ณ ปัจจุบันจาก จำนวนครูทั่วประเทศ ทั้งระบบมีอยู่ประมาณ 4 แสนคน แต่ถ้ารวม บุคลากรทางการศึกษา ทั้งหมดด้วยจะอยู่ที่ประมาณ 6.5 แสนคน ผลการสำรวจตัวเลขหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา จากเมื่อประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยอยู่ที่คนละประมาณ 800,000 บาท เมื่อเอามาเฉลี่ยกับ เงินเดือนครู ถ้าคิดจากอัตราเงินเดือนวุฒิปริญญาจะอยู่ที่เดือนละประมาณ 15,000 บาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายต่างๆตามกระบวนการแล้ว ครูได้รับเงินเดือนจริงๆประมาณ 1 หมื่นบาท หรือน้อยกว่านั้น
เหตุผลหนึ่งที่ครูมีหนี้สินเป็นเพราะอยู่ระหว่างการสร้างเนื้อสร้างตัว ซื้อรถซื้อบ้าน ให้สมกับฐานะ ประกอบกับครูสามารถกู้ยืมผ่าน สหกรณ์ครู ได้สะดวกเลยทำให้เป็นหนี้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อไม่มีรายได้พอที่จะ ใช้หนี้ในระบบ ได้ก็ไป กู้ยืมหนี้นอกระบบ มาใช้หนี้ในระบบ สลับกันไปมา จนสุดท้ายครูเป็นหนี้ ทั้งในระบบ และนอกระบบ ในเวลาเดียวกัน ยิ่งนานก็ยิ่งเหมือนดินพอกหางหมู
ต่อมาก็มีโครงการที่จะให้ครูมีแหล่งเงินกู้ยืมมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น ช.พ.ค. หรือ โครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา เปรียบเสมือนเอาเงินฌาปนกิจล่วงหน้าไปใช้ รายละ 6-8 แสนบาท กู้มากก็ถูกหักเงินเดือนมาก ทำไปทำมา เงินเดือนไม่พอหัก กลายเป็นวิบากกรรมอาชีพครูไปตลอดชีวิต
ทำให้การแก้ปัญหาหนี้สินครูยิ่งแก้ก็ยิ่งบานปลาย
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของคำว่า ปริญญามหาสารคามหนี้สินครูฉบับที่ 1 ซึ่งมี อวยชัย มะทา เป็นประธานเชิญ พิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทยไปหารือถึงทางออกของหนี้สินครูในเงื่อนไขที่เป็นไปได้ เรียกว่า พันธกิจฉบับที่ 2 ของพรรคประชาธรรมไทยกับหนี้ของครู
เนื้อหาของการหารือบนทางออกที่ว่า ถ้าหนี้สินครูมีไม่ถึง 700,000 บาท ไม่ต้องบังคับให้มีการทำประกัน เพราะครูทุกคนเป็นสมาชิกของ ช.พ.ค.อยู่แล้ว ในกรณีที่มีการเสียชีวิต ช.พ.ค.จ่ายให้ 700,000 บาท เป็นหลักประกันที่จ่ายไว้ให้กับธนาคารแล้ว ตามเงื่อนไขดังกล่าวมีครูที่เป็นหนี้มีอยู่ถึงประมาณ 190,000 คน ซึ่งถ้าให้ทำประกันด้วยก็ต้องจ่ายรายละ 39,000 บาท จากนั้นต้องรอไปจนถึง 9 ปี กรมธรรม์จึงจะหมดอายุ
...
นอกจากนี้ ตามข้อเสนอขอ ให้คิดอัตราดอกเบี้ย MLR-3% และให้ ธนาคารชะลอการดำเนินคดี โดยมีการตั้งคณะกรรมการร่วม ตัวแทนครู ตัวแทนธนาคารและตัวแทนรัฐบาล แก้ไขปัญหาทั้งระบบให้เรียบร้อยภายใน 1 ปี
ในระหว่างนี้ให้พักหนี้และดอกเบี้ยเอาไว้ก่อน
ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น เกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน คนจน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ได้รับ ของขวัญปีใหม่ จากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปเรียบร้อยแล้ว
ในโอกาสวันครูแห่งชาติที่จะมาถึงในวันที่ 16 ม.ค.นี้ รัฐบาลใจดีจะร่วมพิจารณาแก้ปัญหาหนี้สินให้กับครูทั่วประเทศได้สำเร็จลุล่วง ก็น่าจะเป็นของขวัญวันครูที่มีคุณค่ามากที่สุด.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th