ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานอภัยโทษผู้ต้องราชทัณฑ์ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ปี 2562
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2562 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2562 ความว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชดำริเห็นว่า ในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก นับเป็นอภิลักขิตกาลสำคัญ เพื่อเป็นการแสดงพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมควรพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 และมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 261 ทวิ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2517 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้
ด้าน พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า พระราชกฤษฎีกาอภัยโทษที่ออกมา เป็นการดำเนินการตามโบราณราชประเพณีเนื่องในโอกาสมหามงคล โดยถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ ซึ่งมีสาระสำคัญ 2 ส่วนคือ ให้ปล่อยตัวเลย และให้ลดโทษแก่ผู้ต้องขังตามลำดับชั้น
"การปล่อยผู้ต้องขังจะเกิดขึ้นภายใน 120 วัน มีผลใช้บังคับ นับจากวันถัดไปที่พระราชกฤษฎีกาประกาศ โดยแต่ละเรือนจำจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ต้องขังของตัวเองว่า ผู้ต้องขังรายใดมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ปล่อยตัว หรือลดโทษหรือไม่ และมีจำนวนเท่าไหร่ จากนั้นจะส่งให้คณะกรรมการ 3 ท่านประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้พิพากษา และอัยการ ในแต่ละจังหวัด เป็นผู้ตรวจสอบผู้ได้รับพระราชทานอภัยโทษและส่งรายชื่อต่อศาลออกหมายปล่อย จากนั้นจึงส่งเอกสารให้กรมราชทัณฑ์ และให้แต่ละเรือนจำจะเป็นผู้ดำเนินการต่อไป" พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าว...
...