด่วน

แนะภาครัฐต้องเปิดเวทีรับฟัง

นายมาร์ค เจริญวงศ์ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า Hate Speech ในเมืองไทยส่วนใหญ่เน้นหนักไปที่การแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ต่างจากต่างประเทศที่มีความรุนแรงมากกว่าประเทศไทยมาก ทั้งด้านการเหยียดสีผิว เหยียดศาสนา และความรุนแรงทางเพศ ในทางกฎหมายไม่สามารถช่วยได้ เพราะหากมีการเพิ่มโทษแรงยิ่งทำให้เกิดการใช้ Hate Speech ในทางรุนแรงมากขึ้น ทางออกในการแก้ปัญหานี้ต้องมีเครื่องมือที่ทำให้สังคมตระหนักว่า กำลังจะเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ ภาครัฐต้องเปิดเวทีรับฟังนำไปสู่แก้ไขปัญหา

เผย “บิ๊กตู่” ติดโซเชียลงอมแงม

ขณะที่ น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร กล่าวว่า ในแง่ดีของโซเชียลคือพื้นที่ระบายของสังคม ไม่ต้องออกมาชุมนุมบนท้องถนนเหมือนอดีต แต่มีผลทางการเมืองกระทบรุนแรง แม้แต่ ผบ.ทบ.ยังมองว่าโซเชียลเป็นอาวุธที่ร้ายแรงกว่าอาวุธที่กองทัพมีอยู่ ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ชอบติดตามข่าวสารทางโซเชียลมาก ไล่อ่านในคอมเมนต์แล้วมักอารมณ์เสีย ติดตามโซเชียลหนักจนถึงขนาดต้องสวดมนต์ แต่สุดท้ายก็ยังอ่าน เพราะบอกว่าถ้าไม่อ่านก็โง่ ไม่เสพก็บ้า

“จุรินทร์” โวดันราคายาง–ปาล์มพุ่ง

ที่ จ.สงขลา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะผู้บริหารพรรค อาทิ นายอลงกรณ์ พลบุตร นายนิพนธ์ บุญญามณี นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ รองหัวหน้าพรรค ลงพื้นที่ จ.สงขลา พบปะประชาชน และเกษตรกรชาวสวนยางพาราที่ชุมชนใต้เลียบ หมู่ 7 ต.ทุ่งขมิ้น อ.นาหม่อม เป็นหนึ่งในชุมชนต้นแบบที่นำยางมาทำถนน นายจุรินทร์กล่าวว่า นโยบายยางพาราเป็นนโยบายหลักในการเข้าร่วมรัฐบาล โดยผลักดันนำยางพารามาใช้ทำถนนทั่วประเทศ ตาม “สงขลาโมเดล” พบว่าไม่มีปัญหา เป็นผลงานที่สร้างชื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ และผลักดันการส่งออก เพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศให้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นราคายางให้สูงขึ้น ขอย้ำว่าพรรคเข้าร่วมรัฐบาล ราคายางพาราและปาล์มน้ำมันจะดีกว่าในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา

“ธรรมนัส” ฝึกงาน รมต.ให้น้องชาย

ที่ จ.พะเยา นายธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา แกนนำภาคเหนือพรรคพลังประชารัฐ พร้อมนายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา นายอัครา พรหมเผ่า รองนายก อบจ.พะเยา นำคณะลงพื้นที่ อ.ดอกคำใต้ เพื่อรับฟังปัญหาจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดที่ได้รับความเดือดร้อนจากหนอนชนิดใหม่ระบาดกว่า 20,000 ไร่ สำหรับนายอัครา น้องชายนายธรรมนัส มีชื่อติดโผ ครม.นั่งเก้าอี้ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม