เตรียมจัดถวายพระพรกิจกรรมเฉลิมฉลอง
นายกฯเผยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงขอบพระทัยทุกหมู่เหล่าร่วมจัดงานพระราชพิธีฯ ครม.มีมติให้ 3 มิ.ย. เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ถือเป็นวันหยุดราชการประจำปี กระทรวงวัฒนธรรมโชว์ตัวอย่างการแสดงวัฒนธรรมมหรสพสมโภชบรมราชาภิเษกฯ กรมธนารักษ์เผยคนจองเหรียญราชาภิเษกคับคั่ง เฉพาะนิกเกิลพุ่งถึง 4 ล้านเหรียญ พร้อมสั่งเพิ่มการผลิตเหรียญแพลทินัม 1 ล้านบาท เป็น 250 เหรียญ
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนการประชุม นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม พร้อมองค์กรเครือข่ายพระพุทธศาสนา ประชาสัมพันธ์กิจกรรมสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันวิสาขบูชาปี 2562 วันที่ 12-18 พ.ค. จากนั้นนายกฯเยี่ยมชมการแสดงทางวัฒนธรรม ในงานมหรสพสมโภชเนื่องในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-28 พ.ค. ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และในส่วนภูมิภาคทั้ง 76 จังหวัด โดยมีสาธิต รำโคม โขน หุ่นหลวง และกลองยาว นายกฯได้ขอบคุณที่ช่วยกันรักษาขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรมไทย ขอให้ช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อย
ต่อมาช่วงบ่าย ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้วันที่ 3 มิ.ย.ของทุกปี เป็นวันเฉลิมพระชนม พรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธา พิมลลักษณ พระบรมราชินี เป็นวันหยุดราชการประจำปี ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ โดยจะมีพิธีต่างๆกำลังจะแจ้งให้หน่วยงานทราบว่ามีอะไรบ้าง ถือเป็นวันมงคลอีกวันหนึ่ง
...
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงขอบพระทัยลงมาถึงประชาชนทุกหมู่เหล่า รวมถึงพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่มีส่วนร่วมในการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งนี้ ดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นระเบียบ สง่างาม แสดงให้เห็นถึงศิลปวัฒนธรรมและขนมธรรมเนียมประเพณีไทยอันดีงามและทรงคุณค่าของประเทศไทย โดยทรงรับสั่งให้มีการจัดเลี้ยงขอบคุณเจ้าหน้าที่ ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ภาคเอกชน จิตอาสาต่างๆ ขณะนี้รัฐบาลกำลังวางแผนงานในการจัดเลี้ยง ก่อนวันที่ 24 พ.ค. โดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในส่วนนี้ด้วย
นายกฯกล่าวต่อว่า อยากชี้แจงสร้างความเข้าใจผ่านสื่อมวลชนถึงการใช้พระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และคำสรรพนาม คำขึ้นต้น คำลงท้าย ในการกราบบังคมทูล กราบทูล รวมถึงการใช้บทเพลงสรรเสริญพระบารมีในพิธีต่างๆ ขอให้ใช้ได้อย่างถูกต้อง สำนักราชเลขาธิการได้แจ้งให้ทราบไปแล้ว
วันเดียวกัน พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เนื่องในวันที่ 3 มิ.ย. เป็นวันพระราชสมภพของสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ปี 2562 รัฐบาลเตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติตามปกติ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดกิจกรรมที่ชัดเจน จะมีพิธีทำบุญตักบาตร นอกจากนี้ รัฐบาลจะได้มีการบันทึกเทปถวายพระพร นายกรัฐมนตรีจะได้กำหนดรายละเอียดการจัดกิจกรรมอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าจะเป็นในสัปดาห์หน้า
ต่อมาช่วงค่ำ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดวันหยุดราชการประจำปี ว่า ด้วยรัฐบาลพิจารณาเห็นว่าการจัดงานวันเฉลิมพระชนมพรรษาเป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่ง รวมทั้งได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 และโดยที่วันที่ 3 มิถุนายน เป็นวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2562 กำหนดให้วันที่ 3 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เป็นวันหยุดราชการประจำปี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2562 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2562 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
น.ส.ชนินทร์วดี ชมพูทิพย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านดุริยางค์สากล สำนักการสังคีต ในฐานะประธานกรรมการมหาดุริยางค์สากลรวมใจภักดิ์ กล่าวว่า การแสดงมหรสพสมโภช เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 กระทรวงวัฒนธรรม บูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร จัดมหรสพสมโภชขึ้นวันที่ 22 -28 พ.ค. โดยในส่วนการแสดงดนตรีสากลภายใต้ชื่อ มหาดุริยางค์สากลรวมใจภักดิ์ ชุด “ทศมราชันขวัญหล้า” วันที่ 23 พ.ค. ตั้งแต่เวลา 18.30-21.30 น. ที่เวทีสนามหลวง ด้านทิศใต้ ฝั่งพระบรมมหาราชวัง เป็นการบรรเลงวงมหาดุริยางค์สากล วงดุริยางค์สากล และวงบิ๊กแบนด์จากเหล่าศิลปินนักแสดง การแสดงจะร้อยเรื่องราวพระราชประวัติ ในห้วงเวลาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ พระราชกรณียกิจต่างๆ และพระปณิธานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด ดังพระปฐมบรมราชโองการ
ส่วนการจองเหรียญที่ระลึก ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 10 วันเดียวกัน นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังสรุปยอดจองเหรียญที่ระลึกฯทั้งหมด หลังจากปิดการจองไปเมื่อวันที่ 10 พ.ค. กรมธนารักษ์ได้สั่งผลิตเหรียญแพลทินัม ราคา 1 ล้านบาท เพิ่มอีก 50 เหรียญ จากเดิมผลิตตามจองที่ 200 เหรียญ เนื่องจากมีผู้สนใจจองซื้อเข้ามาเพิ่ม ทำให้ปัจจุบันยอดผลิตเหรียญแพลทินัมอยู่ที่ 250 เหรียญ
นายอำนวยกล่าวอีกว่า ขณะที่เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกโลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคา 20 บาท ปัจจุบันมียอดสั่งซื้อแล้วจำนวน 4 ล้านเหรียญ เหรียญรุ่นนี้จะผลิตตามจำนวนจองไม่เกิน 5 ล้านเหรียญ ส่วนเหรียญที่ระลึกประดับแพรแถบชนิดบุรุษและสตรี จำนวน 500,000 เหรียญ ขณะนี้ยอดจองยังไม่ครบจำนวน ประชาชนทั่วไปและข้าราชการยังสามารถสั่งจอง-ซื้อได้ที่กรมธนารักษ์ทั่วประเทศ หลังจากเผยแพร่ภาพเหรียญทุกรุ่น เมื่อวันที่ 24 เม.ย.2562 จนถึงช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 10 มีประชาชนสนใจซื้อเหรียญ ร.10 เพิ่มขึ้นจากเดิมจำนวนมาก ส่วนเหรียญอื่นๆ ที่ในอนาคตกรมธนารักษ์อาจจะผลิตออกมา อาทิ เหรียญครบรอบ 60 พรรษา เหรียญราชินี นั้นเรื่องนี้ต้องรอโปรดเกล้าฯ ก่อน ถึงจะวางแผนผลิตได้ เป็นต้น
อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าวอีกว่า สำหรับการเก็บเหรียญกษาปณ์รุ่นเก่า หรือเหรียญกษาปณ์รัชกาลที่ 9 หมุนเวียนอยู่ในระบบราว 33,000 ล้านเหรียญ มูลค่า 68,000 ล้านบาท กรมธนารักษ์ยังยึดตามแผนเดิม ปล่อยให้เหรียญหมดสภาพตามอายุการใช้งานประมาณ 5 ปี จากนั้นจึงผลิตเหรียญใหม่ของรัชกาลที่ 10 เข้ามาทดแทนเหรียญเก่าที่ชำรุดในปีที่ 6 คาดว่าภายใน 10 ปี จะสามารถเก็บเหรียญรุ่นเก่าของรัชกาลที่ 9 ทั้งหมดกลับมาที่กรมได้ ปัจจุบันกรมธนารักษ์มีกำลังผลิตเหรียญทุกประเภทอยู่ที่ 2,000 ล้านเหรียญต่อปี และมีประชาชนบางส่วนเริ่มเก็บเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน ร.9 ไว้ เพราะเกิดการเปลี่ยนรัชกาล ทำให้เหรียญ ร.9 ในระบบหายออกไปบางส่วน กรมธนารักษ์จะผลิตเหรียญ ร.10 เข้าไปหมุนเวียนในระบบให้ใช้ควบคู่กันไปแทน