"บิ๊กตู่" พบ นักธุจกิจสตาร์ทอัพ ปลื้มได้ฟังเพลงแร็ป Thailand 4.0 ย้ำสิ่งดีๆ เกิดขึ้นเยอะในประเทศ แต่หลายอย่างกระทบจิตใจ-การทำงาน ต้องเตือนบ้าง แต่ไม่ปิดกั้น ขอคนไทยอย่าขัดแย้งอีก ยัน ม.44 ไม่ทำใครเดือดร้อน บอกไม่เคยฝันเป็นนายกฯ อ้อนหลานๆ อย่าลืมลุง ยันรัฐบาลไม่ตูดขาด ใช้ภาษีหมาแมวหาเงิน ถามตั้งศูนย์สุนัขจรจัดเอาเงินจากไหน ต้องแย่งเงินคนมาให้หมาอีก พร้อมเหนียมแกล้งบอกอาจหน้าคล้ายตัวเองหลัง "สมคิด" บอกมีลางสังหรณ์หน้าตานายกฯ คนต่อไปหน้าเดิม...
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 พ.ย.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำคณะนักธุรกิจสตาร์ทอัพ ประมาณ 500 คน เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในงาน “สตาร์ทอัพร่วมกำหนดอนาคตประเทศไทย” เพื่อยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับการพัฒนาธุรกิจสตาร์ทอัพในประเทศไทย เช่น การแก้ไขกฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวก การหาแหล่งเงินทุน การหาตลาด ฯลฯ โดยเมื่อนายกฯ มาถึงได้มีการเปิดเพลงแร็ป “Thailand 4.0” ต้อนรับ
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพว่า ประเทศไทยต้องขับเคลื่อนโดยคนทุกรุ่น รัฐบาลพร้อมเป็นกลไกหลักในการดำเนินการทุกเรื่อง เพื่อทำให้ประเทศไทยไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ถ้าจะเปลี่ยนแปลงประเทศในทิศทางที่ดีขึ้น จะต้องระดมทุกฝ่ายเพื่อเพิ่มทักษะความสามารถอย่างสร้างสรรค์ พร้อมทั้งนำระบบเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้ เชื่อว่าพลังของคนรุ่นใหม่จะเข้มแข็งกว่าคนรุ่นเก่า เพราะได้สะสมประสบการณ์และเรียนรู้ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเทคโนโลยีดิจิทัล ไทยขึ้นชื่อว่าใช้เฟซบุ๊กระดับต้นของโลก ซึ่งถือเป็นศักยภาพ เพียงแต่ต้องมาดูว่าเราจะใช้ประโยชน์อย่างไร
...
"เช้านี้ได้ฟังเพลงแร็ปเข้าท่าเข้าทาง เดี๋ยวคงต้องให้แก้ไขนิดหน่อย เช่นต้องเปลี่ยนทำนองนิดหน่อย แต่ส่วนใหญ่ก็ดีแล้ว ก็มีสาระอยู่แล้ว ลุงนั้นใจดี แต่ก็ต้องเห็นอกเห็นใจลุงบ้าง เพราะมีหลายเรื่องที่ลุงต้องรับผิดชอบ อะไรก็ตามที่มีผลกระทบต่อจิตใจ บ้างครั้งก็มีผลต่อการทำงาน ลุงบางทีก็ต้องเตือนบ้างอะไรบ้าง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไปปิดกั้นใคร" นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนคงรู้ว่าการทำงานของนายกฯ และรัฐบาลนั้นไม่ง่ายนัก แต่ก็ตั้งใจจะแก้ไขปัญหาการทุจริตให้ได้ ถ้าแก้ตรงนี้ได้ ทุกอย่างก็จะไปได้ทั้งหมด การพัฒนาประเทศจะต้องทำตามยุทธศาสตร์ชาติ 6 ด้าน โดยคนรุ่นใหม่จะต้องหมั่นเรียนรู้ เช่นเดียวกับประชาชนที่จะต้องเรียนรู้ อย่าเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาทำให้เป็นเรื่อง เพราะเรื่องดีๆ ที่ควรจะเป็นเรื่อง ก็กลับไม่เป็นเรื่อง เราจำเป็นต้องปรับมายด์เซตของคนไทย ให้เข้าใจสิ่งดีๆ ของประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่าหาว่ารัฐบาลเอื้อประโยชน์ เช่น แก้กฎหมายเปอร์เซ็นต์การถือหุ้นให้ชาวต่างชาติ ก็ถูกมองว่าเอื้อประโยชน์ ให้คนต่างชาติยึดดินแดน ถ้าคิดแบบนี้ก็จะไปไม่ได้ ขอให้ช่วยกันทำความเข้าใจด้วย ปัญหาของประเทศไทย คือชอบติดอยู่กับเรื่องเดิมๆ ปัญหาเก่าๆ เช่น กฎหมาย ระเบียบวิธีการ ระบบราชการที่ล้าสมัย แต่รัฐบาลนี้แก้ไขในทุกเรื่อง รวมถึงสิ่งที่ทำยาก ไม่ได้ออกทีวีเพียงครั้งเดียวแล้วจบ แต่ตามเก็บทุกงาน หลายอย่างที่เกิดประโยชน์เกิดจากรัฐบาลนี้
"การทำงานนั้นขอเพียงอย่าทะเลาะเบาะแว้ง อย่าทำให้วุ่นวายเสียทั้งหมด สำหรับผมนั้นรับฟังความคิดเห็นทุกคน มาดูว่าจะทำอย่างไรความคิดเห็นนั้นจะได้รับการแก้ไข ไม่ใช่ตีกันไปมา เพราะจะเดินต่อไปไม่ได้ อยากให้ลองย้อนกลับไปดูสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมา ถ้าเป็นอยู่อย่างนั้น เราจะได้มีโอกาสหรือมีเวทีอย่างนี้หรือ ผมให้เวลากับทุกคนเต็มที่ ทุ่มเทการทำงานทุกอย่าง แต่ยอมรับว่ามีทั้งสำเร็จและไม่สำเร็จ และพร้อมแก้ไขต่อไป" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สามปีที่ผ่านมามีความตื่นตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่อย่าทำให้เป็นเรื่องที่ตื่นตระหนก ที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตื่นตระหนกไปหมด เดี๋ยวจะวุ่นวาย ถ้าทุกคนช่วยกัน ไม่ทำให้เกิดความวุ่นวายก็จบ แต่เราก็ชอบไปให้ความสนใจกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เช่น ในโซเชียลมีเดีย ถ้าไม่ไปโพสต์หรือส่งข้อความต่อ ทุกอย่างก็จบ รัฐบาลก็จะได้มีโอกาสทำงานต่อไป วันนี้รัฐบาลปวดหัวไปหมด ทุกอย่างต้องเริ่มที่ความมั่นคง การมีเสถียรภาพ เพื่อจะได้สัญจรไปไหนมาไหนก็ได้ เราต้องไม่ถูกเร้าหรือถูกกระตุ้นในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ทุกคนต้องช่วยกัน
นายกฯ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยถูกจัดอันดับเป็นเมืองที่ดีที่สุดอันดับ 1 ในเอเชียและอันดับ 7 ของโลก แต่ตนไม่อยากให้เป็นที่ 1 ของโลกและอาเซียนเรื่องความขัดแย้ง ต้องไม่เกิดขึ้นอีก อยู่ที่พวกเรา วันนี้เราเดินมาในทางที่ถูกต้องแล้ว มีแผนงาน มียุทธศาสตร์ชาติ และแผนแม่บทที่ต้องนำไปสานต่อให้เกิดความยั่งยืน ไม่ใช่พูดตรงนี้ พอใจตรงนี้แล้วจบ ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ตนเองคิดทุกวัน ทั้งเรื่องที่ทำให้เกิดประโยชน์และไม่เกิดประโยชน์ ที่หลายคนสร้างขึ้นมา ซึ่งตนก็ต้องมาแก้ไข หลายอย่างเกิดขึ้นมาเยอะแยะ ในช่วงที่ผ่านมา และต้องมีรัฐบาลต่อไปมาทำต่อให้เกิดความยั่งยืน จึงต้องมั่นใจว่ารัฐบาลต่อไปมาทำในเรื่องที่ดีและเรื่องใหม่ๆ ถ้าเขาไม่ทำก็ไม่เกิดประโยชน์ รัฐบาลหน้าต้องมีธรรมาภิบาล และสืบสานสิ่งที่ทำดีๆ เหล่านี้ไว้ อะไรที่คิดว่าไม่ดีก็ไม่ต้องทำ ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นผู้กำหนดไม่ใช่ตน ไม่ใช่ใคร และไม่ใช่เรื่องอำนาจและมาตรา 44 และในที่นี้มีใครเดือดร้อนกับตนเองและมาตรา 44 หรือไม่ เพราะตนไม่เคยไปยุ่งอะไรกับใคร มีแต่ทำให้ดีขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนพูดทุกวันและพูดทุกวันศุกร์มีทั้งฟังบ้างและไม่ฟังบ้าง แต่ก็บันทึกไว้ทั้งหมดว่าพูดและทำอะไรไปแล้วบ้าง แต่ยังดีกว่าคนที่พูดแล้วไม่ทำ และคนที่ไม่พูดแล้วยังไม่ทำอะไรเลย ซึ่งตนสามารถตรวจการบ้านของตนเองไว้ได้หมด และจะไล่ตามทุกเรื่องว่าถึงไหนแล้ว และวันนี้อยากให้ประเทศเป็นสตาร์ทอัพ แต่บางคนยังหลับใหลฝันอยู่เลย ฝันไร้สาระ ฝันแล้วไปแทงหวย มันไม่ใช่ ตนไม่เคยฝันเรื่องเหล่านี้ ไม่เคยฝันเลยว่าจะมาเป็นนายกฯ ฝันแต่ว่าทำงานตรงไหนอยู่ และต้องขอบคุณหลานๆทุกคน อย่าลืมลุงนะ เวลาพูดมาลุงครับๆ แต่พอมีเรื่องขึ้นมาลืมกันแล้วว่าเป็นลุงเป็นหลานกัน อย่างนี้ไม่ได้ ลุงไม่เคยลืม
นายกฯ กล่าวอีกว่า รับรองประเทศไทยยังไม่ตูดขาด หลายคนบอกรัฐบาลนี้ตูดขาด จะไปเก็บภาษีหมาแมว มันคนละเรื่อง มันจะได้สักกี่สตางค์หมาแมว เขาก็มีวิธีการและขึ้นอยู่กับความคิดเห็น รัฐบาลยังไม่ได้ปรับแก้เลยสักตัว แก้ปัญหาพิษสุนัขบ้า การเลี้ยงแล้วปล่อยตามวัดจะทำอย่างไร ดึงไปจนเละไปหมดทุกเรื่อง ถ้ารัฐบาลไม่ควบคุมสิ่งเหล่านี้ให้อยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ก็จะบานปลาย และจะมีเวลาไปนั่งแก้กฎหมาย แก้ พ.ร.บ.ต่างๆ ได้อย่างไร ไม่มีทางทำได้ เพราะไปยุ่งไอ้เรื่องไม่เป็นเรื่อง เรื่องที่ไม่สร้างประโยชน์
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ตนสงสัยว่ากฎหมายดีๆ ก่อนหน้านี้ออกไม่ได้ ทั้งที่กระบวนการใน สนช.มีการพิจารณา 3 วาระเหมือนสภาปกติ อาจเป็นเพราะกฎหมายดีๆ มีผลกระทบ เช่นเรื่องหมาแมวที่มีคนเลี้ยงเยอะ มีภาระ ตนจึงให้ไปดูว่าหากทำได้ ให้ขึ้นทะเบียนก่อน เพราะถ้าไม่ขึ้นทะเบียนจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นหมาใคร ค่าขึ้นทะเบียนก็ให้ถูกหน่อย จากนั้นก็ต้องเสียค่าชิฟ แต่หากค่าใช้จ่ายสูงก็ยังไม่ต้องติด อีกทั้งกองทุนในการดูแลหมาจรจัดจะเอาจากไหน เพราะต้องเอาไปรวมกันไว้สักที่ ตอนนี้ในวัดก็มีเป็นร้อย เป็นภาระของวัด หากรัฐบาลสร้างศูนย์ดูแลสุนัขจรจัดขึ้นมา จะเอางบประมาณจากไหน ต้องไปแย่งเงินคนมาให้หมาอีก เพราะงบประมาณมันมีเท่าเดิม
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีลางสังหรณ์ว่านายกรัฐมนตรีคนต่อไปหน้าตาอาจคล้ายคนเดิมนั้น หมายถึง พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ ว่า "คล้ายก็อาจไม่ใช่คนเดียวกันหรือเปล่า".