"สนธิรัตน์" ควง "พุทธิพงษ์" เดินสายเบิร์ธเดย์พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ในวันพรุ่งนี้ (6 เม.ย.) พร้อมออกตัวเปล่าไปจีบ แค่ยินดีวันเกิดพรรค ทุกอย่างจะชัดหลัง 9 พ.ค. วอน เคารพ กกต. อย่ามุ่งทำลายความเชื่อมั่น

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 เม.ย.62 ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันที่ 6 เม.ย. ตน และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการบริหารพรรต จะเดินทางไปร่วมแสดงความยินดีเนื่องในวันคล้ายวันเกิดพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย เพราะถือว่าเป็นพรรคการเมืองด้วยกัน เมื่อเป็นวันสำคัญเราต้องไปร่วมแสดงความยินดี 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะถือโอกาสเทียบเชิญทั้งสองพรรคมาร่วมรัฐบาลอย่างไม่เป็นทางการเลยหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เพียงแต่ไปแสดงความยินดีเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งขนาดนั้น มีพรรคอื่นเกิดก็จะไป เพราะตนมองว่าเป็นสิ่งที่เราอยู่ในวงการเดียวกัน เมื่อถึงวันสำคัญของพรรคต่างๆ ถ้าเราไปร่วมได้ก็ยินดีไปร่วม ส่วนมีการตั้งข้อสังเกตว่าทั้งสองพรรคถือเป็นพันธมิตรของพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า อย่าไปคิดไกลขนาดนั้น คงไปแค่แสดงความยินดี บังเอิญมีวันคล้ายวันเกิดในวันที่ 6 เม.ย.พอดี เมื่อถามย้ำว่า ยังไม่ถือโอกาสไปจีบทั้งสองพรรคใช่หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องรอหลังวันที่ 9 พ.ค. โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนต้องรอ เพราะบางเขตบางพื้นที่ยังต้องมีการเลือกตั้งใหม่

เมื่อถามถึงกรณีนายถาวร เสนเนียม ว่าที่ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ระบุพร้อมร่วมงานกับพรรค พปชร. นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ยืนยันขณะนี้ยังไม่ได้คุยกัน เพราะทางพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่พร้อมจะพูดคุย จึงต้องรอให้ถึงวันที่ 9 พ.ค. แต่ตนคิดว่าทุกคนคงห่วงบ้านเมือง ต่างคนก็ต่างคิด เมื่อถามว่าความไม่ชัดเจนในสูตรการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อนั้น จะเป็นปัญหาหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า คงไม่เป็นปัญหา เป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะต้องนำสูตรที่ถูกต้องมาคำนวณ และดูเหมือนว่าจะให้ศาลรัฐธรรมนูญช่วยพิจารณาด้วย ต้องตีความตามกฎหมาย ปัญหาคงไม่มี เพราะทุกอย่างต้องว่าตามรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จะตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ซึ่งต้องรอการประกาศที่ชัดเจนของ กกต.และศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนจะมีผลต่อตัวเลข ส.ส.ของพรรคหรือไม่นั้น เราน้อมรับทุกผลที่ออกมา เราไม่เคยบอกอะไรถูกอะไรผิด บอกแต่เพียงว่าอะไรที่เป็นหลักในการคิดคำนวณของ กกต. ที่ กกต.ว่าอย่างไรต้องว่าอย่างนั้น หากพลังประชารัฐจะได้ ส.ส.พึงมี 118 ที่นั่ง แต่ถ้าคำนวณออกมาแล้วลดลงเหลือ 116 ที่นั่ง ก็ไม่มีปัญหา ตัวเลขเท่าไรก็เท่านั้น ในเมื่อกติกาเป็นกติกา เราไม่ไปคิดตีความกติกาว่าอันนี้ใช่หรือไม่ใช่ ต้องเคารพและเชื่อว่าสิ่งที่เขาตีความนั้นถูกต้อง ส่วนที่พรรคการเมืองอื่นๆได้ร้องเรียนกับ กกต.ถึงความไม่ชอบธรรมต่างๆ นั้น ทางพรรค พปชร.ก็มีไปร้องเรียนเช่นเดียวกัน ถือเป็นเรื่องของกติกา ถ้าพื้นที่ใดมีความไม่ชอบธรรมสามารถดำเนินการตามสิ่งที่ทำได้ เป็นดุลยพินิจของ กกต.จะวินิจฉัย เดินกันตามนี้ อย่าถึงขั้นไปทำลายความเชื่อมั่นของ กกต.หรือของใครเลย มันจะไม่จบ.

...