“นิพิฏฐ์” แฉมีขบวนการโกงเลือกตั้งในพื้นที่พัทลุง เขต 2 โยง กก.บห.พรรค อ้างมีการเจรจาต่อรองผู้มีอำนาจ ตัดตอนโทษยุบพรรค ยันมีพยานบุคคล ต้องหลบออกจากพื้นที่ เพราะโดนขู่...

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 เมษายน 2562 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง เขต 2 แถลงถึงประเด็นการทุจริตการเลือกตั้งเขต 2 จังหวัดพัทลุง ว่า ยืนยันว่ามีการเตรียมการทำเป็นกระบวนการที่ใหญ่มาก ซึ่งตนได้บอกกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องไว้ก่อนที่จะมีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป ที่ประกาศเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2562 ว่ามีการเตรียมทุจริต โดยยื่นเรื่องกับ กกต.พัทลุง และผู้ว่าราชการจังหวัดฯ และหลังจากนั้นก็มีการถ่ายบัตรประชาชนไว้เบื้องต้น 4 หมื่นใบ และเพิ่มมาเป็น 6 หมื่นใบ

ซึ่งกรณีนี้ กก.บห.พรรคดังกล่าว มีส่วนรู้เห็นเป็นใจการทุจริตด้วย มีโทษถึงการยุบตามกฎหมายเลือกตั้ง แต่มีการต่อรองของพรรคการเมืองนั้นกับผู้มีอำนาจว่า อย่าให้โทษถึงยุบพรรค ขอให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็พอ เพราะหากลงโทษตามกฎหมายถึงขั้นยุบจะกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาล เพราะพรรคที่กระทำนี้เป็นพรรคหนึ่งที่จะร่วมรัฐบาล ย้ำว่ากรณีนี้มีหลักฐานที่สามารถโยงถึง กก.บห. และมีพยานบุคคลรวมถึงคลิป ข้อความสั่งทางไลน์ด้วย

“ผมทำเรื่องการยุบพรรคการเมืองมาแล้วสองครั้ง แต่ละครั้งพยานหลักฐานทั้งสองครั้งยังไม่ชัดเจนเท่านี้ ศาลท่านยังสั่งยุบพรรค แต่ครั้งนี้ทั้งพยานและหลักฐานหนาแน่นกว่าสองครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะพยานเอกสาร ที่ไม่สามารถหักล้างได้ ทั้งนี้ ผมเป็นคนร้องเรียนเป็นคนแรกของประเทศไทยในเรื่องนี้ เมื่อร้องก่อน พ.ร.ฏ.เลือกตั้ง ส.ส. การตรวจสอบต้องเร็วและสามารถได้ข้อสรุปแล้วว่า จะสั่งยก สั่งเลือกตั้งใหม่ หรือสั่งยุบพรรค จะประวิงเวลาโดยไม่มีมีข้อยุติตามกฎหมายกำหนดไม่ได้ แต่พอมีการเจรจาต่อรองกับผู้มีอำนาจเพื่อขอให้ถ่วงเวลาไปก่อน หรือรับรองไปก่อนแล้วค่อยสอยทีหลัง ที่สุดมันจะทำลายความน่าเชื่อถือต่อองค์กร กกต.

...

ที่สำคัญ เป็นความลำบากในคดีทุจริตเลือกตั้งที่จะหาพยานหลักฐาน โดยเฉพาะพยานบุคคลยากมากกว่าจะมีคนกล้าเป็นแต่ละคน ซึ่งคดีนี้พยานฝ่ายตนหลายคนต้องหลบหนีออกไปนอกพื้นที่ จ.พัทลุง ไปอยู่ที่อื่น เพราะมีการส่งคนมาข่มขู่ในลักษณะต่างๆ รวมไปถึงญาติพี่น้องของเขา โดยวันนี้ตนจะไปยื่นเรื่องร้องต่อเลขาธิการ กกต. เพื่อขอให้เร่งรัดการสอบสวนเพื่อให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว ที่สำคัญต้องขอให้มีการคุ้มครองพยานบุคคล เพราะพยานทุกคนที่ให้ถ้อยคำเป็นพลเมืองดี กกต.อย่าให้ล้มหายตายจาก หรือบาดเจ็บ และตนจะร้องต่อหัวหน้า คสช.ให้เข้มงวดเรื่องคุ้มครองพยาน หากพยานของตนเป็นอะไรไป ก็มีเหตุผลเดียวคือมาจากการเป็นพยานในคดีทุจริตเลือกตั้งที่พัทลุง เขต 2 โดยตนจะเดินทางไปยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กกต.กลาง เร่งรัดการสืบสวน และคุ้มครองพยานในเวลา 13.00 น. วันที่ 10 เมษายนนี้” นายนิพิฏฐ์

เมื่อถามว่า ทราบได้อย่างไรว่ามีการเจรจาต่อรองเพื่อไม่ให้ยุบพรรคดังกล่าว นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า รู้มาในทางลับว่ามีการเจรจาต่อรองกันโดยเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงกับผู้มีอำนาจปัจจุบันให้ตัดตอนโทษการยุบพรรคออกไป เพราะพรรคการเมืองที่ว่านี้จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หากมีการสั่งยุบพรรคจะกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาล และอยากสื่อไปถึงนักกฎหมาย นักวิชาการ ขอให้ดูเรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาว่าจะถึงยุบพรรคหรือไม่ เพราะพยานหลักฐานแน่นหนา

เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่า กกต.ชุดนี้สั่งได้ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้บอกว่าสั่งได้ แต่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับใหญ่กับผู้มีอำนาจเจรจาต่อรองกัน เมื่อถามอีกว่า มีบางฝ่ายระบุว่าการประกาศ พ.ร.ฎ. จนถึงวันเลือกตั้งมีเวลาเกิน 60 วันไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด จะทำให้การเลือกตั้งนี้เป็นโมฆะหรือไม่นั้น นายนิพิฏฐ์ ยอมรับว่าไม่ได้ศึกษารายละเอียดในข้อกฎหมายดังกล่าว.