ประเทศไทยเสียโอกาสมานาน หาก พรรคการเมือง นักการเมือง ยังหายใจเข้าออกเป็น การเมือง ประเทศไทยจะ ติดหล่มจมปลัก ไปอีกนานแสนนาน การคิดใหม่ทำใหม่ ถ้าเปรียบเทียบกับ นวัตกรรมและความทันสมัย ในปัจจุบัน ประเทศไทยต้องเข้าสู่ยุค 5.0 ไม่ใช่ 4.0 การเข้าสู่ยุค 5 จี ของคลื่นความถี่ที่นำมาใช้กับโทรศัพท์เคลื่อนที่ จะทำให้ฐานเศรษฐกิจของประเทศ โตขึ้นอีกนับแสนล้านบาท จะทำให้การบริหาร โครงสร้างของเศรษฐกิจประเทศ เปลี่ยนโฉมหน้าไปอย่างมหาศาล
ยกตัวอย่าง การเจรจาทางการค้าการลงทุน สามารถดูข้อมูลได้จาก อินเตอร์เน็ต นำมาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจการลงทุน สามารถจับคู่ทางธุรกิจได้ทันทีทันใด อาศัยความรวดเร็วในการแข่งขันทางด้านธุรกิจ การประเมินผลได้ในทันทีที่ข้อมูลครบถ้วน จำนวนเม็ดเงินการลงทุน ที่ลดลงเพราะการลดขั้นตอนต่างๆ และการนำเทคโนโลยีมาใช้ ทำให้มีการแข่งขันโดยวัดกันด้วยความเร็วและวิสัยทัศน์ มากกว่าการทุ่มเทการลงทุนโดยไม่คุ้มค่า
การชูนโยบายลดแลกแจกแถม ของ พรรคการเมือง ทำให้ถูกมองว่า ประเทศยังไม่พัฒนา เอะอะก็จะแจกเงิน แจกของ ซึ่งไม่ได้ช่วยใน การพัฒนาที่ยั่งยืนและมั่นคงในคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่อย่างใด ไม่ได้ส่งเสริมให้ประชาชนช่วยตัวเองและพัฒนาตัวเองเข้าสู่การแข่งขันเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นการเมืองที่ยังไม่พัฒนา
วันนี้ถ้า การเมืองไทย ยังชูป้าย อยากเลือกตั้ง ไม่อยากให้มีการเลื่อนเลือกตั้ง ทั้งๆที่กรอบเวลาตามรัฐธรรมนูญกำหนดเอาไว้ชัดเจน อย่างไรเสียประเทศไทยก็ต้องมีการเลือกตั้ง ตามกรอบเวลาแน่นอน
สิ่งที่ควรจะคำนึงถึงมากที่สุดคือ การเมืองหลังการเลือกตั้ง ถ้าความคิด นโยบาย แนวทางการทำงานของพรรคการเมืองยัง จมปลักอยู่กับความได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง ชิงไหวชิงพริบ เอาชนะการชิงอำนาจทางการเมือง โอกาสที่ประเทศไทยจะก้าวไปข้างหน้าเหลือน้อยเต็มที
...
การตั้งเงื่อนไขทางการเมือง จะเอาใครเป็นนายกฯ จะร่วมงานไม่ร่วมงานกับใคร จะร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ เท่ากับ เป็นการวางกับดักทางการเมือง ของพรรคการเมืองและนักการเมืองเอง
แทนที่พรรคการเมือง นักการเมืองจะเดินตามโหมดของรัฐธรรมนูญ แข่งกันเป็นนายกฯ แข่งกันเป็นตัวแทนของราษฎร โดยชูนโยบายที่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ แก้ไขความยากจน ปากท้องของประชาชน
กลับสร้างเงื่อนไขไปสู่วิกฤติการเมือง
กระแสข่าวการจับมือระหว่าง เพื่อไทย กับ ประชาธิปัตย์ เพื่อล้ม พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ให้กลับมามีอำนาจ เป็นแนวคิดทางการเมืองระหว่าง ทหารเผด็จการ กับ ประชาธิปไตย และสิ่งที่นักการเมืองพูดถึง ระบอบประชาธิปไตย เสมอ โดยลืมไปว่าเมื่อถึงคราววิกฤติก็เรียกร้องให้ใช้ ระบอบเผด็จการ เข้ามาแก้ปัญหาทุกครั้ง
จากเผด็จการเป็นประชาธิปไตยไม่แปลก แต่ประชาธิปไตยในคราบเผด็จการแปลกกว่า.
อินทรีเหล็ก
mudlek@thairath.co.th