วิษณุ แจงต้องมีกฎหมายรองรับ นำกัญชามาใช้ประโยชน์การแพทย์ ยังตอบไม่ได้ใช้วิธีใด แย้ม หากแก้กฎกระทรวง-ประกาศกระทรวง-พระราชกฤษฎีกา สามารถทำได้ ไม่ถึงขั้นใช้มาตรา 44...

เมื่อวันที่ 19 ต.ค. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางการออกกฎหมายเพื่อรองรับการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ว่า ได้มีการประชุมสัมมนาผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เข้าใจว่าเมื่อจบการสัมมนา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ยุติธรรม จะสรุปข้อมูล เสนอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาว่าปัญหาเรื่องกัญชาจะทำอย่างไร หากไม่ต้องทำอะไรก็ปล่อยเฉยไป แต่ถ้าจะต้องแก้ปัญหาเพื่อให้ตรงกับข้อเรียกร้องและความต้องการของประชาชน รวมทั้งเพื่อพัฒนาการทางการแพทย์ อาจต้องออกกฎระเบียบมารองรับ มิเช่นนั้นสิ่งที่จะทำต่อไปจะผิดกฎหมาย ซึ่งตนยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่มีอะไรข้อเสนอมาถึงรัฐบาลแม้แต่วิธีเดียว

สำหรับแนวทางการออกกฎหมาย ขณะนี้มีประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่อยู่ในการพิจารณาของสภานิติบัญญัติ (สนช.) แล้ว หากแก้ไขตรงนั้นก็หมดปัญหา แต่ต้องใช้เวลานาน เพราะกฎหมายมีกว่า 100 มาตราและจะดึงส่วนใดส่วนหนึ่งออกมาก่อนไม่ได้ ทางที่สองที่สมาชิกสนช.จะเสนอให้ออกกฎหมายแยกส่วนเฉพาะเรื่องกัญชาออกมา ถ้าใช้วิธีนี้จะแก้ปัญหาได้ โดยไม่ต้องไปผูกกับประมวลกฎหมายยาเสพติด แต่ต้องใช้เวลาเช่นกัน และจะทำจริงหรือไม่นั้นไม่ทราบ ทางที่สามออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก) ซึ่งต้องดูเนื้อหาว่าเข้าข่ายว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนฉุกเฉินเพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงของชาติหรือไม่ ถ้าไม่เข้าหลักเกณฑ์เงื่อนไขก็ออกเป็นพ.ร.ก.ไม่ได้ และเรื่องนี้คิดว่ายังไม่ถึงขั้นใช้มาตรา 44

นอกจากนี้การที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอให้ใช้วิธีแก้กฎกระทรวง ประกาศกฎกระทรวง หรือพระราชกฤษฎีกาซึ่งเป็นกฎหมายลูก ตนคิดว่าน่าจะพอทำได้ไปพลางก่อน ถ้าข้อเสนอเป็นไปตามนี้จริงก็ให้ทำอย่างนั้น และหากทำในรัฐบาลนี้ได้ก็ทำ แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำหรือไม่ ต้องรอฟังจากการสัมมนาก่อนว่ามีความจำเป็นยิ่งใหญ่มหาศาลจริงหรือไม่ ถ้าจำเป็นจริง ต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งและต้องทำโดยเร็วแต่ถ้ายังไม่จำเป็นมีการชั่งน้ำหนักถ้ามีผลเสียมากกว่าได้ก็ไม่ต้องทำ

...

ส่วนการใช้กัญชาอาจต้องออกเป็นพ.ร.ก. เพราะเข้าข่ายเรื่องความมั่นคงหรือไม่นั้น ถ้ามีเพื่อควบคุมการใช้กัญชาอาจเข้าข่ายความมั่นคง แต่ถ้ามีสำหรับปลดปล่อยกัญชา อาจจะไม่ใช่ความมั่นคง.