“อภิสิทธิ์” ประกาศขอตัดสินใจลาออกจากการเป็น ส.ส. หลังพยายามโน้มน้าวพรรคประชาธิปัตย์ไม่สำเร็จ ขอย้ำจุดยืน อุดมการณ์ และรักษาคำพูดที่ให้ไว้กับประชาชน

วันที่ 5 มิ.ย. 2562 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงจุดยืนของตนเองผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก Abhisit Vejjajiva ภายหลังวานนี้ ที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ มีมติร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ จนทำให้นิวเด็มของพรรคประกาศลาออกหลายคน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก่อนการเลือกตั้งได้แสดงจุดยืนว่าจะไม่สนับสนุนการร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย และไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นการแสดงจุดยืนในฐานะหัวหน้าพรรคในขณะนั้น สอดคล้องกับอุดมการณ์พรรคและเป้าหมายที่นำเสนอต่อประชาชนที่ว่า “ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต” ซึ่งมองว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่หลังเลือกตั้งพรรคกลับไม่ประสบความสำเร็จ

ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณประชาชนเกือบ 4 ล้านคนที่ลงคะแนนเสียงให้กับพรรค และตนเองสำนึกในบุญคุณตลอดเวลา ยังคงยึดมั่นในจุดยืน ก่อนหน้านี้พยายามโน้มน้าวให้คนในพรรครักษาจุดยืนในการประชุมร่วมของพรรคเมื่อวานที่ผ่านมา

“ผมพยายามอย่างมากเมื่อวานนี้ในการประชุมร่วมว่าควรจะเลือกเส้นทางใด แต่บัดนี้พรรคสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ผมไม่เห็นด้วยกับมติ แต่ก็ไม่สามารถฝ่าฝืนมติพรรคได้ แอบหวังลึกๆ ว่าพรรคจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย หวังว่าจะมีคนในพรรคกลับใจสร้างประชาธิปไตย ธรรมาภิบาล เสียดายโอกาสที่แม้จะเป็นพรรคขนาดกลาง ซึ่งสามารถทำหน้าที่เป็นฝ่ายที่สาม เป็นกลาง ตรวจสอบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อะไรที่ดีก็สนับสนุน หากไม่ดีก็ตรวจสอบได้ มีอิสระในการแสดงความคิดเห็น ทำให้เห็นคุณค่าฝ่ายนิติบัญญัติ”

...

พร้อมกันนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวขอโทษประชาชนทุกคนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเข้าใจว่าพรรคจะรักษาจุดยืนและอุดมการณ์ และในการทำหน้าที่ ส.ส.ของตนเองคงไม่สามารถลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีที่ฝ่าฝืนมติพรรคได้ แต่จะให้เข้าสภาฯ ไปลงเสียงให้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ทำไม่ได้ และขอบคุณเพื่อนสมาชิกพรรคที่พยายามเสนอทางออกในการงดออกเสียง

“ผมทราบดีว่าปัญหาทั้งหมดไม่จบในวันนี้ ผมต้องเผชิญปัญหานี้ตลอดเวลา ขอโทษที่วันนั้นต้องยกมือเลื่อนประชุม เพราะไม่อยากฝืนมติพรรค ตอนนี้เหลือทางเดียวที่จะรักษาเกียรติภูมิ รักษาคำพูด และความรับผิดชอบที่กล่าวไว้กับประชาชน ผมได้ส่งเรื่องบาป 7 ประการของสังคมให้กับหลาน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการเมืองที่ปราศจากหลักการ ผมไม่สมารถทำบาปนั้นได้ ผมจึงตัดสินใจลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่วันนี้วันนี้เป็นต้นไปครับ”.