"สุดารัตน์" โวย รบ.ขอความชัดเจนมาตรฐานหาเสียง ติงบางพรรคหนุนรัฐใช้ได้ แต่เพื่อไทยโดนเบรก จวกเล่นไม่แฟร์ แฉซ้ำส่งคนแอบสะกดติดตาม ลั่นมาดีขอให้ใส่เครื่องแบบ

เมื่อวันที่ 11 ม.ค.62 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงกรณีผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยถูกห้ามให้พื้นที่ปราศรัยที่ จ.พะเยา ว่า ที่ผ่านมาเพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ ทางราชการจะให้ใช้สถานที่ราชการทุกครั้ง เช่น สนามหลวง หรือสนามกีฬาของจังหวัดต่างๆ และเมื่อไม่นานนี้พรรคของฝ่ายราชการ ก็ใช้สนามกีฬา 700 ปี ของจังหวัดเชียงใหม่ และในจังหวัดพะเยาเองมีการใช้สถานที่ราชการถึง 2 ครั้ง จึงเรียกร้องความชัดเจนจากผู้มีอำนาจ ว่า สรุปแล้วการไม่ให้ใช้สถานที่ราชการนั้น เป็นการไม่ให้ใช้แค่บางพรรค หรือไม่ให้ใช้ทุกพรรค และหากไม่ให้ใช้ทุกพรรค เหตุใดที่ผ่านมาจึงมีบางพรรคการเมืองใช้ได้ แต่บางพรรคใช้ไม่ได้ เรื่องแบบนี้จะมีมาตรฐานและจัดการอย่างไร เหตุใดจึงแตกต่างจากพรรคที่สนับสนุนรัฐบาล คสช. ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้รับหนังสืออนุญาตจากทางราชการจนไปตั้งเวทีแล้ว แต่อยู่ๆ ก็มีการแจ้งยกเลิกตอนประมาณเวลา 22.00 น. ซึ่งเรานัดหมายประชาชนได้เวลา 09.00 น. เราไม่สามารถไปยกเลิกคนหลายพันคนได้ทัน ทั้งนี้เราไม่อยากให้ข้าราชการเดือดร้อน เพราะรู้ว่าเขาถูกบังคับมาจากข้าราชการผู้ใหญ่ ที่โทรมาคุยกับตนว่าได้รับคำสั่งจากผู้ใหญ่ใน กทม.ว่า อย่าให้มีการปราศรัยเกิดขึ้นเด็ดขาด เราจึงไม่เข้าไปในสถานที่ซึ่งเขาห้าม แล้วเปลี่ยนมาใช้รถเครื่องเสียงขนาดเล็กแทน พร้อมขออนุญาตพูดคุยกับประชาชน ดูแล้วมันเป็นการเลือกตั้งที่ไม่แฟร์

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นในส่วนของเวทีเครื่องเสียงต่างๆ ตัวผู้สมัครอาจจะดำเนินการฟ้องร้อง เพราะเขาได้รับหนังสืออนุญาตอย่างเป็นทางการ เขาก็ไปลงทุน ลงแรง สร้างเวที และกางเต็นท์เรียบร้อยแล้ว โดยจะเป็นการฟ้องไปที่หน่วยงานก่อนแล้วหน่วยงานที่ได้รับคำสั่งที่ไม่ชอบมาก็ต้องแก้ต่าง จึงขอความชัดเจนเพื่อต่อไปจะปฏิบัติให้มีมาตรฐาน เราจะได้ทำถูก เพราะเราก็ไม่รู้ว่าจะปรับแผนอย่างไร เพราะเราทำถูกต้องตามกฎหมายแล้ว

...

เมื่อถามว่า จะบอกอย่างไรว่า พรรคไม่ต้องการเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ในลักษณะที่มาแอบติดตาม คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า หากเป็นเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร หรือเจ้าหน้าที่ที่ใส่เครื่องแบบ เขามาช่วยดูแลเรา ตนจะเดินไปขอบคุณเขาทุกครั้งที่มาช่วยดูแลเราและประชาชนจำนวนมาก แต่กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาพักใหญ่แล้ว ก่อนจะมาเกิดขึ้นอีกที่ จ.เชียงราย ซึ่งมีชายฉกรรจ์ซึ่งไม่ปรากฏสังกัด เดินตามพวกเราจำนวนมากไม่ใช่เพียงคนสองคน พร้อมกับเดินไปถ่ายภาพไปทุกจุด เราก็ต้องถามว่า เขาเป็นใคร เพราะคนที่มาตามเราก็ไม่ได้มีมากมาย เลขาฯส่วนตัวของตนก็เป็นผู้หญิง การที่หน่วยงานราชการจะส่งคนมาอารักขาเป็นเรื่องที่ต้องขอบคุณ แม้ว่าเราจะไม่ได้ขอ แต่ถ้าจะให้ดีกรุณาขอให้ใส่เครื่องแบบแสดงตัวให้ชัดเจน ไม่ใช่มาแบบที่เราเป็นโจร เป็นผู้ร้าย หรือมาสะกดรอยตามเราแบบนี้