ซูเปอร์โพล เผยประชาชนส่วนใหญ่มองการเมืองวันนี้แย่ลง มอง 6 เดือนข้างหน้ามืดมน ไม่เชื่อมั่นความเข้มแข็งรัฐบาลใหม่ ยังหนุนบิ๊กตู่ เหมาะสมเป็นนายกฯ...

เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ประชาชนคิดอย่างไรต่อการเมือง กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,164 ตัวอย่าง โดยพบว่า เกินครึ่งหรือร้อยละ 51.81 ระบุ บรรยากาศการเมืองวันนี้แย่ลง เมื่อเทียบกับ 5 – 6 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ร้อยละ 33.16 ระบุว่าเหมือนเดิม และร้อยละ 15.03 ระบุว่า ดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.39 ระบุว่า บรรยากาศการเมืองในอีก 6 เดือนข้างหน้ามืดมน ในขณะที่ร้อยละ 28.61 ระบุเห็นแสงสว่างว่าทุกอย่างจะไปได้ดี

ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.47 ระบุมีความเชื่อมั่นน้อย ถึง ไม่เชื่อมั่นเลยต่อความเข้มแข็งของรัฐบาลใหม่ ในขณะที่ร้อยละ 20.53 เชื่อมั่นมาก ถึง มากที่สุด อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามถึงความเหมาะสมในการเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.51 ระบุว่าเหมาะสม ในขณะที่ร้อยละ 38.49 ระบุว่าไม่เหมาะสม

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลใหม่กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่กับกระแสความไม่เชื่อมั่น อารมณ์ของประชาชนในเวลานี้ต้องการได้รับการบริหารจัดการที่ดีเพราะพวกเขารู้สึกว่าอนาคตการเมืองไทยข้างหน้ามืดมน ถ้าการเจรจาต่อรองตำแหน่งแบ่งเค้กออกมาไม่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนในแต่ละกลุ่มผลประโยชน์ก็น่าจะเตรียมพบกับความเปลี่ยนแปลงรอบใหม่ที่จะเกิดขึ้นอีก

"ทางออกคือ ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองน่าจะทำการเมืองครั้งนี้ให้สามารถดึงความเชื่อมั่นของสาธารณชนกลับคืนมาโดยคัดสรรคนดีมีฝีมือไม่มีประวัติด่างพร้อย ขาลุยทำงานได้ทันที เพราะข้อมูลเชิงลึกพบว่าใครก็ได้ที่มาเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องเป็นใครในเวลานี้ ประชาชนยอมรับได้ถ้าเป็นแล้วทำให้ประชาชนมีกินมีใช้ไม่ขัดสน บ้านเมืองไม่วุ่นวาย แต่ถ้าเล็งเห็นว่า ใครเป็นแล้วบ้านเมืองจะวุ่นวาย ความขัดแย้งจะรุนแรงบานปลาย จึงควรดับไฟเสียแต่ต้นลมเพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองและประชาชน" ผศ.ดร.นพดล กล่าว

...