การทำหน้าที่ใน สภาผู้แทนราษฎร ของ ส.ส. 500 คน กับ ส.ว. สรรหา อีก 250 คน ที่ ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาต้องการเห็นภาพลักษณ์ที่ดีและฟื้นฟูความเชื่อมั่นของสภาผู้แทนราษฎรไทยในสายตาของประชาชน ไม่ใช่การสร้างภาพ แต่ขึ้นอยู่กับการทำหน้าที่ของ ส.ส.และ ส.ว. จะเลือกข้างประชาชนหรือผลประโยชน์ส่วนตัว
กระทู้แรกที่จะเข้าสภาเป็นญัตติด่วนที่ขอให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา เป็นกรณีของ คณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย มีมติต่อสัญญาสัมปทานให้กับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ อีก 30 ปีใน 3 โครงการเพื่อแลกกับ การยุติข้อพิพาท 1.37 ล้าน ที่ดำเนินการอย่างเร่งรีบและไม่มีความโปร่งใส
เสนอโดย นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ในฐานะตัวแทนกลุ่มพรรคการเมือง 10 พรรคที่มี ส.ส.พรรคละ 1 คน ในขณะที่ พรรคการเมืองขนาดใหญ่ และ ขนาดกลาง ยังเล่นเกมเก้าอี้ดนตรีกันไม่ลืมหูลืมตา
เป็นบทพิสูจน์ว่า คุณภาพ ไม่ใช่อยู่ที่ ปริมาณ ชาวบ้านอาจจะได้พึ่งพรรคเล็กๆที่โดนดูถูกดูแคลนมากกว่า พรรคขนาดใหญ่ ที่คิดแต่จะแสวงหาผลประโยชน์ก็ได้ ที่พูดกันว่า เป็นกลางในสภา จะเป็นการพิสูจน์การทำหน้าที่ของ ส.ส.ที่เป็นผู้แทนของประชาชนได้เต็มปากเต็มคำ
ไม่เฉพาะเรื่องของ ค่าโง่ กทพ. ที่ว่ามาแล้วยังมีคิวต่อไปเรื่องของ การจัดซื้อเครื่องบินการบินไทย มูลค่า 1.56 แสนล้าน เร่งรีบทิ้งทวน ที่ กระทรวงคมนาคม เป็นเจ้าภาพทั้งสองเรื่อง
มาถึงเรื่องของ เตาเผากำจัดขยะ กทม. น้ำท่วม กทม.ยังไม่งามหน้าเท่ากับโครงการจ้างเหมาเอกชนกำจัดมูลฝอยโดยระบบเตาเผาขนาดไม่น้อยกว่า 1,000 ตันต่อวันที่หนองแขมและอ่อนนุช มูลค่ารวมกว่า 1.3 หมื่นล้าน ซึ่งมีความไม่ชอบมาพากลในการกำหนดราคากลาง เรื่องถูกร้องไปที่ ป.ป.ช. และได้รับเรื่องดังกล่าวไว้สอบสวนแล้ว
...
ที่ว่างามหน้าก็คือ สถานทูตญี่ปุ่น ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยัง กทม. ขอให้ผู้ที่ใช้เทคโนโลยีจากญี่ปุ่นได้มีโอกาสเข้าร่วมเสนอราคาด้วย แต่ กทม.ไม่ยอมอ้างระเบียบตามทีโออาร์ท่าเดียว
เรื่องของประสิทธิภาพหรือความทันสมัย ถูกจำกัดโดยทีโออาร์ ยึดรูปแบบเดิมๆ บางหลักเกณฑ์มีเฉพาะโครงการเตาเผาในประเทศไทย โดยที่ กทม.ต้องการให้โครงการนี้เรียบร้อยก่อนที่จะมีการเลือกตั้งด้วยซ้ำ
แต่ติดที่โครงการอยู่ในระหว่างการตรวจสอบของ ป.ป.ช.
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในโครงการนี้ ชิงลาออกไปทันทีที่มีการกดดันให้ปฏิบัติตามทีโออาร์เดิมเพราะเกรงว่าจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นในอนาคต ทำให้ กทม.ต้องตั้งกรรมการใหม่และแจ้งขออนุมัติผู้ว่า กทม.ไปเมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา
ล่าสุดมีข่าวใน กทม.ลือกันให้แซ่ดว่า ผู้บริหารระดับสูงกำหนดเดดไลน์ ให้ประกาศผลการประมูลโครงการเตาเผากำจัดขยะก่อนสิ้นเดือนนี้
โครงการที่ใช้เงินภาษีที่เก็บจากประชาชนไปเป็นจำนวนมหาศาลเป็นโครงการระยะยาวถึง 20 ปี ถ้าไม่มีประสิทธิภาพและทำกันแบบรีบเร่งไม่โปร่งใส จะต้องเสียค่าโง่กันอีกเท่าไหร่เป็นอีกเรื่อง แต่ชาวบ้านเสียความรู้สึก.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th