"สนธิรัตน์" ยัน "พลังประชารัฐ" ไม่ได้ประโยชน์จากการเลื่อนเลือกตั้ง เผยชื่อนายกฯ บัญชีพรรค ขอรอชัดวันเลือกตั้งก่อน มั่นใจปักธง กทม.15 ที่ได้แน่ ยันระดมทุนโต๊ะจีนโปร่งใส พร้อมชี้แจงตามกรอบกฎหมาย

เมื่อวันที่ 5 ม.ค.62 ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เขตดินแดง-ห้วยขวาง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงสัญญาณการเลื่อนเลือกตั้งว่า พรรคพลังประชารัฐเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งไว้หมดแล้ว เราพร้อมทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเลือกตั้งวันใด เราไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เราพร้อมเดินหน้าตามโรดแม็ปทุกอย่าง และไม่คิดว่าพรรคเราจะได้ประโยชน์จากการเลื่อนเลือกตั้ง อย่างที่หลายคนวิจารณ์ ตรงกันข้ามเมื่อมีการเลื่อน เราจะต้องมีการปรับแผนใหม่ทั้งหมด ดังนั้นคนที่วิจารณ์เช่นนี้ถือว่าพูดความจริง เพราะเราอยากจะเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.ด้วยซ้ำไป

นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณี น.ส.อรพินทร์ เพชรทัต ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ได้ย้ายมาจากพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เข้าพรรคพลังประชารัฐนั้น เรียนว่าการเมืองเป็นเรื่องของเวลา นักการเมืองย่อมมองหาพรรคการเมืองที่จะสามารถทำงานร่วมกันได้ ซึ่งทำงานแล้วต้องประสบความสำเร็จ ถือเป็นเรื่องปกติของการเมือง พรรคเราเชื่อว่าจะสามารถปักธงในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้พอสมควร อย่างที่หัวหน้าทีม กทม.มั่นใจว่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 15 เขต และมั่นใจด้วยว่าเราเป็นพรรคการเมืองที่จะสามารถทำให้ประเทศชาติเปลี่ยนแปลงได้

นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อว่า ไม่คิดว่าการเลื่อนเลือกตั้งจะทำให้นักการเมืองจากพรรคการเมืองอื่นๆ ย้ายเข้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะถึงแม้การเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันที่ 24 มี.ค. แต่การเข้าเป็นสมาชิกพรรคใหม่ก็จะไม่ทันกรอบ 90 วัน ดังนั้นจึงไม่ควรวิจารณ์พรรคเราในสิ่งที่ไม่มีข้อเท็จจริง ส่วนการเสนอชื่อนายกฯ รัฐมนตรีนั้น ยังไม่ถึงเวลา ขอรอดูพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง จนรู้วันเลือกตั้งก่อน แม้ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค จะบอกว่าพร้อมแล้วที่จะสู่ขอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มาอยู่ในบัญชีนายกฯ แต่ก็ต้องรอเวลาในการมองหาบุคคลที่ดีที่สุดเพื่อนำเสนอต่อประชาชน

...

ส่วนการตรวจสอบกรณีการจัดงานระดมทุน 650 ล้านบาทนั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ยืนยันว่าเราทำอย่างตรงไปตรงมา โปร่งใส จากนี้จะนำรายละเอียดทั้งหมดรายงานต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เราพร้อมชี้แจงตามกรอบกฎหมาย เพื่อให้ทุกอย่างชัดเจน รายละเอียดผู้บริจาคนั้นเมื่อถึงเวลาจะมีการเปิดเผยให้สาธารณชนได้รับทราบ.