"บิ๊กแดง"เปิดใจสื่อต่างประเทศ ช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบ ปชต. ย้ำทหารวางตัวเป็นกลาง อยู่ในระเบียบ กติกา ยันกองทัพไม่ก้าวก่ายรัฐบาล ลั่น จะไม่ยอมคนไทยต่อสู้บนถนน หากวุ่นวาย เชื่อกฎอัยการศึกเอาอยู่ ไม่ถึงรัฐประหาร...

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ได้เชิญสื่อต่างประเทศประจำประเทศไทยร่วมพูดคุยถึงสถานการณ์บ้านเมือง ที่อยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลทหารสู่รัฐบาลระบอบประชาธิปไตย โดยสำนักงานที่ได้รับเชิญในครั้งนี้ ประกอบด้วย CNN, EPA, Japanese News Agency, BBC, เกียวโด จากญี่ปุ่น, AFP, reuters, ABC Australia, CNA Singapore และ NHK

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวถึงการเมืองไทยในปัจจุบันว่า เราผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว จะเป็นอย่างไรก็ตาม กองทัพบก ทหารจะต้องวางตัวเป็นกลาง ตนเข้ามาเป็น ผบ.ทบ.มีจุดยืนของตัวเอง ไม่ได้ให้ใครเข้ามาควบคุม ตนอยู่ในกฎระเบียบกติกา กองทัพไม่เกี่ยวกับรัฐบาลและไม่ก้าวก่ายการเมือง ในหมู่ทหารมีทั้งดีและไม่ดี เช่นเดียวนักการเมือง ส่วนผลการเลือกตั้งรอ กกต.ประกาศเป็นทางการ ทุกอย่างมีไทม์ไลน์ ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาผลักดันและตนไม่รู้ว่าใครจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคต กองทัพไม่เข้าไปเกี่ยวทั้งสิ้น ตนยอมไม่ได้ให้คนไทยออกไปต่อสู้กันบนถนนอีกแล้ว

...

เมื่อถามว่าสถานการณ์หลังการเลือกตั้งจะมีทางออกหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ทางออกก็คือทุกคนต้องยอมรับกติกาให้เป็นไปตามขั้นตอนก็คือ กกต.ประกาศผลการเลือกตั้งทางการ 9 พ.ค. ถามว่าทำไมต้องเป็นวันที่ 9 พ.ค. ก็เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบต่องานพระราชพิธีสำคัญของคนไทยถ้าหากประกาศก่อน ขั้นตอนอื่นๆ ก็จะตามมา แต่ถ้าหากประกาศผลเป็นทางการในวันที่ 9 พ.ค.ก็คือผ่านพ้นงานพระราชพิธีไปแล้ว ทุกวันนี้นายกรัฐมนตรี พยายามควบคุมให้ทุกอย่างแฟร์ ส่วนจะแฟร์หรือไม่แฟร์ ไม่ได้ขึ้นอยู่กติกา แต่อยู่ที่ตัวบุคคล เมื่อมีการเลือกตั้ง คนแพ้ไม่พอใจ ก็หาเรื่อง แต่ถ้าหากคุณจัดตั้งรัฐบาล จะแก้ รธน. แก้กฎหมาย ทำกันในรัฐสภา ทหารไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด ไม่ใช่ทำให้เกิดสภาพเช่นนี้ ทุกฝ่ายไม่สบายใจกันหมด

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวถึงจุดยืนเรื่องรัฐประหารว่า ปัจจุบันการทำรัฐประหารไม่ใช่เรื่องง่ายทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลก็เดินไปได้ดีและนำไปสู่การเลือกตั้งซึ่งตนหวังว่าคนไทยจะไม่ต้องออกมาประหัตประหาร ต่อสู้กัน ซึ่งตนเคยผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาตั้งแต่สมัยของคุณพ่อจนมาถึงสมัยของตนเอง เมื่อมีคนมาต่อสู้กันบนถนนคนที่เรียกตัวเองว่านักประชาธิปไตย นักการเมืองก็หอบลูกเมียไปอยู่ต่างประเทศ ผมเป็นคนพูดตรงไปตรงมาไม่มีใครอยู่ประเทศไทยเขาไปนั่งดูอยู่ที่ต่างประเทศและดูว่าเมื่อไหร่ประเทศไทยจะสงบแล้วก็กลับมา ส่วนคนที่อยู่ก็ต้องสูญเสีย ทั้งทหารและประชาชน ประชาชนที่เสียชีวิตก็ไม่มี หัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรคคนมีเงิน คนมีชื่อเสียง

เมื่อถามว่าเหตุการณ์ต้องเข้าสู่สภาวะไหนถึงจะตัดสินใจยุติปัญหาด้วยการรัฐประหาร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ต้นเหตุของการเกิดรัฐประหารในทุกยุคทุกสมัยแตกต่างกันซึ่งไม่ได้เกิดจากฝ่ายการเมืองเสมอไป แต่การทำรัฐประหารสิ่งที่เห็นชัดเจนที่สุดคือประเทศไม่มีใครควบคุมได้ รัฐบาลควบคุมสถานการณ์ไม่ได้รวมถึงตำรวจ มีการใช้อาวุธมีคนออกมาต่อสู้ ประชาชนล้มตาย ถามว่าเมื่อถึงตรงนั้นกองทัพจะยืนอยู่ตรงไหน จะให้ยืนดูประชาชนต่อสู้กันจนเกิดสงครามการเมืองหรือไม่ การใช้กองกำลังทหารเข้าควบคุมก็ไม่ได้ถือว่าเป็นการปฏิวัติรัฐประหาร ทุกอย่างมีขั้นตอนของตัวเอง ซึ่งอาจเกิดความวุ่นวายขั้นตอนแรก ก็คือตำรวจซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในฐานะเจ้าพนักงานต้องเข้าไปควบคุม และถ้าหากบานปลายก็เป็นตำรวจอีกเช่นกัน จะไม่ไปถึงการประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อประกาศแล้วก็ต้องพิจารณาดูว่าดีกรีพอหรือไม่ ซึ่งอาจจะจนถึงขั้นประกาศกฎอัยการศึกเท่านี้ก็น่าจะแก้ไขได้แล้ว.