2 กูรู ประสานเสียง 7 กกต.ชีวิตเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย สูตรคำนวณ ส.ส.พึงมีของกรธ.ทำกลืนก็ไม่เข้าคายก็ไม่ออก เสี่ยงโดน ม.157 ถูกฟ้องทั้งแพ่ง และอาญา แต่ไม่มีทางเลือก ยังไงก็ต้องเดิน 

วันที่ 2 พ.ค. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.กล่าวกับทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ กรณี กกต.เผยว่า จะเสนอสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อของกรธ.ที่มี 27 พรรคการเมือง ได้ส.ส.พีงมี ว่า อันนี้ กกต.และคนคิดสูตรนี้ คือ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กรธ.ก็ต้องมีเหตุผล ที่สามารถชี้แจงต่อสังคมได้ ชี้แจงแล้วรับฟังได้หรือไม่ เป็นอีกเรื่อง อย่างที่ผมเคยบอก ว่าสูตรคำนวณนี้ มันมีปัญหา เพราะกกต.ไปยึดตาม พ.ร.ป.ส.ส. ม.128 เพียงอย่างเดียว ซึ่งขัดแย้งกับ รธน.ม.91 ซึ่งกำหนดว่า จะจัดสรร ส.ส.ให้พรรคการเมืองเกินจำนวนส.ส.พึงมีไม่ได้ เชื่อว่าเมื่อมีการใช้สูตรนี้ ก็จะมีผู้ไปร้องศาลรธน.อีก ซึ่งก็ขึ้นอยู่ที่ศาลรธน.จะวินิจฉัยอย่างไร ขัดรธน.หรือไม่ ซึ่งศาลรธน.อาจมีคำตัดสินว่า ให้แก้ไขกลับก็เป็นได้ แต่ปัญหา คือการพิจารณาของศาลรธน.จะจบเมื่อไหร่ 1 เดือน หรือ 2 เดือน แต่ที่แน่ๆ การจัดตั้งรัฐบาล การเลือกนายกฯ คนใหม่ จะเกิดขึ้นก่อนแน่นอน ซึ่งหากศาลรธน.มีคำตัดสินขึ้นมาจริงๆ แต่มันมีความเปลี่ยนแปลงแข่งกันจัดตั้งรัฐบาลไปแล้ว พรรครัฐบาลในขณะนั้นอาจกลายเป็นเสียงข้างน้อย ทำให้บริหารประเทศด้วยความยากลำบากก็เป็นได้ ยกเว้นแต่จะมีส.ส.ใหม่เข้ามาเติม (งูเห่า) เรื่องสูตรคำนวณส.ส.ของ กรธ.ก็จะกลายเป็น "เวรกรรม" หรือ "กงกรรม" ขึ้นมาทันที

...

นายสมชัย กล่าวต่ออีกว่า หากสถานการณ์ไปถึงจุดนั้นเมื่อไหร่ ผลคือ กกต.อาจถูกร้องไปที่ ป.ป.ช. ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผิด ม.157 ถามว่า หากกกต.ไม่สามารถรับรอง ส.ส.ได้ครบ 95% ภายใน 9 พ.ค. นี้จะเกิดอะไรขึ้น นายสมชัย กล่าวอีกว่า ส่วนตัวเชื่อว่า กกต.ชุดปัจจุบันสามารถรับรอง ส.ส.ได้ทันแน่นอน แต่หากไม่ทันจริงๆ ไม่ว่าจะเพราะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ก็อาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดี เพราะไม่สามารถจัดเลือกตั้งให้แล้วเสร็จใน 150 วัน ตามกฎหมายกำหนด คราวนี้ก็เชื่อว่า จะมีผู้ไปร้องว่า กกต.ทำผิดรธน.ฟ้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ เอาผิด กกต.ทั้งทางแพ่ง และทางอาญา เรียกว่า"ชีวิตแขวนบนเส้นด้าย"

ขณะนางสดศรี สัตยธรรม อดีตกกต.อีกท่าน กล่าวกับทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ เช่นกันว่า เรื่องสูตรคำนวณ ส.ส.ของ กรธ.นั้น เชื่อว่า ทางกกต.ชุดปัจจุบันคิดไว้ดีแล้วว่า อย่างไรก็ต้องประกาศรับรอง ส.ส.ครบ 95% ก่อนวันที่ 9 พ.ค. ซึ่งเป็นวันครบกำหนด 150 วัน ที่กฎหมายให้จัดเลือกตั้งให้แล้วเสร็จ ไม่เช่นนั้น กกต.ก็จะโดนฟ้องร้องเอาได้ แนวโน้มไปถึงขั้นร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ แล้วยังต้องเจอกับความผิด ไม่ปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอีก ม.157 ดังนั้นส่วนตัวเชื่อว่า กกต.จะสามารถประกาศผลเลือกตั้งครบตามจำนวนได้แน่

นางสดศรี ให้เหตุผลว่า เข้าใจว่า อันนี้เป็นหลักการและวิธีการทำงานของ กกต.ชุดปัจจุบัน ที่ต้องอิงกับกรธ.ผู้เป็นทั้งผู้คิดและเขียนสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อเอง ส่วนสูตรคนอื่นทั้งของ นายสมชัย นายโคทม ที่เสนอมามันคงไม่สามารถเอามาอ้างอิงได้ เพราะไม่ได้เป็นผู้มีส่วนเขียน รธน.หรือคิดสูตรคำนวณ ส.ส.นี้ ดังนั้นหากกกต.จะถูกฟ้องร้องเรื่องสูตรคำนวณ ส.ส. (ซึ่งเชื่อว่ากกต.ชุดนี้ก็รู้อยู่แล้วโดนฟ้องแน่ไม่ว่าใช้สูตรไหน เพราะจะตัดสินใจอย่างไรก็จะมีผู้เสียผลประโยชน์ไปร้องอยู่แล้วนั่นเอง) ดังนั้นจึงเลือกใช้สูตรของ กรธ. ที่นายประพันธ์ นัยโกวิท อดีตกรธ.ที่ร่วมคิดสูตรนี้ดีกว่า เพื่อเป็นการป้องกันไปในตัวหากลงท้ายมีผู้ร้องจริง ก็ยังสามารถอ้างอิงไปที่กรธ.ได้เวลาต้องขึ้นศาล

"ส่วนประเด็นกฎหมายกำหนดต้องจัดเลือกตั้งให้เสร็จภายใน 150 วัน ควรนับจากวันไหนกันแน่ระหว่างครบ 150 วัน คือวันเลือกตั้ง 24 มี.ค.ที่ผ่านมา หรือวันประกาศรับรองส.ส.ของกกต.นั้น (ครบ 150 วัน 9 พ.ค.) เรื่องนี้ส่วนตัวเห็นว่า ถ้าดูตามกฎหมายจริงๆ ครบ 150 วัน คือวันที่ 9 พ.ค. ไม่ใช่ 24 มี.ค.2562 แล้วยังสามารถขยายไปได้อีก 60 วัน 23 พ.ค.อย่างที่ นายวิษณุ ตั้งข้อสังเกตไว้ อันนั้นมันหลักลอยจนเกินไป กกต.ชุดปัจจุบันจึงไม่กล้าเสี่ยง จึงต้องเร่งประกาศผลในวันที่ 9 พ.ค.นั่นเอง" นางสดศรี กล่าว...