"บิ๊กตู่" ปรอทแตกสุดทน ถูกจี้ปมแบ่งเขต ถาม "จะตายห่าหรือไงเรื่องซังกะบ๊วย" นายกฯ ไม่เกี่ยวใครได้ใครเสีย ซัดกลับพรรคการเมือง ขออย่าดูถูกประชาชน หากไม่เลือกพรรคใครก็จบ...
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวช่วงหนึ่ง ระหว่างเป็นประธานประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 5/2561 ซึ่งมีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก "สภาพัฒน์" ถึงการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า หลายอย่างวันนี้ยังมีปัญหา ตนกลับมาก็ไม่ได้พัก ไม่ได้ไปเที่ยวไหน ถูกตามจี้ตูดถามกันทุกเรื่อง ถ้าฟังตนบ่นบ้างก็อย่าเพิ่งเบื่อกัน เพราะจะบ่นเป็นครั้งสุดท้ายจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ ที่ผ่านมารัฐบาลอื่นไม่ทำอะไร เพราะกลัวเสียคะแนนเสียง อย่างเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขต ของกกต.
"สื่อที่อยู่ข้างนอกก็ถามกันอย่างเดียว เรื่องการแบ่งเขต แม่งจะตายห่ากันให้หมดหรืออย่างไร ก็ไม่รู้กับไอ้เรื่องซังกะบ๊วยพวกนี้ ก็ว่ากันไปตามกติกาจะผิดหรือถูกผมไม่รู้ กติกาว่าอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น ผมจะไปรู้อะไร นายกฯ ไม่เกี่ยว ใครได้ใครเสียก็ว่าไป วันนี้เขาแบ่งด้วยอะไร เขาแบ่งด้วยประชากรที่เพิ่มขึ้นกับเรื่องของพื้นที่ วันนี้เปลี่ยนไปเท่าไรแล้ว 4-5 ปีแล้ว แต่กูจะเอาแต่แบบเดิมตลอด ติดพื้นที่แบบเดิมตลอด ถ้าคนไม่เลือกเลยพรรคไหนก็ไม่ได้ทั้งนั้น ก็แล้วแต่โชคชะตาก็แล้วกัน ประเทศไทยไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว เหลือแต่คนในห้องนี้คงเข้าใจผมนะ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
...
ต่อมา นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ ว่า 4 ปีที่ผ่านมาบ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย มีเสถียรภาพ ทำให้คนเข้ามาเที่ยว และประชาชนทำงานได้ ดังนั้นจึงขออย่าทำให้เกิดความขัดแย้ง เพราะตนไม่อยากให้เกิด และไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น เชื่อว่าทุกคนรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ ส่วนการเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยนั้นจะเป็นไปตามกำหนดเวลา หากจะมีการเปลี่ยนแปลง ก็เป็นเรื่องของ กกต.เช่นเดียวกับการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ เป็นเรื่องของ กกต.ที่บอกกันว่าเป็นการแบ่งเขตเพื่อเข้าข้างฝ่ายนั้นหรือฝ่ายนี้ ตนไม่ได้อยู่ฝ่ายใดและไม่ได้สั่งการใดๆ กกต.ปรับเปลี่ยนการแบ่งเขตโดยดูระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจำนวนประชากรเปลี่ยนแปลงไป เพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ แต่ถ้าทุกคนยืนยันจะเอาแบบเดิม แล้วประเทศชาติจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร
“การแบ่งเขตไม่ว่าจะเข้าพรรคใครก็ตาม ถ้าประชาชนไม่เลือกก็จบ อย่าดูถูกประชาชนเขา ประเทศนี้ไม่ได้อยู่ด้วยคนไม่กี่คน แต่อยู่ด้วยประชาชนทั้งประเทศ โดยมีนายกฯ และรัฐบาลเป็นผู้กำหนดนโยบาย พร้อมให้ประชาชนมีส่วนร่วมด้วยการรับฟังความคิดเห็น ซึ่งประชาธิปไตยต้องประกอบด้วย ธรรมาภิบาล กระบวนการที่เป็นสากล ความพร้อมของประชาชน ที่จะเข้าสู่การเป็นประชาธิปไตย ดังนั้นต้องสร้างการรับรู้ให้ทุกภาคส่วนได้เข้าใจว่าอะไรคือประชาธิปไตย เนื้อในของประชาธิปไตยอยู่ที่ใด เพื่อที่จะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ และแผนแม่บท ให้ไทยเป็นประเทศที่พ้นกับดักรายได้ปานกลาง ในอนาคตก็ให้คนรุ่นใหม่ได้ทำต่อไป " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
สำหรับยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อที่วันหน้าทุกคนจะได้สบายใจ ว่าจะใช้งบประมาณอย่างไร มิเช่นนั้นทุกคนจะพูดถึงแค่การใช้งบประมาณ แต่ไม่ได้พูดถึงวิธีการหาเงิน ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์ชาติ จะต้องทำให้เรียบร้อยภายในเดือน ม.ค.62 โดยทุกภาคส่วนต้องนำไปปฏิบัติ ตามข้อกำหนดใน 20 ปีข้างหน้า ที่อะไรจะเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเน้นความสำคัญที่ 5 ปีแรก.