ศอ.รส. ออกประกาศ 2 ฉบับ ห้ามบุคคลเข้า-ออก และใช้เส้นทางถนนรอบทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภา เตรียมประกาศให้ผู้ชุมนุมทราบและปฏิบัติตามทันที หากฝ่าฝืนจะใช้มาตรการกดดันตามขั้นตอนต่อไป...

วันที่ 10 ก.พ. พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. เปิดเผยว่า ศอ.รส.ออกประกาศ 2 ฉบับ ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 มาตรา 18 เรื่อง การห้ามบุคคลเข้า หรือ ออกจากบริเวณพื้นที่ อาคาร หรือสถานที่ที่กำหนด และห้ามการใช้เส้นทางคมนาคม หรือยานพาหนะ โดยประกาศ ฉบับแรก จะห้ามบุคคลเข้าออก หรือใช้ถนนโดยรอบทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภา ประกอบด้วย ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกพาณิชยการพระนคร ด้านถนนพระราม 5 ถึงแยกสวนมิสกวัน, ถนนนครปฐม ตั้งแต่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ ถึง สะพานอรทัย, ถนนพระราม 5 ตั้งแต่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ ถึงสะพานอรทัย, ถนนลูกหลวง ตั้งแต่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถึงสะพานเทวกรรม, ถนนกรุงเกษม ตั้งแต่แยกมัฆวาน ถึงสะพานเทวกรรม และ ถนนราชดำเนินนอก ช่องทางคู่ขนานด้านทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่แยกสวนมิสกวัน ถึงแยกมัฆวาน

ส่วนประกาศฉบับที่ 2 ห้ามใช้เส้นทางคมนาคม หรือยานพาหนะ ในถนนพิชัย ตั้งแต่แยกขัตติยานี ถึงสามแยกถนนราชวิถี ตัดถนนพิชัย, ถนนราชวิถี ตั้งแต่แยกการเรือน ถึงแยกราชวิถี และถนนอู่ทองใน ตั้งแต่แยกอู่ทองใน ถึงแยกพระบรมรูปทรงม้า รัชกาลที่ 5

ซึ่งประกาศทั้ง 2 ฉบับจะมีการนำไปติดประกาศให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทราบ โดยจะเน้นการเจรจาเพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมปฏิบัติตาม โดยยังไม่มีการกำหนดกรอบระยะเวลา แต่จะประเมินตามสถานการณ์ และปฏิกิริยาของกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งขณะนี้ยังไม่เข้าเงื่อนไขการใช้กำลังสลายการชุมนุม เนื่องจาก ยังไม่มีการบุกรุก หรือปิดล้อมสถานที่ราชการ แต่หากการเจรจาไม่เป็นผล ทาง ศอ.รส. จะมีมาตรการกดดันตามขั้นตอนหลักปฏิบัติสากลจากเบาไปหาหนัก

ส่วนการที่กลุ่มพันธมิตรฯ จะเดินทางไปปฏิญาณตนที่พระลานพระราชวังดุสิต วันพรุ่งนี้ ทางตำรวจนครบาล จะเป็นผู้ประสานเกี่ยวกับเส้นทางและข้อกำหนดต่างๆ เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย

...

ขณะที่บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ในช่วงเช้าวันเดียวกัน ยังคงปักหลักชุมนุมต่อเนื่อง โดย พล.ต. จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ยืนยันจะปักหลักชุมนุมเหมือนเดิม ไม่ไปไหน เพราะเป็นการชุมนุมโดยสงบ และหากมีการใช้กำลังได้บอกให้ผู้ชุมนุมเตรียมพร้อมถ้ามีการใช้แก๊สน้ำตา จะให้ผู้ชุมนุมหมอบลง จนกว่าแก๊สน้ำตาจะสลายหมด และหากไล่ไปก็จะกลับมาใหม่

นอกจากนี้ ในช่วงสาย วันเดียวกัน นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความกลุ่มพันธมิตรฯ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือ ที่องค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย เรียกร้องให้ตรวจสอบการใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง