สุเทพ นำทีมงานพรรครวมพลังประชาชาติไทย เดินคารวะแผ่นดินที่อุดรธานี โดยไร้การต่อต้านจากกลุ่มฝ่ายตรงข้าม ชี้ คนตื่นตัวเรื่องเลือกตั้ง ชี้ ทุกคนอยากให้บ้านเมืองสงบ เพราะได้บทเรียนกันมาแล้ว...
เมื่อวันที่ 2 ม.ค.62 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ พร้อมทีมงานผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี เขต 1 นายอุทัย แสงสว่าง และอดีตแกนนำกลุ่ม กปปส.อุดรธานี ได้ลงพื้นที่เดินคารวะแผ่นดินตามจุดต่างๆ ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยเริ่มจากตลาดอุดรเงินแชร์ ตลาดเทศบาล 1 ถนนโพศรี ย่านเศรษฐกิจกลางเมืองถึง 5 แยกน้ำพุ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยดี มีพ่อค้า แม่ค้าประชาชน กล่าวทักทาย พร้อมขอถ่ายภาพร่วมกับนายสุเทพและทีมงาน บางคนก็มอบขนมให้ ซึ่งการลงพื้นที่ของนายสุเทพในวันนี้ไม่มีการต่อต้านจากกลุ่มฝ่ายตรงข้าม โดยระหว่างการเดิน มีเจ้าหน้าที่จากฝ่ายความมั่นคง ตำรวจนอกเครื่องแบบ ดูแลความปลอดภัย
จากนั้นได้เดินเท้าคารวะประชาชนถึงที่วงเวียนพระอนุสาวรีย์ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานี ถวายพวงมาลัยเพื่อสักการะขอพร พร้อมกับว่าที่ผู้สมัครของพรรครวมพลังประชาชาติไทย จ.อุดรธานี ทั้ง 8 เขตเลือกตั้ง ประกอบด้วย เขต 1 นายอุทัย แสงสว่าง, เขต 2 นายป้อมเพชร ภัทรวิดาภาดา, เขต 3 น.ส.สุคนธ์ตรี สิงหะสุริยะ, เขต 4 ร.ต.เข็มชาติ วังโน, เขต 5 นายทนงศักดิ์ ธนศรีพนิชชัย, เขต 6 นายกระษาปณ์ บุญหล้า, เขต 7 นายไพรภูมิ จันดาเบ้า และ เขต 8 นายวรรณภูมิ คำอ้อ
...
นายสุเทพ กล่าวว่า วันนี้มาคารวะแผ่นดิน คารวะประชาชนในภาคอีสาน โดยมาที่ จ.อุดรธานี ได้เดินที่ตลาดสด และเดินที่ย่านธุรกิจการค้า จนมาถึงที่อนุสาวรีย์ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานี ซึ่งประชาชนให้การต้อนรับดีมาก เหมือนกับที่จังหวัดอื่นๆ ที่มีพี่น้องประชาชนนำขนมเค้ก หมูยอ ผลไม้ มาให้ ซึ่งตนขอกราบขอบพระคุณพี่น้องชาวอุดรธานี โดยเฉพาะแม่ค้า แม่ขาย ที่มีความเมตตาและต้อนรับตนด้วยไมตรีจิตอย่างดียิ่ง
“ผมสังเกตเห็นว่าพี่น้องประชาชนมีความตื่นตัวทางการเมืองอย่างมาก และก็รู้จักว่าที่ผู้สมัครของพรรครวมพลังประชาชาติไทยของเรา ซึ่งบรรดาว่าที่ผู้สมัครได้ผ่านกรรมวิธีไพรมารีโหวตมาแล้ว คือสมาชิกของพรรคในจังหวัดเป็นผู้พิจารณา ไม่ใช่กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณา ผมเชื่อว่าเราจะได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนอย่างกว้างขวาง” แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความกังวลหรือไม่ ที่เข้ามาในพื้นที่ที่อดีตเป็นจังหวัดของคนเสื้อแดง และพรรคต้องลงมาต่อสู้ในการเลือกตั้ง นายสุเทพ ตอบว่า ไม่กังวล ตนเชื่อว่าจากประสบการทางการเมืองของพี่น้องประชาชนทุกฝ่าย เราคงได้เรียนรู้มาด้วยกันแล้วว่า เราสามารถที่จะมีความคิดเห็นทางการเมืองแตกต่างกันได้ แต่เราก็อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ อยู่อย่างในการที่เคารพความเห็นของคนอื่น แม้จะมีคนที่มีความเห็นต่างกัน ก็เคารพในความเห็นที่แตกต่างกันของเขา เราจะไม่ทำอะไรให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายไม่สงบเรียบร้อย
“วันนี้ผมมาก็สังเกตเห็นว่า มีพี่น้องประชาชนหลายคนที่เขาไม่ได้คิดอย่างเดียวกับผม แต่ว่าพี่น้องประชาชนเหล่านี้เขาก็มีกิริยามารยาทเรียบร้อย ยิ้มให้ และบางคนก็บอกกับผมว่า คนละฝ่ายก็ไม่เป็นไร แบบนี้ผมมองว่าน่ารักดี ผมเชื่อว่าคนไทยสรุปบทเรียนทางการเมืองมาแล้วว่า ไม่มีใครต้องการให้บ้านเมืองยุ่งยากวุ่นวาย ซึ่งการเดินคารวะแผ่นดินของผม ทีมงานของ จ.อุดรธานี เป็นผู้กำหนดจุดให้เดิน เพราะคนพื้นที่เขารู้จักพื้นที่ดี ผมเพียงแต่ไปตามจุดที่กำหนด และส่วนใหญ่ที่ไปเดินที่ตลาด เพราะว่าเป็นจุดที่คนมาจากทุกแห่งได้มาเจอกัน และได้รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ก็มีบ่นบ้างนิดหน่อยว่า ขายของไม่ค่อยได้ ซึ่งก็เหมือนกับที่ไปเดินตลาดอื่นๆ” แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคจะยังคงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ตนได้เรียนไปแล้วว่า เมื่อตอนที่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามายึดอำนาจ พวกตนที่กำลังเดินขบวนกันอยู่ก็ได้กลับบ้าน ตอนนั้นก็เอาใจช่วยเต็มที่ เชียร์เต็มที่ ต้องการให้ท่านดูแลบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อย ปฏิรูปประเทศได้ ตนก็เชียร์มาโดยตลอด แต่วันนี้ในเมื่อตนมาอยู่พรรครวมพลังประชาชาติไทย ตนเป็นเพียงแค่โค้ชที่ปรึกษา เป็นเพียงแค่สมาชิกคนหนึ่ง ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับมติของพรรค แล้วแต่ประชาชน เพราะพรรคเราคือพรรคการเมืองของประชาชน
“ส่วนเรื่องสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในขณะนี้มันไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น มันเกิดติดต่อมา 8-9 ปีแล้ว เช่น ยางพารา ที่ จ.อุดรธานี ก็ปลูกกันเยอะ ซึ่งราคาดีที่สุดก็ตอนที่ผมเป็นรองนายกรัฐมนตรี ขายได้ 170-180 บาท หลังจากนั้นก็ราคาตกลงมาเรื่อย ในรัฐบาลต่อมาราคาก็ลดลงเหลือ 30-40 บาท ซึ่งราคาตกติดต่อมา การที่ราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำติดต่อมาเป็นเวลาร่วม 10 ปี มันก็มีผลต่อเศรษฐกิจของชาวบ้านระดับล่าง ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เพิ่งเกิด ปัญหาอยู่ที่ว่าเราจะแก้ไขมันอย่างไร ผมถึงเรียนเรื่องนี้ในสังคมทุกภาคส่วนว่า ต้องทำเป็นวาระแห่งชาติแล้ว ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ชาวบ้าน มิฉะนั้นเศรษฐกิจของประเทศก็จะกระทบกระเทือน”
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า จากการเดินคารวะแผ่นดิน คารวะประชาชน ตนคาดหวังไว้มากว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทย จะได้ ส.ส.มากน้อยแค่ไหน แล้วแต่พี่น้องประชาชน แต่ตนคาดว่าเราน่าจะได้คะแนนจากพี่น้องประชาชน แบบที่เรียกว่าน่ารักทีเดียว โดยตนยังยืนยันว่าจะไม่รับตำแหน่งใดๆ ซึ่งทางพรรคก็มีการตั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคไปแล้ว เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ตนไม่รับตำแหน่งอะไรในทางการเมือง ไม่รับตำแหน่งในคณะรัฐบาลไหนทั้งสิ้น
“ผมไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ผมทำหน้าที่ประชาชนเหมือนกับท่าน แล้วก็ช่วยกันดูแลบ้านเมืองของเราด้วยกัน และที่ผมช่วยพรรครวมพลังประชาชาติไทย เพราะว่าต้องการให้พรรคการเมืองที่เป็นพรรคการเมืองที่แท้จริงของประชาชนพรรคนี้ เป็นกำลังหลักของประชาชนในการผลักดันการปฏิรูปประเทศ ในการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน” แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย กล่าวทิ้งท้าย.