สมศักดิ์ เทพสุทิน ยืนยัน เสนอชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ เพราะมาคนเดียว ไม่ได้มีทหารเข้ามาช่วยหนุน
วันที่ 3 ธ.ค. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจในการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้งของพรรคพลังประชา เปิดเผยว่า การหารือของคณะกรรมการ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือในประเด็นที่จะถูกโจมตีว่าสืบทอดอำนาจ ในกรณีที่เสนอชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีรายชื่อของพรรค เพราะขณะนี้บางพรรคการเมืองได้พยายามหาเสียงโดยนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็น มากกว่าการนำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่สร้างสรรค์
พร้อมยืนยันว่า การเสนอชื่อพลเอกประยุทธ์ ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ เพราะมาเพียงคนเดียว ไม่มีผู้สมัครส.ส. เขตและ ส.ส. บัญชีรายชื่อคนใดเป็นทหาร ดังนั้น ไม่ควรนำประเด็นนี้มาโจมตีเพื่อสร้างความขัดแย้ง พร้อมยกตัวอย่างเรื่องการแต่งตั้งผู้บัญชาการทหารบก ในช่วงที่ผ่านมามักจะเป็นสายบูรพาพยัคฆ์ แต่ในช่วงที่พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทหารบก 2 นาย มาจากสายอื่นซึ่งถือเป็นการคืนความชอบธรรมให้กับกองทัพ
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การที่พรรคพลังประชารัฐ จะเสนอชื่อพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี มีทั้งข้อดีและข้อเสีย อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า คะแนนนิยมของพรรคพลังประชารัฐในภาคอีสานตกต่ำ และไม่มีทางได้ ส.ส. 50 ที่นั่ง ตามที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวไว้ โดยยืนยันว่าไม่อยากให้มีการประเมินจำนวน ส.ส. เพราะจะทำให้เกิดการโต้เถียง และวิพากษ์วิจารณ์ แต่หากดูจากนโยบายและผลงานของพรรค ถือว่าเป็นไปในทิศทางบวก เนื่องจากพรรคการเมืองอื่นไม่มีนโยบายนำเสนอ มีแค่การพูดเนื่องความขัดแย้งและสืบทอดอำนาจ
...
นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้เปรียบกว่าพรรคการเมืองอื่น และเสียเปรียบในหลายเรื่อง ทั้งการเป็นพรรคใหม่ ผู้สมัครหน้าใหม่จำนวนมาก แต่ก็จะพยายามหาดาวฤกษ์ดวงใหม่มาสู้