การเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 5 ปีตามกติกาใหม่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถูกตั้งคำถามในทางลบมาตลอดตั้งแต่ปิดหีบเลือกตั้ง
ทีมข่าวการเมือง ถือโอกาสเปิดใจ 3 กกต.ถึงแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ชี้ผลการเลือกตั้งจุดจบจะลงเอยอย่างไร ทั้ง นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี นายปกรณ์ มหรรณพ และ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ บอกไปทิศทางเดียวกันในทุกประเด็นข้อสงสัย
ขอเริ่มจาก นายฉัตรไชย บอกถึงอำนาจและหน้าที่ของ กกต.ชุดนี้กับ กกต.ชุดที่ผ่านมาไม่เหมือนกัน เนื่องจากรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. กำหนดเจตนารมณ์ไม่เหมือนที่ผ่านๆมา
กฎหมายเดิมกำหนดให้ กกต.เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดขององค์กร งานทุกอย่างตกอยู่ที่ กกต. เสมือนเป็นผู้ปฏิบัติเองด้วย กกต.ก็แบ่งงานรับผิดชอบในด้านต่างๆ
แต่ กกต.ชุดปัจจุบันกฎหมายกำหนดให้ กกต.เป็นบอร์ดบริหาร กำหนดนโยบาย กำกับดูแลการทำงานของเลขาธิการ กกต. ไม่จำเป็นต้องลงไปคุมฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ ไม่ลงไปล้วงลูกเลขาธิการ กกต.
ฉะนั้นข้อสงสัย กกต.เหมือนช่วยเหลือพรรคใดพรรคหนึ่ง ดูเป็นคำกล่าวหาที่เป็นนามธรรม ไร้ข้อเท็จจริง ผลการเลือกตั้งชัดเจนว่าถ้า กกต.เจตนาช่วยพรรคใด ผลการเลือกตั้งจะออกมาแบบนี้หรือ ทำไมผลออกมาเหมือนที่คาดการณ์ไว้ก่อนแล้วว่าพรรคนี้จะมาที่หนึ่ง พรรคนั้นจะมาที่สองที่สาม
มากล่าวหา กกต.ว่าช่วยพรรคอื่น แต่พรรคตัวเองได้คะแนนเยอะแยะ ทำไมไม่พูดถึง และไม่เห็นมีพรรคไหนได้คะแนนมากจนผิดปกติ จนขณะนี้การตั้งรัฐบาลก็ยังมีปัญหาอยู่เลย
หรือกรณี กกต.ทำงานโปร่งใสหรือไม่ ตามกฎหมายและการปฏิบัติ กกต.ตั้งกรรมการการเลือกตั้งประจำเขต ที่ไม่ได้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของ กกต. แต่เป็นบุคคลภายนอกทั้งหมด ทั้งกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ก็เป็นครูบาอาจารย์ เป็นข้าราชการเทศบาล อยู่ฝ่ายปกครอง ชาวบ้านทั่วไปก็มี
...
การนับคะแนนก็เช่นกัน กฎหมายเปิดโอกาสให้ทุกพรรคส่งตัวแทนเข้าไปสังเกตการณ์ ประชาชนหรือผู้สื่อข่าวก็ดูได้ว่าการนับคะแนนโปร่งใสหรือไม่ สามารถทักท้วงได้
แสดงถึงความโปร่งใสของทั้งระบบและกฎหมาย
แต่ กกต.ถูกโจมตีว่านับคะแนนล่าช้าและมีคะแนนเขย่งเพิ่มขึ้น นายปกรณ์ มหรรณพ บอกว่า ทั่วประเทศมีกว่า 9 หมื่นหน่วยเลือกตั้ง หลังปิดหีบประมาณ 2-3 ชั่วโมงก็ประกาศผลนับคะแนนที่หน้าหน่วยเลือกตั้ง
สิ่งที่เขาเรียกร้องคือสิ่งที่เราทำตามกฎหมาย แต่เขาไม่สนใจ เพราะอาศัยความสะดวกการรายงานข้อมูลผ่านแรพพิดรีพอร์ต ถ้าส่งตัวแทนไปสังเกตการณ์และบันทึกที่หน้าหน่วยเลือกตั้งก็จะได้ข้อมูลทุกอย่าง
ยิ่งถ้าการนับคะแนนหน้าหน่วยเลือกตั้งไม่เป็นธรรมก็ทักท้วงได้เลย กปน.จะตรวจสอบครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ถ้าผิดพลาดหรือมีข้อพิรุธต้องรีบรายงาน กกต.ทันที หลัง กปน.ประกาศก็จะส่งเอกสารมาที่เขตเลือกตั้ง
เช่น จ.เชียงใหม่ มี 9 เขต กปน. 200 หน่วยก็ส่งมาที่เขต เขตตรวจสอบแล้วนำคะแนนนอกราชอาณาจักรและเลือกตั้งล่วงหน้า รวมกับ 200 หน่วยนั้นนับ และทำเป็นอีกบัญชีหนึ่ง ซึ่งประกาศที่หน้าเขต
เมื่อทำเช่นนี้ทุกเขตเรียบร้อยแล้ว มีคำถามว่า ทำไมบัตรเลือกตั้งเกิน 4 ล้านใบ หลังจากนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. แถลงวันที่ 24 มี.ค. ขณะนั้นนับคะแนนไป 93 เปอร์เซ็นต์ ขาดอีก 7 เปอร์เซ็นต์ของผู้มาใช้สิทธิ ประมาณ 30 ล้านเศษ หรือประมาณ 2 ล้าน รวมเลือกตั้งล่วงหน้าอีก 2 ล้านกว่าคน จากนอกราชอาณาจักรอีก 1 แสนคน
รวม 4 ล้านเศษที่แต่ละเขตประกาศได้ เมื่อเขตประกาศ เขตก็ส่งผลการลงคะแนนไปที่สำนักงาน กกต.จังหวัด ผู้อำนวยการ กกต.จังหวัดก็ตรวจสอบก่อนส่งไปที่ กกต.กลาง
เมื่อ กกต.ตรวจสอบ ให้ร้องเรียนมาเลย ทั้งจากผู้แทนพรรคการเมือง ประชาชน ถ้าหน่วยไหนนับคะแนนไม่ถูกต้อง เราจะสั่งให้นับคะแนนใหม่ถ้ามีหลักฐานเชื่อได้ หรือให้รวมคะแนนใหม่ หรือเลือกตั้งใหม่ในเขตนั้น
ขณะที่ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ เสริมว่า ในอดีตการนับคะแนนที่หน่วยโกงง่ายที่สุด ปัจจุบันโกงยากที่สุด วาทกรรมทั้งหลายที่บอกบัตรเลือกตั้ง 4 ล้านมาจากไหน ข้อเท็จจริงไม่เคยเปลี่ยน คะแนนที่หน่วยเท่าไหนก็เท่านั้น
ผมมั่นใจอยู่อย่างหนึ่ง พรรคการเมืองรู้คะแนนทุกหน่วยและรวมเรียบร้อยแล้ว ข้อสังเกตคือทำไมตอนแรกไม่มีใครออกมาโวยวาย แม้กระทั่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หลังผลการเลือกตั้งออกมาพลาดเป้าตามที่ประกาศเอาไว้ เขาควรจะเป็นคนแรกที่สงสัย แต่กลับไม่สงสัย เพราะรู้ว่าระบบไม่มีทางโกง
ทีมการเมือง ถามว่า บัตรเลือกตั้งล่วงหน้าส่งกระจายไปตามเขตต่างๆ ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีผู้บริหารจัดการคนหนึ่งจับมือกลไกกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปลี่ยนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า
นายปกรณ์ มหรรณพ บอกว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะเมื่อกาบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าแล้วก็พับใส่ซอง ปิดผนึก ลงลายเซ็นกำกับ ถึงหย่อนใส่หีบเลือกตั้ง ที่ซองก็จ่าหน้าถึงเขตเลือกตั้งปลายทาง ทุกขั้นตอนต้องตรงกันและบัตรเลือกตั้งก็มีโค้ดลับตรวจสอบได้ว่าเป็นบัตรจริง ถ้าใครเห็นพฤติกรรมเช่นนั้นร้องเรียนเข้ามา สามารถตรวจสอบได้ง่ายมาก
เฉกเช่นคะแนน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคต่างๆ แต่ละพรรคได้จำนวน ส.ส.เท่าไหร่ เป็นการคำนวณกันเอง กกต.ไม่เคยแถลง ต้องรอประกาศผลการเลือกตั้งเขตก่อน ซึ่งอยากจะทำมาก
สมมติที่จังหวัดสมุทรสงคราม หรือจังหวัดไหนก็ตามที่ตรวจสอบแล้วไม่มีข้อร้องเรียน กกต.อยากรับรองผลการเลือกตั้ง แต่ทำไม่ได้ เพราะกฎหมายกำหนดไว้ว่าต้องประกาศอย่างน้อย 95 เปอร์เซ็นต์ จะประกาศได้ต้องฟังรายงานของผู้ตรวจการเลือกตั้งและข้อมูลต่างๆ ถ้ามีการร้องเรียนเข้ามาก็ต้องวินิจฉัยก่อน ทุกอย่างเดินตามขั้นตอนของกฎหมาย
“กกต.อยากประกาศ แต่ทำไม่ได้ เพราะต้องจัดการให้การเลือกตั้งสุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรมจัดการคนที่โกงให้ได้ก่อน บ้านเมืองเดินไปไม่ได้ ถ้าการเลือกตั้งไม่สุจริต
ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคน ไม่ใช่เรื่องที่ กกต.จะไปกลั่นแกล้งใครหรือไปสั่งพนักงานสืบสวนไต่สวนทุกจังหวัด หรือคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้ง 35 คณะ” นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ระบุ การคำนวณจำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ก็เหมือนกัน ทั้ง นายเลิศวิโรจน์ และ นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ต่างพูดสอดรับกันว่า กกต.สามารถคำนวณได้ แต่ยังไม่ทำ รอข้อมูล ส.ส.เขตครบ 95 เปอร์เซ็นต์หรือ 100 เปอร์เซ็นต์ ก่อน ระหว่างนี้ก็เชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาพูดคุย เพื่อสร้างความโปร่งใสในเรื่องนี้
ทีมข่าวการเมือง ถามถึงการแจกใบส้มเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ในเขตนั้นๆ นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี บอกว่า กกต.จะทำด้วยความเที่ยงธรรม ยุติธรรม ขอให้เชื่อมั่นว่าเรามีหลักมั่นคง ไม่หวั่นไหว ไม่กลัวถูกถอดถอน
ถ้าตรวจพบกระทำผิดโดยมีผู้สมัครเข้าไปเกี่ยวข้อง รู้เห็นเป็นใจ กกต.จะเพิกถอนสิทธิชั่วคราว 1 ปี หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี หรือใบส้ม หลังแจกใบส้มแล้วก็ร้องศาลให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้สมัคร
ถ้าศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือใบแดง หรือกรณีหลังประกาศผลการเลือกตั้งเมื่อตรวจสอบแล้วก็ร้องศาลให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งถาวร กกต. ต้องทำด้วยความระมัดระวัง รีบด่วนไม่ได้
เช่นเดียวกับ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ บอกว่า อำนาจของ กกต.มีก่อนประกาศผล หลังจากนั้นศาลจะพิจารณาเพิกถอนสิทธิ ใครถูกเพิกถอนย่อมมีผลต่อการคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ที่จะหายไปตามกฎหมายใหม่ด้วย
เมื่อเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ในเขตนั้นๆ นายปกรณ์ มหรรณพ ระบุถึงแผนรับรองการเลือกตั้งใหม่ว่า กกต.กำหนดวันเอาไว้แล้ว โดยต้องรีบดำเนินการให้เสร็จทันภายในกรอบเวลาที่กำหนด
การเลือกตั้งครั้งนี้มีโอกาสตกเป็นโมฆะมากน้อยแค่ไหน นายปกรณ์ มหรรณพ บอกว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของศาล และยังไม่เห็นเหตุทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ สอดรับกับ นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี บอกว่า ขณะนี้ยังมองไม่เห็นว่าจะเป็นไปได้อย่างไร ตามข้อกฎหมายยังไม่มีอะไรที่เข้าข่ายทำให้การเลือกตั้งตกเป็นโมฆะ
แต่ กกต.กลับถูกวิพากษ์ในทางลบทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง นายปกรณ์ มหรรณพ บอกว่า ทั้งหมดดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ขณะนี้ผมสงสารประเทศไทย น่ากลัวมาก
นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี บอกว่า มีการทำเป็นขบวนการกล่าวหา กกต.โดยไม่มีข้อเท็จจริง ทั้งที่ก่อนเป็น กกต.รู้ว่าจะพบปัญหาพวกนี้ ไปซ้ายก็ด่า ไปขวาก็ด่า ไม่คิดว่าจะหนักอย่างนี้ แต่เมื่อทุกอย่างทำโดยสุจริต เที่ยงธรรม ซื่อสัตย์จะเป็นเกราะป้องกันได้ ไม่ต้องกลัว
ปิดท้ายโดย นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ บอกว่า ถ้าถอดถอน กกต.อย่างเดียวไม่มีปัญหา กกต.ลาออกเองได้ แต่ถ้าลาออกแล้วกระบวนการทางกฎหมายไปต่อไม่ได้เลย
หากเป้าหมายอยู่แค่ กกต.ก็ไม่เป็นอะไร ขอให้มาช่วยกันถล่มได้เลย
แต่เป้าหมายจริงไม่ใช่แค่ กกต. เพราะเขากำลังจะฆ่าประเทศไทย.
ทีมการเมือง