ประเด็นโต๊ะจีน 650 ล้าน ระดมทุนหาเงินเข้าพรรคพลังประชารัฐ ยังถูกขุดคุ้ยอย่างต่อเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามและผู้ไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าการกระทำครั้งนี้เหมือนดังว่ารัฐบาลกำลังเอาเปรียบพรรคอื่นๆอยู่หรือเปล่า? เช่นเดียวกันกับ รองศาสตราจารย์พิเศษ ดร.อดิศร เพียงเกษ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ออกมาให้ข้อมูลเรื่องดังกล่าวกับทางทีมข่าวเจาะประเด็น อย่างถึงพริกถึงขิง
"การระดมทุนหาเงินเข้าพรรคใครๆเค้าก็ทำกันทั้งนั้น ที่สหรัฐอเมริกา พรรคเดโมแครต และ พรรคริพับลิกัน เค้าก็ระดมทุนกันแต่ทุกอย่างต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ ภาครัฐวิสาหกิจ หน่วยงานรัฐบาล หรือภาคเอกชนต้องออกมาชี้แจงให้ชัดเจนว่าใครจ่ายเท่าไหร่ บริจาคเท่าไหร่ ทุกคนต้องเคลียร์ ซึ่งผมมั่นใจว่าการกระทำครั้งนี้เป็นการเอาเปรียบพรรคอื่นๆ และใช้อำนาจมาบีบบังคับให้เอาเงินไประดมทุน 100 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการกระทำที่ง่ายเกินไปหรือเปล่า อยู่ดีๆไปเรียกเค้ามาจ่ายเงิน แถมไม่บอกที่มาว่าใครบริจาคคนละเท่าไหร่ ประเด็นนี้ต้องออกมาเคลียร์และโปร่งใส ไม่เช่นนั้นรัฐบาลเดินต่อไปไม่ได้"
ดร.อดิศร บอกด้วยว่า มีอีกหลายเรื่องที่ไม่เคยโปร่งใสชอบธรรม ไม่เคยเคลียร์ให้ประชาชนเข้าใจ งุบงิบทำกันเองลับๆ พอถูกจี้ถามยังไม่ยอมออกมาพูด กระทั่งยาวมาจนเรื่อง 650 ล้าน คำนวนแล้วกินกันตกคำละ 3 แสน มันแพงเกินไป
"ผมกลืมไม่ลง มากินลาบก้อยส้มตำบ้านผม โต๊ะนึงไม่ถึง 500 บาท แต่นี่คำนึง 3 แสน คนที่เค้ามาร่วมงานถามจริงๆว่าเค้าเต็มใจจ่ายเหรอ? ถ้าเป็นแบบนั้นช่วยแจกแจงรายชื่อและรายรับทั้งหมดให้ประชาชนรับทราบด้วย อย่างปล่อยให้เรื่องเงียบไปหรือเอาข่าวอื่นมากลบบิดเบือนประเด็น และเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า 4 รัฐมนตรีมีผลในการล็อบบี้พวกนักธุรกิจ ข้าราชการเหล่านี้มาร่วมบริจาคเงิน"
...
ดร.อดิศร ทิ้งท้ายว่า สำหรับพรรคเพื่อไทย ก็จะมีการระดมทุน แต่ทุกอย่างอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ไม่แหกกฎ ไม่บังคับล็อบบี้ หรือเอาเปรียบใคร เราจะทำทุกอย่างตามกติกา และโปรงใส่ตามที่กฎหมายกำหนด