มีที่ยืนบนเวทีโลกอย่างเต็มภาคภูมิ

ฉากแอ็กชันของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ที่จับมือ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 33 ที่ประเทศสิงคโปร์

แถมได้รับคำหวานจากผู้นำแดนหมีขาว อวยพรให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งต้นปีหน้า

กลายเป็นข่าวในทีวีทุกช่อง มีภาพหราอยู่บนหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับ

การโกอินเตอร์ของ “ลุงตู่” ได้รับการยอมรับจากเวทีนานาชาติ กระทบไหล่ผู้นำโลกมาแล้วหลายชาติ

พิสูจน์ให้เห็นผู้นำ คสช.ไม่ได้ถูกตั้งแง่รังเกียจในฐานะผู้นำรัฐบาลทหารเหมือนที่ผ่านมา นานาประเทศเลิกรุกไล่กดดันประเทศไทยให้รีบจัดการเลือกตั้ง

ต่างชาติสิ้นข้อสงสัยเรื่องการยื้อโรดแม็ปคืนประชาธิปไตย ผิดกับเวทีในประเทศ

ที่ต้องเร่งเคลียร์ สร้างความกระจ่างเรื่องการเลือกตั้ง

ตามปรากฏการณ์ที่ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ต้องออกมายืนกราน ยังไม่มีชนวนทำให้การหย่อนบัตรลงคะแนนในวันที่ 24 ก.พ.2562 ต้องเลื่อนออกไป

คอนเฟิร์มปฏิทินคืนประชาธิปไตยยังถูกตรึงไว้ตามโปรแกรมเดิม

ไม่ได้เป็นไปตามการตีปี๊บของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. และ นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ที่ประโคมข่าวเงื่อนเวลาเลือกตั้งอาจพลิกผันจากกำหนดเดิม

แต่เรื่องของเรื่องที่ทำให้โรดแม็ปกระเพื่อมก็มีเค้าลางให้เห็นถึงความเป็นไปได้

อย่างเงื่อนเวลาหมิ่นเหม่ที่ กกต.อาจรับรองพรรคการเมืองที่เหลืออีก 12 พรรค ไม่ทันเดดไลน์สังกัดพรรค 90 วัน ในวันที่ 26 พ.ย.นี้ รวมถึงการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งที่ยังไม่ชัดเจน

นั่นย่อมทำให้ถอดรหัสประเมินสถานการณ์ไปในทางลบได้

...

เข้าทางนักเลือกตั้งอาชีพแห่กระแสตีกิน เล่นบทหูทวนลมไม่ฟังคำชี้แจงจาก กกต. พยายามตอกย้ำ รัฐบาลหาเหตุเลื่อนการเลือกตั้งเพราะกลัวแพ้

ไปๆมาๆฝ่ายการเมืองชักเริ่มลังเล เมื่อช่วงเวลาเข้าคูหากาบัตรงวดเข้ามาเรื่อยๆ

ต่างจากปฏิกิริยาของทีมงาน “ลุงตู่” กลับต้องไล่แก้ข่าว ยืนยันโรดแม็ปยังไม่เปลี่ยนแปลง

ผิดจากก่อนหน้านี้ที่รัฐบาลและ คสช.ต้องคอยสาธยายชี้แจงความจำเป็นที่มีการเลื่อนเลือกตั้งหลายครั้ง

โดยเฉพาะท่าทีล่าสุดของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่ออกปากท้าชกกับพวกที่กล่าวหา คสช.ตุกติก เตรียมเลื่อนเลือกตั้ง

ภายหลังชี้แจงปากเปียกปากแฉะหลายรอบ แต่ยังมีเสียงเอะอะ ไม่เชื่อจะได้เข้าคูหากาบัตรต้นปีหน้า

พล็อตเรื่องกลับตาลปัตร รัฐบาลกลับส่งเสียงดัง ยืนยันพร้อมเลือกตั้งแทนฝ่ายการเมือง

ตามปฏิบัติการไฟต์บังคับที่ “ลุงตู่” จะตีกรรเชียงหนีไม่ได้อีกแล้ว เพราะทุกวันนี้ประชาชนอุปาทานหมู่ไปแล้วว่า การเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.2562

ไม่ได้เป็นเพียงการกำหนดกรอบเวลาคร่าวๆ หากเที่ยวนี้ยังผิดคิวอีก ย่อมเสียรังวัดทั้งในและต่างประเทศ

ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล ต้นทุนคะแนนนิยมที่สั่งสมมามีหวังได้สั่นคลอนไปด้วย อาจกระทบเส้นทางไปต่อของ “บิ๊กตู่” สะดุดได้

ไม่มีจังหวะใดที่ “ลุงตู่” จะมีแต้มต่อขี่นักการเมืองได้มากเท่าขณะนี้ ทั้งปัจจัยกติการัฐธรรมนูญที่ไม่เอื้อต่อพรรคใหญ่ การลงพื้นที่ ครม.สัญจรตีกินเก็บคะแนนไปเรื่อยๆ

ในซีนที่พรรคเพื่อไทยกำลังวุ่นวายกับยุทธศาสตร์แตกแบงก์พัน สลายความโดดเด่นพรรค ไม่ให้ถูกล็อกเป้าถล่ม โดยมีทีท่า “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะบินมาที่ประเทศสิงคโปร์ ทุบโต๊ะสั่งการแบ่งไพร่พลไปตามพรรคสาขาต่างๆ

สุ่มเสี่ยงข้อหาคนนอกครอบงำพรรค ล่อเป้าให้ถูกยุบพรรค อาจถูกจับแพ้ฟาวล์ก่อนลงสนาม ทีม “ลุงตู่” มีสิทธิชนะ โดยไม่ต้องเหนื่อย

ขณะที่ฝั่งประชาธิปัตย์ก็ยังมีร่องรอยเขม่นกันให้เห็น ภายหลังเสร็จศึกชิงตำแหน่งผู้นำพรรค “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ขุมกำลังไม่ฟูลทีม กระจัดกระจายย้ายค่ายกันไปเยอะ

ยิ่ง กกต. ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งช้า พรรคการเมืองก็ยิ่งตั้งตัวลำบาก

เทียบฟอร์ม “ลุงตู่” กับคู่ต่อสู้ ณ เวลานี้ ดูยังไงก็คุ้ม หากจัดสังเวียนเลือกตั้งตามโรดแม็ป

ขืนดึงเวลาปล่อยให้คู่แข่งตั้งหลักได้ ต้นทุนคะแนนนิยมที่ “ลุงตู่” ทำไว้อาจเสียของฟรี.

ทีมข่าวการเมือง