"พลังประชารัฐ" โว "เพื่อไทย" มีหนาว ลั่นกวาด ส.ส. 15 เขต กทม. ปลุกคนกรุงเลือก พปชร.ประเทศสงบสุข ชูแก้รถติด ฟุ้ง 4 ปีข้างหน้ามีรถไฟฟ้าครอบคลุม ดีกว่านิวยอร์ก สบายกว่าลอนดอน

เมื่อวันที่ 5 ม.ค.62 ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เขตดินแดง-ห้วยขวาง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค เป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ เขตดินแดง-ห้วยขวาง พร้อมเปิดตัว น.ส.อรพินทร์ เพชรทัต ผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตดินแดง-ห้วยขวาง โดยมี นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการบริหารพรรค และนายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรค พร้อมผู้สนับสนุนร่วมกว่า 300 คน 

โดย นายพุทธิพงษ์ ขึ้นเวทีกล่าวว่า พลังประชารัฐถูกปรามาสว่าจะได้ไม่กี่ที่นั่ง แต่ตนมั่นใจอย่างน้อย 15 ที่นั่งแน่นอน รับรองว่าพรรคเพื่อไทยมีหนาว เพราะเราจะเอาเก้าอี้ใน กทม.ของพรรคเพื่อไทยมาให้ได้ สิ่งที่พูดไม่ได้เพ้อฝัน ทุกคนปรามาสเราเพราะไม่มองพลังประชารัฐอยู่ในสายตา แต่วันนี้ประชาชนเอาพลังประชารัฐ ไม่ใช่แค่ไปไว้ในสายตาเท่านั้น แต่จะเอาไปไว้ในใจประชาชน ใครปรามาสเราไม่สน และกว่าเราจะได้น.ส.อรพินทร์ มาอยู่พลังประชารัฐไม่ได้ง่าย ตนไม่อยากพูดถึงบางคนพูดดีพูดเก่ง แต่เคยอยู่ในพื้นที่หรือไม่

ทั้งนี้พี่น้องได้เห็นแฟลตดินแดงใหม่ เราไม่ได้บอกเป็นผลงานเรา แต่คิดเหมือนเรา จะทำแฟลตให้ดีกว่าเดิม ห้องใหญ่กว่านี้ ค่าส่วนกลางลดกว่านี้ พลังประชารัฐจะทำให้พี่น้อง และได้ยินแว่วๆ มา ตลาดห้วยขวางกำลังจะเป็นตลาดประชารัฐแห่งแรก ดินแดงกำลังจะเป็นพื้นที่ทองคำ ขอให้อดทน ห้วยขวาง-ดินแดง กำลังจะเป็นใจกลาง กทม. จะเป็นพื้นที่ชั้นในที่เจริญแน่นอน เราไม่เคยทิ้งพื้นที่ดินแดงและห้วยขวางเป็นพื้นที่ใครไม่ทราบ แต่อีก 3 เดือน ส.ส.ขอให้ น.ส.อรพินทร์ และพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้พวกตนมาอยู่ตรงนี้มีเรื่องเดียว คือ ต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง เพราะถ้าไปอยู่อีกพรรคก็มีปัญหาอีก ขอให้เดินไปข้างหน้าโดยไม่ต้องห่วงเลื่อนเลือกตั้งช้าหรือเร็ว ขอในใจคนห้วยขวางมีพรรคเดียวคือพลังประชารัฐ 

...

ขณะที่ นายสนธิรัตน์ ขึ้นเวทีกล่าวว่า แต่ละยุคมีพรรคการเมืองอาสามา แต่ยังไม่ทำให้เราสมหวัง พรรคที่มีอยู่ก็ทำให้เราผิดหวัง เพราะไม่ปรับวิธิคิดวิธีทำงาน แต่พลังประชารัฐรวมบุคลากรที่มีคุณภาพ เก่งแต่ละด้าน ที่มาเพราะบ้านเมือง ถ้าไม่มีพลังประชารัฐก็อาจกลับไปขัดแย้งแบบเดิมๆ สังคมประเทศเราใครขึ้นมาสู้กัน ใครขึ้นมามีอำนาจก็ไม่ยอมเป็นสิบๆ ปี หากไม่มีพลังประชารัฐหลังเลือกตั้งเราเห็นผลในอนาคต เลือกตั้งมีพรรคหนึ่งชนะ มีพรรคหนึ่งคน กทม.ไว้วางใจ แต่ไม่ได้เสียงเป็นที่หนึ่ง และตนดูจากสถิติบ้านเมืองไม่สงบสุขมา 10 ปี พูดไปเดี๋ยวหาว่าดูแคลน แต่เรียนรู้จากอดีต ดูกงล้อที่เกิดขึ้นในอนาคต พวกเราทนไม่ไหว จึงต้องมีขั้วใหม่นั่นคือพลังประชารัฐ

นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อว่า พรรคนี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของ แต่เจ้าของคือประชาชนทุกคน เราจะเลือกคนเข้าใจพี่น้อง เหมือนเลือกผู้สมัครเขตดินแดง-ห้วยขวาง พลังประชารัฐคือศูนย์รวมของทุกคน จะไม่เอาอีกแล้วความขัดแย้ง และไม่ปล่อยให้นักการเมืองบริหารประเทศ แต่เราจะเอาพี่น้องมารวมกันเป็นเจ้าของพรรค และร่วมบริหารงานในฐานะประชารัฐ ช่วยออกความคิดเห็นในการบริหารประเทศ และจะไม่ตั้งเงื่อนไขไม่เอาคนนั้นคนนี้ รัฐบาลนี้บังเอิญที่มีพวกตนอยู่ร่วมทำงานมากว่า 4 ปี ได้สร้างอะไรมากมายมหาศาล เยอะกว่ารัฐบาลที่ทำมากว่า 10 ปีเสียด้วยซ้ำ เพียงแต่รัฐบาลนี้ไปเน้นความสงบ เราสร้างความอบอุ่นหัวใจ วางโครงสร้าง ซึ่ง 4 ปีนี้พิสูจน์แล้ว และพลังประชารัฐจะนำความสงบสู่ประเทศอย่างแน่นอน

"เรารู้ดีว่าหัวใจของคนไทยทุกคนเรียกร้องความสุขความสงบ พลังประชารัฐจึงอาสานำมาสู่สังคมและประเทศไทย และเราจะทำต่อคือแก้ปัญหาจราจรใน กทม. เพราะรัฐบาลในอดีตปล่อยให้มีนโยบาย ที่ทำให้มีรถยนตร์จำนวนมากกว่าถนนที่รองรับอยู่ รถออกมามากไม่รู้ใครทำรถติด ผ่านไปหลายปีก็แก้ไม่ได้ อีก 4 ปีข้างหน้า ใน พ.ศ.2566 รอดูดินแดง ห้วยขวาง ขึ้นรถไฟฟ้าไปได้ 20 นาทีจะสบายกว่าลอนดอน ต้องเลือกพลังประชารัฐ อีก 4 ปี รถไฟฟ้า กทม.จะดีกว่านิวยอร์ก เชื่อว่าพลังประชารัฐจะทำประเทศอยู่อย่างมีความสุขแน่นอน ดังนั้นช่วงนี้เราต้องยอมเจ็บเพื่อรอเวลาให้โครงข่ายจราจรได้มีครบถ้วน.