เปิดใจ ’เจ๊หน่อย’ วันที่ต้องนั่งปธ.ยุทธศาสตร์พรรค โจทย์คือทำอย่างไรให้เพื่อไทยได้ชัยเลือกตั้ง แย้มเคล็ดไม่ลับ อยู่ที่แก้เศรษฐกิจให้คนข้างล่างพีระมิดมีรายได้เพิ่ม ยังอุบชื่อเสนอคนเป็นนายกฯ ในดวงใจ ย้ำไม่เคยขัดแย้งกับ 'นายหญิง' หรือ 'เจ๊แดง' อย่างที่ลือกัน
ภายหลังจากที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ได้นำพลพรรคลงพื้นที่เพื่อไปหาสมาชิกพรรค และเปิดตัวผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ถึงถิ่น "ย่าโม" เมืองนครราชสีมา วันนี้ คุณหญิงหน่อย ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ โดยเฉพาะคำถาม ในฐานะเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย มีเคล็ดลับอะไรนำเพื่อไทยไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น ว่า คิดว่าเรื่องการเลือกตั้งเราก็ต้องทำให้ดีที่สุด แต่เราคิดเรื่องนโยบายเป็นหลัก มั่นใจว่า สิ่งที่นำไปสู่ชัยชนะของเราคือ การคิดนโยบายที่สามารถทำได้จริง และเป็นผลสำเร็จ ดังนั้นสิ่งที่ทำให้เราไปสู่ชัยชนะของเราก็ คือ การคิดค้นนโยบายที่ไปแก้ปัญหา ตอบโจทย์ประชาชนในทุกวันนี้ได้ ปัญหาที่เขาเผชิญอยู่เรื่องปัญหาปากท้อง การที่พี่ไปที่โคราชมา ก็เห็นสภาพความเป็นจริงในพื้นที่มา คิดว่าเป็นความทุกข์ของพวกเขาจริงๆ ประชาชนมาบอกขอให้ช่วยนะ อย่าทิ้ง เราก็เดินหน้าไปฟังปัญหาจริงๆ ก่อน แล้วเราก็มาคิดนโยบายว่าจะช่วยอย่างไร เราเก็บข้อมูล อย่างเรื่องปัญหาราคาพืชผลการเกษตรเป็นอย่างไร การทำงานของเราโดยหลัก ต้องรับฟังประชาชน ร่วมคิดด้วยกัน และหานโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนได้ สามารถทำได้จริงทำได้สำเร็จ มันก็คือจุดแข็งที่จะใช้เป็นยุทธศาสตร์หาเสียงต่อไปของพรรค ทำให้ประชาชนมั่นใจในสิ่งที่เราไปประชาสัมพันธ์หาเสียง เป็นสิ่งไม่เพ้อเจ้อ ทำได้จริง ยุทธศาสตร์เราจะเน้นตรงนี้
...
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า อย่างประเด็นที่พรรคเพื่อไทยเสนอ ว่า จะไม่เป็นยุค "ภาษีอาน" คือต้องมีการเก็บภาษีที่เป็นธรรม อย่างมีการเก็บภาษีมันสำปะหลังของเกษตรกร อย่างนี้ก็เป็นปัญหา ที่เป็นอยู่มันก็ไม่ไหวอยู่แล้ว มันมีวิธีการอยู่ อยากได้เงินภาษีเพิ่ม แต่ไม่ใช่ขึ้นภาษี มันต้องส่งเสริมให้พวกเขา(ประชาชน) มีศักยภาพในการเสียภาษีเพิ่มขึ้น คือ ให้เขาค้าขายได้ ให้เขาทำมาหากินได้ รายได้เพิ่ม เขาก็จะสามารถเสียภาษีได้เพิ่มขึ้น อันนี้เป็นหลักคิดของเรา ซึ่งอาจแตกต่างจากรัฐบาลปัจจุบัน
"วันนี้เวลาสิ่งที่เราแตกต่าง เราทำงาน เราคิดถึงคนส่วนใหญ่ของประเทศ ถ้าคนส่วนใหญ่มีรายได้ดีขึ้น ไม่ว่าเป็นคนชั้นกลางในเมือง คนจนในเมือง คนจนในชนบท ถ้าเขามีรายได้เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจประเทศจะดีทั้งหมด เพราะมันเพิ่มมีกำลังซื้อ วันนี้เศรษฐกิจไม่ดีแม้ GDP จะโต แต่เราเห็นความเป็นจริงแล้ว ว่าที่โต โตเฉพาะบริษัทใหญ่ระดับ TOP ของประเทศ ยอดพีระมิดข้างบน แต่คนระดับฐานราก GDP ติดลบ ฉะนั้นทำอย่างไรให้แก้ปัญหา รวยกระจุก จนกระจาย เราจึงต้องการให้เกิดการรวยกระจายและคนจนให้มีน้อยที่สุด หรือกระจายงบประมาณลงไป มันก็จะมีแนวคิดไม่เหมือนกัน อย่างตอนนี้ แน่นอนการลงทุนของรัฐลงไปหลายตัว แต่สิ่งที่ต้องคำนึงคือทำอย่างไรที่จะกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชนให้ออกมามากๆ" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
ถามว่า คุณหญิงมีคนในใจที่จะเสนอชื่อเป็นนายกฯ หรือยัง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ถึงเวลา เดี๋ยวถึงเวลารับรองว่า จะทำไปโดยเรียบร้อยไม่มีปัญหา เรามีคนที่มีความสามารถในพรรคเยอะ มีหลายด้านด้วย ฉะนั้นอย่ากังวล ถึงเวลาก็จะมีการดำเนินการไม่มีปัญหาแน่นอน ไม่ต้องไปคิดว่าเราไปเหมือนพรรคอื่นที่มีการแย่งตำแหน่งนี้กันไปมา ถึงเวลาก็จะทราบ
ส่วนข่าวลือที่ว่า คุณหญิงมีความขัดแย้งกันกับคนในพรรคเพื่อไทย ถ้าระบุชื่อก็ลือว่า เป็นนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำคนสำคัญของพรรค น้องสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือบางที่ไปถึงชื่อคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ เลยก็มี คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ข่าวนี้เป็นกระแสมานมนานหลายปี ยันว่า ข้อเท็จจริงคือไม่มีอะไรเลย ไม่มีปัญหาเลย พูดคุยหารือกันได้ ต่างคนก็ต่างทำในหน้าที่ที่มีกัน ก็คาดเดากันไปเรื่อย ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเลย
ในฐานะที่คุณหญิงก็ดูแล พื้นที่กทม.ของพรรคเพื่อไทย มาตลอด เรื่องที่ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ อดีต ส.ส.มีนบุรี พรรคเพื่อไทย ไปร้อง กกต.ว่าจะมีแบ่งเขตเลือกตั้ง แบบที่ 4 ทำให้พรรคเพื่อไทยเสียเปรียบในการเลือกตั้งนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เหตุเกิดจากคนที่ไปลงสมัคร ส.ส.ที่มีทหารหนุน เขาไปพูดเองในพื้นที่ ว่า เขาสามารถแบ่งเขตเลือกตั้งเองได้ ซึ่งจู่ๆ หลายจังหวัดก็โผล่มีรูปแบบเลือกตั้งแบบที่ 4 ขึ้นมา อย่างโคราช, กรุงเทพฯ แล้วเป็นสิ่งที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคผู้มีอำนาจพูด ก็เกิดแบบที่ 4 จริงๆ ซึ่งมันขัด รธน. บางเขตก็ไม่ติดกัน ฉะนั้นอะไรที่ขัด รธน. มันก็ต้องระมัดระวัง เพราะจะถูกฟ้องร้องได้ กกต.เองก็ต้องระวัง ก็ต้องเป็นผู้ห้ามปราม