"มาร์ค-เทพเทือก" ประสานเสียงบอกถึง กกต.จะไร้ "สดศรี" ก็ยังเลือกตั้งได้ตามปกติ ไม่หวั่น "สนธิลิ้ม" เดินเกมให้ใช้ มาตรา 7 ขอนายกฯ พระราชทาน-ปลุกโนโหวต ชี้เป็นสิทธิ์ตามระบอบ เชื่อทุกอย่างอยู่ที่ประชาชนจะตัดสินใจ ยันรัฐบาลไม่ได้กดดัน กกต....

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 24 มี.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง จะลาออกหากได้รับการพิจารณาเป็นคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย เหตุเบื่อการเมือง ซึ่งอาจส่งผลต่อการจัดการเลือกตั้งว่า ยังไม่ทราบ แต่เท่าที่จำได้ เรื่องของกฎหมายไม่น่าจะมีปัญหาอะไร สามารถดำเนินการต่อไปได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก กกต.เหลือคณะกรรมการ 4 คน สามารถจัดการเลือกตั้งได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าอย่างนั้น ดูตามกฎหมายแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่า บรรยากาศขณะนี้ใกล้การเลือกตั้งแล้ว การลาออกเหมือนกวนน้ำให้ขุ่นหรือเปล่า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้ามีเหตุผลที่จะไปดำรงตำแหน่งอื่น ก็เป็นสิทธิ์ ทุกอย่างต้องว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า นางสดศรีให้เหตุผลว่าถูกกดดันจากนักการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กดดัน เรื่องไม่น่าจะมีอะไรกดดัน ยืนยันว่าทางการเมืองไม่ได้ไปกดดันอะไรเลย เพราะทุกคนต่างก็มีหน้าที่ของตนเอง ตนไปสนทนากับ กกต. เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ทุกฝ่ายไม่มีอุปสรรคปัญหาในการทำหน้าที่ ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า หาก กกต.ทั้ง 5 คน ลาออกพร้อมกัน การเลือกตั้งจะดำเนินได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อันนี้เป็นเหตุผลเฉพาะตัว เมื่อถามว่า สัญญาณที่เกิดขึ้นทั้งหมดในขณะนี้ จะสอดรับกับกระแสข่าวที่จะไม่มีการเลือกตั้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ ต้องไปถามท่าน เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังมีกระแสว่าน่าจะไม่มีการเลือกตั้งในปีนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีแล้วจะไปทำอะไรกัน

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า บนเวทีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เรียกร้องให้ใช้มาตรา 7 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ตนมองว่าเราได้ประคับประคองบ้านเมืองให้ผ่านสถานการณ์หลายอย่างมา ประชาคมโลกเขาจับตาดูอยู่ เศรษฐกิจเราก็เริ่มฟื้นตัว แต่ประชาชนมีความเดือดร้อนในเรื่องต่างๆ ดีที่สุด เราควรยืนยันให้ประชาคมโลกเขาเห็นว่าประเทศไทยสามารถเดินไปตามระบบ ตามกติกาปกติได้ ดีที่สุดสำหรับประเทศ ดังนั้นทุกฝ่ายต้องช่วยกัน แต่ว่าอาจจะมีบางกลุ่มเท่านั้นเองที่คิดเป็นอย่างอื่น แล้วไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าจะเดินไปอย่างไร เมื่อถามว่า มีบางฝ่ายพยายามสร้างแรงกดดันไปที่ กกต. ว่าเป็นกลไกหนึ่งในการเลือกตั้ง หาก กกต.ลาออกแล้วจะนำไปสู่วิธีการพิเศษได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะพิเศษอย่างไร ก็กลับมาสู่การเลือกตั้ง หนีไม่พ้นหรอก

ต่อข้อถามที่ว่า นายสนธิ ลิ้มทองสกุล แกนนำพันธมิตรฯ ประกาศว่า ต้องการนายกฯพระราชทาน ให้มาบริหารงาน 3 ปี โดยไม่มีการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในรูปแบบไหนอย่างไร ตนเรียนว่ากระบวนการต้องเดินไปตามรัฐธรรมนูญ จะไปช่องทางไหนก็ต้องกลับมาสู่การเลือกตั้ง ตนคิดว่าเราผ่านหลายสิ่งหลายอย่างมาแล้ว มีบทเรียนมาเยอะแล้ว เวลานี้ประชาชนล้ากับกระบวนการทางการเมืองที่ไม่เป็นปกติ ถึงเวลาที่จะกลับเข้าสู่ภาวะความเป็นปกติทุกอย่าง ฉะนั้นเราน่าจะช่วยกันทำให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า นายสนธิออกมาระบุว่า ให้พรรคการเมืองใหม่คว่ำบาตรการเลือกตั้ง โดยจะออกรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์ในช่องไม่ลงคะแนนหรือโนโหวต นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แล้วก็ถ้าไปรณรงค์ให้คนไปใช้สิทธิ์ไม่ลงคะแนนให้ใคร ก็เป็นกระบวนการหนึ่งในการเลือกตั้งในกระบวนการประชาธิปไตย เมื่อถามว่า คิดว่าจะส่งผลจนเกิดจุดเปลี่ยนทางการเมืองได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับการรณรงค์ และการตอบรับของประชาชน

วันเดียวกัน ที่ค่ายอนุสาวรีย์ยุทธหัตถี จ.กาญจนบุรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่มีกระแสข่าวว่านางสดศรี สัตยธรรม กกต. ได้ไปสมัครรับการสรรหา เป็นกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ซึ่งอาจต้องลาออกจากตำแหน่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หากได้รับการสรรหา ว่า ไม่รู้ว่านางสดศรีคิดอะไรหรือกำลังทำอะไร แต่มั่นใจว่า กตต.ทั้งหลายตระหนักในหน้าที่ที่จะต้องกำกับดูแลการเลือกตั้ง ให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย และเป็นไปอย่างยุติธรรมเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย แต่ก็ยังเชื่อว่าถ้ามี กกต.ลาออกไป กกต.ที่เหลืออยู่ก็สามารถทำหน้าที่ต่อไปได้

เมื่อถามว่า เรื่องนี้เกิดจากการที่รัฐบาลพยายามไปเร่งรัดเพื่อออกกฎมายลูก เพื่อให้ทันการเลือกตั้งหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อไรที่จะเลือกตั้ง กกต.ก็ต้องดำเนินการ รัฐบาลไม่ได้ไปกดดันอะไร ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ จะรณรงค์ต่อต้านไม่ให้มีการเลือกตั้ง นายุสเทพ กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพที่จะแสดงออก ก็สามารถรณรงค์ได้ แต่ก็ต้องไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าทำอย่างนั้นก็จะถือว่าขัดต่อเจตนารมณ์ของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่ต้องการให้โอกาสกับประเทศ.

...